‘ตระกูล ป.’ รอก่อน...ใจเย็นๆ
>> ในที่สุดเดือนเมษาฯ ผ่านไป หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่เดือนแห่งการขาย แล้วพฤษภาคมนี้ก็จะเป็นเดือนตัดสินว่าใครจะอยู่หรือใครจะไป...แบบที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Sell in May and Go Away นั่นล่ะค่า เพราะจากนี้เป็นต้นไปก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการแจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถึงช่วงเวลาที่จะได้รู้ว่าใครจะมีกำไรหรือขาดทุนกันแล้วค่ะ
>> เริ่มต้นเรื่องด้วยข่าวดีของ “เจ๊แตง” ชญานี โปขันเงิน ที่ทางศาลปกครองกลาง ได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งลงโทษของ สำนักงาน ก.ล.ต ในกรณีพักการให้ความเห็นชอบการเป็นบุคลากรในตลาดทุน จากกรณีที่ได้ถูก ก.ล.ต.สั่งลงโทษพักการเป็นบุคลากรในตลาดทุนเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2560-3 สิงหาคม 2561 จากการที่ได้เข้าให้ถ้อยคำแก่สำนักงาน ก.ล.ต ในฐานะพยาน ในกรณีที่สำนักงาน ก.ล.ต ดำเนินการตรวจสอบ นายสาคร สุขศรีวงศ์ ในข้อหาชักชวนบุคคลอื่นให้ซื้อหุ้น BSEC โดยอาศัยข้อมูลภายใน และทางสำนักงาน ก.ล.ต พิจารณาว่า ให้การขัดต่อความเป็นจริง มีเจตนาเพื่อช่วยเหลือปกปิดบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อช่วยนายสาคร โดยศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่าการออกคำสั่งดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสั่งเพิกถอนคำสั่งโดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง เฮ้อ...หมดเคราะห์หมดโศกซะที แบบนี้ “เจ๊แตง” คงต้องไปทำบุญใหญ่สักที่แล้วล่ะค่า
>> แหม...พอราคานํ้ามันดิบในตลาดโลกเริ่มเห็นแววว่า จะกลับเข้าที่ หุ้นแก๊งตัว ป. ก็เริ่มออกอาการแรงดีกันอีกแล้วค่า ไม่ว่าจะเป็น PTT PTTEP PTTGC TOP หรือแม้แต่ IRPC นี่ก็พากันวิ่งกันใหญ่ โดยเฉพาะทาง PTTEP รายนี้ดูเหมือนว่าจะออกตัวแรง...ขยันวิ่งกว่าใคร แต่เฉพาะ PTTEP ตัวเดียวกำไรลดลงไปเกือบๆ 40% นะคะ...แล้วแบบนี้จะยังมีนักลงทุนหน้าไหนอยากที่จะเกาะกระแสราคานํ้ามันดิบอยู่อีกหรือเปล่าน้า เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์บอกเลยว่าไม่ได้มีแต่ PTTEP แค่เพียงเจ้าเดียวที่กำไรลดลงนะคะ งานนี้เดี๊ยงกันครบทั้งแก๊ง...ถ้าใครอยากจะได้ของดีแบบลดราคา อยากจะขึ้นขบวนรถผ้าป่าก็เอาไว้รอจังหวะดีๆ ก็น่าจะพอได้นะคะ แต่ตอนนี้ต้องใจเย็นๆ รอก่อนค่า
>> วกมาทางการบินไทย (THAI) สายการบินแห่งชาติที่ต้องใช้เงินของคนทั้งชาติในการอุ้มไม่ให้เจ๊ง หลังจากที่เกิดมาได้ตั้งกว่า 60 ปี แต่อาการเจ๊งที่ว่าก็มาออกอาการเมื่อกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา ..เอาเป็นว่าไม่คุยเรื่องเก่าๆ แล้วค่ะ เพราะว่าแผนฟื้นฟูฉบับใหม่จะให้ THAI กู้เงิน 5 หมื่นล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้คํ้าประกันเงินกู้ แล้วในขณะเดียวกันก็จะแตกบริษัทออกเป็น 5 สายงาน ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์, บริษัทครัวการบิน, บริษัทบริการภาคพื้นดิน, บริษัทที่ดูแลฝ่ายช่าง และบริษัทที่ดูแลฝ่ายคลังสินค้า โดยให้แต่ละส่วนงานบริหารงานแบบเอกเทศ โดยมีการบินไทยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของแต่ละบริษัท แล้วในขณะเดียวกันก็จะยกเลิกการขายตั๋วโดยสารผ่านระบบเอเยนต์โดยใช้ระบบออนไลน์แทน พอเจ๊เมาธ์เห็นแผนฟื้นฟูแล้วก็ดูเหมือนว่าน่าจะดูดี แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านี้ ก็ควรจะลดโคตรสวัสดิการแบบตลอดชาติลงไปด้วยนะคะ ถ้าทำแบบนี้ได้ ...เจ๊รับรองว่าการบินไทยเจริญแน่นอนค่า
>> ไปทางที่ประชุมผู้สามัญผู้ถือหุ้น SIMAT กันอีกสักที งานนี้เจ๊ได้ข่าวว่ามีกลุ่มผู้ถือหุ้นที่อยากได้รู้เรื่องเงินที่ยังไม่ได้เคลียร์ว่าจะเอายังไงจนถึงขนาดยอมลงทุนซื้อหุ้น ...แล้วโร่มาร่วมประชุมเพื่อจะได้เจอผู้บริหารซึ่งๆ หน้า จะได้ถามว่าคุณพี่จะเอายังไง แต่สุดท้ายพอได้จังหวะถามก็โดนปัดว่าให้ตามไปหลังเวที แหม...ฝ่ายผู้รับเหมาก็เบาใจว่าเจอตัวเป็นๆ คงจะได้จบเรื่องได้เงินซะที แต่ที่ไหนได้พอจบประชุมกลับไม่เห็นมีเงาของผู้บริหารสักราย...สอบถามเจ้าหน้าที่ก็รู้แค่ว่าไปแล้วแค่นั้นค่ะ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ล่ะเจ้าค่า
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก