ห้องเม่าปีกเหล็ก

ธนาคารโลกปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ (2565)

โดย คเณชา
เผยแพร่ :
65 views
 
 
ล่าสุดธนาคารโลกปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ (2565) จาก 4.1% เหลือ 2.9% เช่นเดียวกับ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ก็ปรับการคาดการณ์ลงจาก 4.5% เหลือ 3%
.
.
แล้วประเทศที่มีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยกว่าเท่าตัว ประชากรไม่ถึง 800,000 คน ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้นี้ มีดีอะไร ที่ทำให้เศรษฐกิจในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ถึง 47% มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จากรายงานเดือนเมษายน 2565 ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และครองแชมป์ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 กับตัวเลขการเติบโต 43.5% ในปี 2563 และ 19.9% ในปี 2564
.
.
คำตอบคือ น้ำมัน...ทรัพยากรธรรมชาตินอกชายฝั่งที่เพิ่งจะค้นพบไม่นานมานี้ ที่มาช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศ ในฐานะผู้ผลิตน้ำมันของโลก โดยมีปัจจัยหนุนมาจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยานขึ้นจึงทำให้กายนาได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย
.
.
ก่อนหน้านี้ในปี 2548 จีดีพี หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ของกายอานาอยู่ที่ 825 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
15 ปีผ่านไป ในปี 2563 จีดีพีดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 5,471,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ความมั่งคั่งที่ก้าวกระโดด ทำให้กายอานาพลิกบทบาทจากประเทศยากจนมาสู่ประเทศร่ำรวย
.
.
และเพื่อความไม่ประมาทจึงมีการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ที่มีความตั้งใจกันเอาไว้ว่าจะนำกำไรที่ได้จากการขายน้ำมันไปลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน อย่างการสร้างถนน โรงเรียนและโรงพยาบาล เพื่อกระจายรายได้และความเจริญ ผลประโยชน์ไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะคนบางกลุ่ม
.
.
แต่ก็ยังมีความกังวลตามมาถึงความโปร่งใสในการจัดการของรัฐ ในขณะที่ชาวประมงก็ได้รับผลกระทบจากการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง ที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล ทำให้จับสัตว์น้ำได้น้อยลง
.
.
มีคำกล่าวกันว่า ประเทศที่ร่ำรวยขึ้นมาจากทรัพยากรธรรมชาติ มักต้อง คำสาป หรือ Resource Curse ไม่สามารถรักษาพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้เท่าที่ควร เกิดปัญหาแย่งชิงทรัพยากร หรือไม่สามารถสั่งสมความมั่งคั่งเอาไว้ได้ในระยะยาว
.
.
ตัวอย่างจาก นาอูรู (Nauru) ประเทศเกาะเล็ก ๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ใกล้ ๆ กับออสเตรเลีย ที่อุดมไปด้วยแร่ฟอสเฟต ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตปุ๋ยเคมี เคยร่ำรวยอย่างมากเมื่อ 10 ปีก่อน แต่เมื่อทรัพยากรร่อยหรอลงประเทศก็กลับไปยากจนเหมือนเดิม
.
.
เวเนซุเอลา เพื่อนบ้านรุ่นพี่ของกายอานา ที่แม้จะเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนอดอยาก และเงินเฟ้อที่รุนแรง เพราะขาดการจัดการที่ดีจากรัฐ ตลอดจนปัญหาการนำเงินไปใช้กับโครงการประชานิยม
.
.
คาดกันว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า (2568) กำลังการผลิตน้ำมันจากกายอานาจะอยู่ที่ราว 800,000 บาเรลต่อวัน และหวังกันว่า กายอานาจะไม่เดินตามรอยรุ่นพี่ หากสามารถจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้ ไม่มีคอร์รัปชั่น หรือปราศจากการปกครองแบบเผด็จการ
.
.
เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ต้องดูกันยาว ๆ เหมือนกับการวิ่งมาราธอน ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเร่งจังหวะในช่วงสั้น ๆ มีตัวอย่างของประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในหลายประเทศด้วยกัน จีน ที่ยังคงความเสมอต้นเสมอปลายในการสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ คาดกันว่า หากเศรษฐกิจจีนยังคงโตได้อย่างต่อเนื่องมากกว่าปีละ 5% จีนจะแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นแท่นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้ในอีก 8 ปีข้างหน้าคือในปี 2573
.
.
นอกจากนี้ ยังมีเอธิโอเปียที่ในช่วง 5 ปีมานี้เศรษฐกิจขยายตัวได้เฉลี่ยปีละ 6.6% อันเป็นผลมาจากในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งของชนกลุ่มน้อยในประเทศ ลบภาพประเทศที่เคยแร้นแค้น ดึงเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในระบบสาธารณูปโภค พลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ปรับเปลี่ยนสถานะจากประเทศที่พึ่งพาภาคการเกษตร มาสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต ทำให้ก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
.
.
หรืออย่าง รวันดา ที่ในช่วง 5 ปีมานี้เศรษฐกิจขยายตัวได้เฉลี่ยปีละ 6.3% มีรากฐานมาจากการทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสามารถแก้ปัญหาสงครามการเมือง การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันยาวนานลงได้ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในวงกว้าง ออกแบบโครงการต่าง ๆ ช่วยลดความยากจนของประชากรลงได้
.
.
สำหรับประเทศไทย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวได้ 3.3% ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประเมิน โดยเพิ่งจะปรับเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3.2% ด้วยเหตุผลว่าการแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่คลี่คลายลง ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศในปัจจุบัน
.
.
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย เกินกรอบที่ได้มีการประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้ จากภาวะราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลต่อเนื่องไปยังราคาสินค้าต่าง ๆ และทำให้ไทยอาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในทิศทางเดียวกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งคาดกันว่าจะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่กำลังจะมาถึงนี้
.
.
 
 

คเณชา