BGRIM เผชิญกับอุปสรรคในระยะสั้น
แนวโน้มไตรมาส 4/2566 เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 4/2566 จะเพิ่มขึ้น YoY จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/2565 แต่ลดลง QoQ สาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรในส่วนของ IU ที่ลดลง (25% ของรายได้) และค่า Ft ลดลงเป็น 0.20 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทียบกับ 0.68 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในไตรมาส 3/2566
ความท้าทายยังคงมีอยู่ในปี 2567 คาดว่า BGRIM จะยังต้องเผชิญกับความท้าทายในปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจากข้อกังวลหลัก 3 ประเด็น ได้แก่
1) นโยบายค่า Ft ที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่ที่ 0.20 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในปี 2567 ประกอบกับต้นทุนก๊าซที่คาดยังไม่ลดอย่างมีนัยฯ จนกว่า PTTEP จะเร่งการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเอราวัณในไตรมาส 2/2567
2) สภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ย/อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลายาวนานขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทฯ และอัตราคิดลดที่ใช้ในการประเมินมูลค่าบริษัทฯ
3) ความเป็นไปได้ในการขายหุ้นบางส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซออกไป เพื่อนำเงินมาลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรในระยะสั้นของบริษัทฯ ลดลงได้
“ซื้อ” และลด TP ลงเป็น 31.50 บาท เราเปลี่ยนนักวิเคราะห์หุ้น BGRIM เป็นคุณศึกษิต ว่องวาณิช โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ลด TP อิงด้วยวิธี SOTP จาก 50.00 บาท เป็น 31.50 บาท เพื่อสะท้อน
1) การปรับลดประมาณการกำไรของเรา
2) เพิ่มสมมติฐาน WACC จาก 3.4% เป็น 5.8% โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของ equity beta จาก 0.29 เป็น 1
