หุ้นไทยฟื้นตัวแรงปิดบวก 11.80 จุด คลายกังวลปัญหาเอเวอร์แกรนด์ ลุ้นประชุมเฟด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปิดวันนี้ (21 ก.ย.) ที่ระดับ 1,614.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 83,910.37 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบช่วงต้นชั่วโมงซื้อขายและกลับมาบวกเกือบทั้งวัน ปรับขึ้นทำระดับสูงสุด 1,618.19 จุด และระดับต่ำสุด 1,591.81 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยกลับมาฟื้นตัวขึ้นหลังวานนี้ปรับตัวลงแรง ส่วนหนึ่งมองว่า ปัญหาหนี้ไชน่า เอเวอร์ แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของจีนกระทบระยะสั้นแต่ปัญหาไม่ได้ถึงขนาดลุกลามเป็นวิกฤต เหมือนเลห์แมน บราเธอร์ส
ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะทราบผลในเช้าวันที่ 23 ก.ย.ตามเวลาของไทย โดยตลาดคาดว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE Tapering) มองว่าอาจไม่เป็นลบ ซึ่งขึ้นกับขนาดวงเงินที่ปรับลดลงซึ่งตลาดคาดปรับลดลง 2 หมื่นล้านเหรียญ ถ้าออกมาน้อยกว่าที่คาดก็เป็นบวกกับตลาดเพราะเป็นการส่งสัญญาณว่ากว่าจะปรับลดวงเงิน QE ให้หมดก็ต้องใช้เวลากว่าที่จะเข้าสู่การปรับขึ้นดอกเบี้ย จึงทำให้มีบรรยากาศการลงทุนเป็นบวก
แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ย.) นายกิจพณ คาดว่ายังมีโอกาสฟื้นต่อ เพราะตลาดรับรู้ข่าวปัญหาหนี้เอเวอร์ แกรนด์แล้ว และการประชุมเฟดไม่น่าจะมี surprise คาดว่าหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มประกันได้รับปัจจัยบวกจากการปรับลด QE รวมทั้งรัฐบาลได้ปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ก็ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร(Bond Yield) ทั้งของไทยและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี SET ต้องยืนเหนือระดับ 1,620 จุดให้ได้ ถ้ายืนไม่ได้มีโอกาสลงไปต่ำกว่าที่ 1,585 จุด ให้แนวต้านที่ 1,620-1,627 จุด แนวรับที่ 1,605 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,006.48 ล้านบาท ปิดที่ 498.00 บาท ลดลง 58.00 บาท
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,103.35 ล้านบาท ปิดที่ 107.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,271.19 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,139.48 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
- AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,105.96 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท