"ความรักเกิดจากคนสองคนฉันใด อาหารที่อร่อยย่อมเกิดจากเครื่องปรุงรสที่มีคุณภาพฉันนั้น"
นาทีนี้คงไม่มีหุ้นตัวใดร้อนแรงไปกว่าหุ้น XO หรือบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) อีกแล้ว แต่ความร้อนแรงและถูกพูดถึงกันบ่อยเนื่องจากราคาหุ้นที่ "ร่วง" ลงมาอย่างรุนแรงจาก 12.5 บาท เหลือเพียง 8.70 บาท ภายใน 5 วัน
ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า หุ้น XO เป็นหุ้นพื้นฐานดีหรือไม่ วันนี้เราจะมา "ส่องหุ้น" ตัวนี้กันครับ ...
XO ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายซอส เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ซึ่งคนไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรนักเนื่องจากในประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งอาหารอยู่แล้ว เครื่องปรุงรสถูกผลิตขึ้นมาจากหลายบริษัทไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังมีมาตรฐาน แบรนด์ท้องถิ่น รวมถึงแบรนด์นำเข้า แต่ถ้าใครเดินทางต่างประเทศบ่อยๆแล้วเข้าร้านสะดวกซื้อคงจะเคยได้ยินชื่อ EXOTIC FOOD อย่างแน่นอน
ชมคลิปแนะนำบริษัทได้ที่นี้
ดูจากภาพรวมแล้วตลาดอาหารมีขนาดใหญ่ประมาณ 4 แสนล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 3-5% ทุกปี ดังนั้นด้วยสภาวะอุตสาหกรรมเป็นตัวช่วยหนุนธุรกิจอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าบริษัทจะอยู่เฉยๆหวังเพียงการโตเป็นเลขหลักเดียวก็คงไม่ใช่ บริษัทมีการเพิ่มกำลังการผลิตมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นหาตลาดใหม่โดยการเปิดตลาดต่างประเทศ เพิ่มกำลังการผลิตซอสปรุงรส-น้ำจิ้ม 14,750 ตันต่อปี ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งผลให้รายได้เติบโตมากถึง 21% จากปี 2560 เรามาดูกันว่าแต่ละปีผลประกอบการเป็นอย่างไร
ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 747.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 85.84 ล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 890.32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 77.47 ล้านบาท
ปี 2560 บริษัทมีรายได้ 947.64 ล้านบาท กำไรสุทธิ 59.03 ล้านบาท
ปี 2561 บริษัทมีรายได้ 1,148.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 221.90 ล้านบาท ** โตอย่างโดดเด่น
ในปี 2561 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากซอสปรุงรส น้ำจิ้มต่างๆ คิดเป็น 79%
ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงประกอบอาหาร 11%
ผลิคภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป 6.16%
เครื่องดื่ม 1.48%
อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน 1.58%
ดูจากผลประกอบการบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ROE ระดับ 30% และ ROA แตะระดับ 27% รวมถึงอัตรากำไรสุทธิที่สูงถึง 22% ที่สำคัญบริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ต่ำมาก คือ 0.25-0.32 เท่า นั้นหมายความว่าบริษัทสามารถ "ก่อหนี้" มาลงทุนขยายการเติบโตให้กับธุรกิจได้อีกมาก
ปัจจุบัน หุ้น XO ซื้อขายกันที่ P/E 30 เท่า P/BV ที่ 6 เท่า แต่ผลประกอบการปี 2561 เติบโตอย่างโดดเด่นส่งผลให้หุ้น XO มี P/E 14 เท่า P/BV ที่ 3.9 เท่า ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า หุ้นที่เคยแพง แต่ถ้ามีการเติบโตที่มากพอ ความแพงนั้นจะถูกมองข้ามและกลายเป็นอดีตไป ..
อัตราส่วนทางการเงินสำคัญ P/E , P/BV และเงินปันผลตอบแทน
ที่มาภาพ : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่องของการปันผล ... หุ้น XO มีการปันผลระดับ 1.4% ถือว่าธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่เมื่อต้นปี 2562 บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผล 0.75 บาท/หุ้น เมื่อเทียบราคาที่ 8 บาท นั้นหมายความว่านักลงทุนจะได้อัตราที่ 8.42% ต่อปี (ยังไม่รวมครึ่งปีหลังอีก) ถือว่าเป็นอัตราปันผลที่สูงมาก เมื่อมองต่อไปบริษัทจะรักษาการปันผลระดับนี้อีกหรือไม่ เป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องคิดต่อไปครับ ...
กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบไปด้วยเจ้าของบริษัทกลุ่มจันทรัช ถือรวมๆแล้วเกิน 50% นักลงทุนรายย่อย นักลงทุนชื่อดัง เช่น นายคเชนทร์ เบญจกุล ถือ 8.05% นายวีระพงษ์ ธัม 0.5% ส่งผลให้หุ้นมี % Free float อยู่ที่ 29.51%
เมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารออกมาให้ข่าวว่า ในปี 2562 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังการเติบโตที่ 10-15% รวมถึงกำไรมีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดใหม่
== สรุปหุ้น XO ภายใน 10 ข้อ ==
1. หุ้น XO ถือว่ามีธุรกิจที่น่าสนใจ พยายามหลีกหนีตัวเองจากการแข่งขันรุนแรงในประเทศ ไปยังต่างประเทศและใช้ความเป็น "ไทยแท้" เพื่อขายชาวต่างชาติ และกระแสการตอบรับก็ดีด้วย เพราะอาหารไทยขึ้นชื่อติดอันดับโลกอยู่แล้ว
2. สภาวะอุตสาหกรรมโดยรวมโตประมาณ 5% แต่บริษัทพยายามผลักดันตัวเองมากขึ้น หนี้สินยังน้อยสามารถก่อหนี้เร่งการเติบโตได้อีก ดังนั้นการที่ผู้บริหารบอกว่าคาดหวังการเติบโตประมาณ 10-15% ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
3. ด้วยการเติบโตจากปี 2560 - 2561 ที่มากถึง 21% เป็นเรื่องยากมากที่จะรักษาการเติบโตระดับนี้ได้อีก นักลงทุนอาจจะคาดหวังการเติบโตเป็นเลข 2 หลักมากเกินไป ถ้าผลประกอบการออกมาจริงๆปรากฏว่าไม่ถึงตามที่ตลาดคาด หุ้นก็จะลงแรงได้อีก
4.สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากเครื่องปรุงรสและซอสเกือบ 80% ถือเป็นรายได้หลัก ถ้าธุรกิจประเภทนี้เกิดปัญหาขึ้นจะกระทบกับพื้นฐานหุ้นอย่างแรง ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นมีสัดส่วนรายได้เพียงเล็กน้อยอาจจะเป็นการบ่งบอกว่า ผลิตภัณฑ์อื่นแข่งขันกันอย่างรุนแรง ไม่สามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้ ราคาค่อนข้างสูง หรือว่ามีสินค้าที่ถูกกว่ามาทดแทน
5. การปันผล ดูจากตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 9% ถือว่าสูงมาก อาจจะดูผิดปกติเกินไป นักลงทุนต้องระวัง ...
6. สัดส่วนการถือหุ้นยังอยู่ในประเทศ หุ้นที่ลงทุนต่างประเทศน่าจะมีกองทุนต่างชาติหรือนักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นด้วย อย่างน้อยช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างการถือหุ้น รวมถึงคอนเน็คชั่นทางธุรกิจ
7. การมองค่า P/E และ P/BV เพื่อตีความหุ้นถูกแพง อาจจะ "ใช้ไม่ได้" เลยซะทีเดียว เพราะผลประกอบการกระโดดขึ้นมาค่อนข้างมาก จากปี 2560 ตรงนี้อาจจะต้องปรับมุมมองใหม่
8. สาเหตุที่หุ้นลงแรง เกิดจากการขึ้นอย่างรวดเร็วที่ราคา 4 บาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 ใช้เวลา 1 ปี กับ 3 เดือน ขึ้นไปที่ 12 บาท สร้างผลตอบแทนได้มากถึง 300% ภายในระยะเวลาอันสั้น อาจจะต้องมีการปรับฐานเป็นธรรมชาติของหุ้น การเทขายของนักลงทุนที่มีต้นทุนต่ำ
9. สรุปสิ่งที่ชอบ คือ ธุรกิจเครื่องปรุงรสอาหารเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ การส่งขายต่างประเทศโดยใช้ความเป็นไทยแท้ มาร์จิ้นดี-ขายของได้กำไรสูง หนี้สินต่ำขยายการลงทุนได้อีกมาก
10. สรุปสิ่งที่ไม่ชอบ คือ สัดส่วนรายได้กระจุกตัว กลุ่มผู้ถือหุ้นกระจุกตัว การปันผลที่สูงผิดปกติ ราคาหุ้นที่พุ่งสูงแล้วต้องรอการปรับฐาน
... นี้ก็เป็นการมองหุ้น XO แล้วเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรบ้างกับหุ้นตัวนี้ แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลยครับ