ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องอนาคต 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีก

โดย พายุ
เผยแพร่ :
311 views

ส่องอนาคต 3 หุ้นกลุ่มค้าปลีก ราคาหุ้นน่าสะสม รับผลงานฟื้น!

 

หุ้นกลุ่มค้าปลีก กำลังมีปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันผ่านจุดสูงสุด หนุนต้นทุนลดลง และกำลังซื้อเพิ่มขึ้นหนุนรายได้ โดยนักวิเคราะห์ออกมาบอกว่า ทิศทางดังกล่าวหนุนหุ้นเด่นกลุ่ม CPALL, HMPRO, MAKRO ต่อเนื่อง และคาดช่วยให้เห็นภาพ Outperform ได้ต่อ


สะท้อนจากมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นในกลุ่ม Commerce ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันผ่านจุดสูงสุด หนุนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของกลุ่ม พร้อมดึงกำลังซื้อกลับมา บวกกับ การบริโภคในประเทศที่เห็นสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องจากหลากหลายปัจจัยชี้นำ คาดช่วยให้เห็นภาพ Outperform ได้ต่อ


โดยราคาน้ำมันดิบที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว คาดช่วยภาระต้นทุนค่าขนส่งของหุ้นค้าปลีก รวมทั้งเงินเฟ้อที่จากนี้เป็นภาพเพิ่มขึ้นในระดับกลาง และไม่อยู่ในระดับที่เร่งตัวมากไป ถือเป็นบวกต่อกลุ่ม โดยจะหนุนยอดขายจากราคาขายสินค้าที่ค่อยๆ ปรับขึ้น และกำลังซื้อลูกค้ายังพอซับได้ จะช่วยให้เห็นภาพมาร์จิ้นในรูปเม็ดเงินของกลุ่มมากขึ้นโดยอัตโนมัติ


ประกอบกับภาระค่าพลังงานของลูกค้าที่ลดลง ผสานกับดัชนีชึ้นำการบริโภค CCI ฟื้นตัว 2 เดือนต่อต่อกัน จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ การจับจ่ายดีขึ้น ขณะเดียวกันกำลังซื้อนักท่องเที่ยวกำลังกลับมา โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มสูงกว่าที่รัฐฯและตลาดคาดอย่างต่อเนื่อง (ททท.ปรับคาดการณ์นักท่องเที่ยวปีนี้สู่ระดับ 12 ล้านราย)  จะหนุนรายได้อีกด้านหนึ่ง และประมาณการฝ่ายวิจัยและตลาดมีโอกาสที่เห็น Upside อย่างมีนัยฯ หากรายได้กลับมาฟื้นเด่นในครึ่งหลังของปี 65 ตามที่ทีมกลยุทธ์คาด จะหนุนมาร์จิ้นขยายตัวด้วยอีกส่วนด้วย (ความประหยัดต่อขนาด)


สำหรับกลุ่ม Commerce เป็นกลุ่ม Valuation ยังอยู่ในโซนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ Forward PER ปัจจุบันอยู่ราว 30 เท่า เป็นโซนล่างของกรอบปกติที่ซื้อขาย 30-35 เท่า จึงยังเป็นโซนที่น่าสนใจลงทุน โดยหุ้นเด่นในกลุ่มให้เน้นไปที่หุ้นที่ Underperform มากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา

HMPRO (ราคาเป้าหมาย 18.2 บาท) ราคาหุ้นต่ำกว่าระดับ pre-COVID ทั้งที่กำไรปี 65 จะกลับสู่ระดับก่อน COVID เร็วเป็นลำดับต้นกลุ่ม Reopening

CPALL (ราคาเป้าหมาย 72 บาท) ราคาตอบรับผลประกอบการน่าผิดหวัง ขณะที่ภาพครึ่งหลังปีนี้จะฟื้นตัวชัดเจน Valuation ระยะกลาง PER23 มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยราว 30%

MAKRO (ราคาเป้าหมาย 43 บาท) ราคาตอบรับผลประกอบการน่าผิดหวัง ขณะที่ภาพครึ่งหลังของปีนี้ จะฟื้นตัวชัดเจน และโครงสร้างธุรกิจระยะยาวพร้อม Scale Up ทั้งการขยายสู่ต่างประเทศและการค้าออนไลน์ Valuation ระยะกลาง PER’23 มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยราว 30%

