ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 114.09 จุด จับตาผลประกอบการ-เจรจาการค้า
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (28 เม.ย.) แต่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ในขณะที่นักลงทุนรอดูความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลแรงงานและเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,227.59 จุด เพิ่มขึ้น 114.09 จุด หรือ +0.28%,
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,528.75 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.06%
และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,366.13 จุด ลดลง 16.81 จุด หรือ -0.10%
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 0.70% ตามด้วยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 0.68% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.30% และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 0.15%
หุ้นโบอิ้ง (Boeing) พุ่งขึ้น 2.44% ปิดที่ระดับ 182.30 ดอลลาร์ และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก หลังจากนักวิเคราะห์ของ Bernstein ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนในหุ้นโบอิ้งขึ้นสู่ระดับ "Outperform" จากระดับ "Market Perform" และได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นโบอิ้งสู่ระดับ 218 ดอลลาร์ จากเป้าหมายเดิมที่ 181 ดอลลาร์ หลังจากโบอิ้งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2568
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน ในขณะที่นักลงทุนรอคอยความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่การสื่อสารที่ขัดแยังกันเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาของทั้งสองฝ่ายได้ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย
ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ที่ดิ่งลงกว่า 2% ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หลายแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอะเมซอน (Amazon), แอปเปิ้ล (Apple), เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) และไมโครซอฟท์ (Microsoft)
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (Huawei Technologies) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน เตรียมทดสอบชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นล่าสุดชื่อ Ascend 910D เพื่อแข่งขันกับชิป H100 ของอินวิเดีย
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า นับจนถึงขณะนี้มีบริษัท 179 แห่งในดัชนี S&P500 ที่รายงานผลประกอบการแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้มี 78 แห่งที่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่เป็นลบ และมี 32 แห่งที่เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ที่เป็นบวก
นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมี.ค. ส่วนในวันพุธจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค.
สำหรับในวันศุกร์นี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2% ในเดือนเม.ย.