ห้องเม่าปีกเหล็ก

ไหวไหม Galaxy S8 ?

โดย OttO
เผยแพร่ :
76 views

ไหวไหม Galaxy S8 ? ดึงซัมซุงพ้นโคม่า Note 7

 

ไหวไหม Galaxy S8 ? ดึงซัมซุงพ้นโคม่า Note 7
Galaxy S8 มีชื่อรหัสเรียกเป็นการภายในว่าดรีม (Dream)
        แจ้งเกิดแล้วสำหรับ 'กาแล็กซี่ เอส 8' (Galaxy S8) สมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่ล่าสุดของซัมซุง สิ่งที่หลายคนพูดถึง S8 คือการเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ซัมซุงเปิดตัวถัดจาก 'โน้ต 7' (Note 7) ซึ่งมีปัญหาแบตเตอรี่ระเบิดจนต้องหยุดจำหน่ายไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แน่นอนว่า S8 คือความหวังสำคัญที่ซัมซุงหวังใช้เป็นตัวดึงให้บริษัทกลับมาครองแชมป์อีกครั้ง หลังจากเสียบัลลังก์ให้คู่แข่งอย่างแอปเปิล (Apple) ไป
       
       จุดที่น่าสนใจจากการเปิดตัว S8 ครั้งนี้ไม่ได้อยู่ที่คุณสมบัติเครื่องเท่านั้น แต่อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงจากกรณี Note 7 ระเบิดด้วย หายนะนี้มีผลโดยตรงกับ S8 และอาจจะมีผลกับทั้งอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนด้วย โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานการทดสอบแบตเตอรี่
       
       ***รุ่นแรกหลังระเบิด
       
       Galaxy S8 ถูกเปิดตัวในนามสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่รุ่นล่าสุดนับตั้งแต่การหยุดจำหน่าย Note 7 ตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่หลายสายการบินออกประกาศห้ามนำขึ้นเครื่องบินโดยเด็ดขาด
       
       Galaxy S8 มีชื่อรหัสเรียกเป็นการภายในว่าดรีม (Dream) จากการเปิดเผยในงานเปิดตัวที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ตัวเครื่องมี 2 ขนาดให้เลือกคือรุ่นหน้าจอ 6.2 นิ้วและ 5.8 นิ้ว กำหนดการจำหน่ายคือ 21 เมษายนนี้ เบื้องต้น บริษัทสื่อสารในสหรัฐฯประกาศราคาจำหน่าย S8 รุ่นเล็กที่ 700 เหรียญสหรัฐหรือราว 24,000 บาท และ S8 รุ่นใหญ่ราคาเริ่มที่ 840 เหรียญ หรือประมาณ 29,000 บาท
       
       ดี.เจ.โกห์ ประธานธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารพกพาของซัมซุง ยืนยันว่าได้ดำเนินการเต็มที่ในการเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยชูความสามารถของระบบผู้ช่วยส่วนตัวใหม่ 'บิกซ์บี' (Bixby) ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยสั่งการ S8 ได้สไตล์เดียวกับสิริ (Siri) ของไอโฟน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติวิเคราะห์ใบหน้า ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ได้เมื่อมองไปที่เครื่อง
       
       ซัมซุงยังเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกแบบเครื่อง โดยดีไซน์ตัวเครื่องแบบไร้กรอบจอ ทำให้สามารถเพิ่มขนาดหน้าจอได้บนตัวเครื่องขนาดเดิม
       
       ในส่วนของหน้าจอ ซัมซุงสร้างสัดส่วนใหม่บนจอสมาร์ทโฟนขึ้นมาด้วยสัดส่วน 18.5 : 9 ขณะเดียวกันก็ตัดปุ่มโฮมทิ้งไป และหันมาใช้จอแบบรับแรงกดแทน ซึ่งเมื่อกดบริเวณปุ่มโฮมเสมือนก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกดลงไปบนปุ่มจริง ๆ
       
       ในส่วนนี้ ซัมซุงชูจุดเด่นในแง่ของพื้นที่การใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทั้งในแนวตั้งเมื่ออ่านข้อมูลต่างๆทำให้เลื่อนจอน้อยลง ส่วนในแนวนอนเมื่อใช้รับชมวิดีโอก็จะให้ขนาดที่เต็มจอมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้สามารถเลือกขยายหน้าจอของวิดีโอที่เล่นได้
       
       นอกจากนี้ ก็ยังใส่โหมดการใช้งานแบบ Advanced Multi Screen มาให้ใช้ จากเดิมที่ทำได้เพียงการแบ่งจอพร้อมปรับขนาด ก็เพิ่มเป็นการเลือกแสดงผลเฉพาะบางส่วนของจอคู่กับหน้าจอหลักแทนได้ ช่วยให้สามารถทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกันได้สะดวกขึ้น
ไหวไหม Galaxy S8 ? ดึงซัมซุงพ้นโคม่า Note 7
        ***Bixby ไม่รับภาษาไทย
       
       จากข้อมูลก่อนหน้านี้ ที่ซัมซุงมีการเปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby พอมาใน Galaxy S8 ก็ถูกนำมาใช้งานทันที ด้วยการเพิ่มปุ่มกดเรียกใช้งาน Bixby มาให้ทางฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง ใต้ปุ่มปรับระดับเสียง ช่วยให้สามารถเรียกใช้งานได้สะดวก
       
       ความสามารถหลักของ Bixby มีด้วยกัน 4 ส่วนคือ 1.การค้นหาข้อมูลจากรูปภาพ (ทำงานร่วมกับโหมดกล้อง) 2.ใช้แจ้งเตือนข้อมูลสำคัญต่างๆ 3.มัดรวมแอปพลิเคชัน และข้อมูลต่างๆมาไว้ในหน้าจอแสดงผลเดียว และ 4.การใช้คำสั่งเสียงช่วยลดขั้นตอนในการกดสั่งงาน เพียงแต่ยังไม่รองรับการใช้งานภาษาไทย ทำให้ต้องคุยกับ Bixby เป็นภาษาอังกฤษไปก่อน
       
       สำหรับประเด็นระบบซิเคียวริตี้ อย่างที่ทราบกันว่าใน Note 7 ซัมซุงนำระบบสแกนม่านตา (Iris Scaner) มาใช้งานบนสมาร์ทโฟน โดยระบุว่าเป็นรูปแบบการพิสูจน์ตัวตนที่ปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นใน S8 ก็มีการนำ Iris สแกนมาให้ใช้งานกัน พร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่ย้ายไปอยู่ด้านหลังข้างเลนส์กล้องแทน
       
       ระบบสแกนลายนิ้วมือและสแกนม่านตาของซัมซุงจะถูกประยุกต์มาให้ใช้งานร่วมกับระบบน็อกซ์ (Samsung Knox) ระบบที่แยกการทำงานของเครื่องออกมา, Secure Folder พื้นที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล, Samsung Pass ไว้ใช้เก็บบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านต่างๆ รวมถึงการชำระเงินผ่าน Samsung Pay ด้วย
       
       ในแง่สเปกของเครื่อง Galaxy S8 จะยังคงเป็นสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงในตลาด ด้วยการนำหน่วยประมวลผล Exynos 8895 ที่เป็น Quad-Core 2.3 GHz มาใช้งานคู่กับ RAM 4 GB และ ROM 64 GB ที่สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดเพิ่มเติมได้
       
       ส่วนเรื่องของการเชื่อมต่อ S8 จะรองรับ 4G LTE ที่ใช้งานได้ทั้ง 3CA รวมถึง 4×4 MIMO ทำให้สามารถจับเครือข่าย 4G ประสิทธิภาพสูงที่โอเปอเรเตอร์ในบ้านเราลงทุนไปให้ได้ใช้งานกัน รวมถึงด้านการเชื่อมต่ออื่นๆอย่าง WiFi Dual-Band บลูทูธ 4.2 ที่สามารถเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธได้พร้อมกัน 2 อัน รวมถึง NFC และ GPS ตามมาตรฐาน
       
       สุดท้ายคือในส่วนของกล้อง Galaxy S8 ยังคงใช้กล้อง Dual-Pixel ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.7 เช่นเดิม โดยรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ส่วนกล้องหน้าเปลี่ยนมาใช้เป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แบบออโต้โฟกัสแล้ว และใส่โหมดเลือกจุดโฟกัสให้กล้องหน้าเพิ่มด้วย
ไหวไหม Galaxy S8 ? ดึงซัมซุงพ้นโคม่า Note 7
แฟ้มภาพ Note 7 ระเบิด
        *** รุ่นแรกที่ผ่านด่านตรวจแบตเตอรี่ 8 อรหันต์
       
       ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซัมซุงเปิดตัวกระบวนการทดสอบแบตเตอรี่ 8 ขั้นตอนที่จะเป็นเครื่องการันตีว่าแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนซัมซุงจะไม่ระเบิดซ้ำรอย ปรากฏว่า Galaxy S8 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ต้องผ่านกระบวนการทดสอบแบตเตอรี่เหล่านี้ ทั้งการตรวจด้วยระบบเอ็กซ์เรย์ การทดลองชาร์จแบตเตอรี่เกินเวลา และการจำลองสภาพแวดล้อมอื่นที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดของแบตเตอรี่
       
       อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าไม่เพียงซัมซุง ค่ายอื่นก็จะเปิดด่านตรวจแบตเตอรี่หลายอรหันต์เช่นกัน ถือเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับผู้บริหารซัมซุงที่เคยบอกว่า นี่ถือเป็นโอกาสที่จะยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสินค้าที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วโลก เรียกว่าต้องขอบคุณ Note 7 ที่ระเบิดจนทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง
       
       เจอร์แบรนด์ ซีเดอร์ (Gerbrand Ceder) ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์วัสดุแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย อธิบายว่ากระบวนการทดสอบแบตเตอรี่ในปัจจุบัน ไม่เพียงพอต่อการตรวจจับปัญหาโอกาสระเบิดของแบตเตอรี่ ดังนั้นวิศวกรจำนวนมากจึงให้ความสนใจกับข้อมูลทั้งที่ซัมซุงเปิดเผยแล้วและจะเปิดเผยอีกในอนาคต ทำให้มีโอกาสสูงมากที่ค่ายสมาร์ทโฟนอื่นจะดำเนินกระบวนการทดสอบในลักษณะเดียวกัน
ไหวไหม Galaxy S8 ? ดึงซัมซุงพ้นโคม่า Note 7
ดี.เจ.โกห์ ประธานธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารพกพาของซัมซุง
        แต่ประเด็นที่ยังเป็นคำถามคือ หากทดสอบแล้วพบว่า 1 ใน 100,000 เครื่องเกิดพบปัญหาแบตเตอรี่ระเบิด บริษัทจะดำเนินการอย่างไร จุดนี้สะท้อนกลับมาที่มาตรฐานเดิม นั่นคือบริษัทจะวัดจาก 'ความเสี่ยงที่รับได้' หรืออัตราความผิดพลาดในระดับน้อยซึ่งก็อาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกระเบิดหูฉีก หรือ หน้าเสียโฉมได้อยู่ดี
       
       สำหรับซัมซุง บริษัทออกมาเปิดเผยว่าได้จัดวิศวกรกว่า 700 รายเพื่อตรวจสอบหาความผิดพลาดที่ทำให้ Note 7 เกิดระเบิด ขั้นตอนตรวจสอบดำเนินการที่โรงงาน 4 แห่งในเกาหลีใต้ เวียดนาม และจีน ทดสอบทั้งสิ้น 200,000 เครื่องและแบตเตอรี่เดี่ยวมากกว่า 30,000 ชิ้น แต่ไม่เปิดเผยข้อมูลเชิงสถิติที่พบระหว่างทดสอบ ระบุเพียงว่าพบความผิดพลาดในชั้นเซลล์ของแบตเตอรี่ที่ทำให้เกิดการกดทับและลัดวงจร
       
       ไม่ว่าอย่างไร บทสรุปของ Galaxy S8 ก็คือการเป็นสมาร์ทโฟนที่สำคัญที่สุดของซัมซุงในช่วง 10 ปีนี้ ท่ามกลางทุกสายตาจดจ้องที่พร้อมจะพูดถึงข่าวการเรียกคืนของ Note 7 คู่ไปกับ S8 ตลอดเวลา ทั้งหมดนี้คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าพาดหัวตัวใหญ่ของข่าวซัมซุงในอนาคตจะออกมาในแง่ลบหรือบวก ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย Note 7 หรือไม่

 

 

ทีมา..โดย MGR Online  


OttO