 


สำรวจปัจจัยพื้นฐาน

นักวิเคราะห์ค่ายดังกล่าว เปิดเผยว่า CPALL อยู่ในจุดที่ผลประกอบการกำลังฟื้นตัวทั้ง SSSG คาดครึ่งหลังปีนี้บวก Double digit จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปิดเมืองและท่องเที่ยวฟื้นตัวและเปิดสาขาใหม่ทั้งปี 700 แห่ง รวมถึง บริการใหม่ๆที่ช่วยเพิ่มทั้งรายได้และอัตรากำไร (Delivery, ตู้กดสินค้า, ฯลฯ) มองกำไรครึ่งหลังของปีนี้ยังเติบโตดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรปี 65 คาดที่ 1.4 หมื่นล้านบาท โต 8% ส่วนปี 66 คาด 2.1 หมื่นล้านบาท โต 56% ทั้งจาก 7-11 และ MAKRO * Lotus ฟื้นตัวและคาดหวัง Synergy เกิดขึ้น หลังปีนี้ปรับโครงสร้างทั้ง การจัดการและด้านการเงิน


ทั้งนี้มองหุ้น Laggard ตลาดและเป็นโซนซื้อที่ดี บวกกับน้ำมันปรับลง และเงินเฟ้อผ่านจุดพีค ผสานเนื้อในเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว จากเปิดเมืองเต็มรูปแบบและการท่องเที่ยว SSSG ฟื้นตัว ช่วยหนุนกำลังซื้อ และชอบภาพระยะยาวกลุ่มที่เป็นรายใหญ่ทั้งร้านค้าปลีก ค้าส่งในเกือบทุก Format ของโมเดิร์นเทรด


HMPRO คาดกำไรไตรมาส 3/65 โตเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานต่ำ เบื้องต้น SSSG ก.ค.กลับมาบวกกว่า 10% และสูงกว่ายอดขายเดือน มิ.ย. และเริ่มเปิดสาขาใหม่จากครึ่งปีแรกไม่มีเปิดสาขาเพิ่ม อีกทั้งทิศทางอัตรากำไรยังเป็นขาขึ้นตามสัดส่วนสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ และอำนาจต่อรองที่เพิ่มขึ้นจากรวมกิจการโฮมโปรและเมก้าโฮมเข้าด้วยกัน โดยคาดกำไรปีนี้จะกลับมาเหนือโควิดอีกครั้ง โดยมองหุ้น Laggard ตลาดและเป็นโซนซื้อที่ดี น้ำมันปรับลง และเงินเฟ้อผ่านจุดพีค ผสานเนื้อในเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากเปิดเมืองเต็มรูปแบบและการท่องเที่ยว SSSG ฟื้นตัว ช่วยหนุนกำลังซื้อ


MAKRO เป็นปีแห่งการปรับโครงสร้างทั้งรีแบรนด์, ค่าใช้จ่าย IT, การเงิน และการรวม LOTUS ภายใต้เศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว ทำให้แนวโน้มระยะสั้นครึ่งหลังของปี 65 คาดยังดีและเริ่มฟื้นตัว เพิ่มทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากครึ่งปีแรกโดย SSSG เดือนก.ค.ดีขึ้น โดยค้าส่ง บวก 7-8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ใกล้เคียงไตรมาส 2/65) และค้าปลีก SSSG กลับมาบวก จากติดลบ.ในไตรมาส 2/65 และคาดกำไรจะสูงสุดในไตรมาส 4/65 และคาดหวัง Synergy กับ Lotus ทยอยเห็นผล (เป้าลดค่าใช้จ่าย 2.7 พันล้านบาทในปี 66) หนุนกำไรปี 66 ฟื้นแรง 1.5 หมื่นล้านบาท โต 73%จากปีก่อน โดยมองหุ้นเป็นโซนสะสมที่ดี และปัจจัยลบอยู่ในราคาหุ้นมากแล้ว และ Laggard กลุ่ม

 

 


พายุ