SET แกว่งตัว แนะ 3 หุ้นเด่น

SET แกว่งตัว หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐฯพุ่ง แนะ 3 หุ้นเด่น รับต้นทุนพลังงานลดลง

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบ 1,375 - 1,395 จุด โดยดัชนีถูกแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯปรับตัวขึ้น หลังประธาน FED ย้ำไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งโดยล่าสุดดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดอยู่ที่ 53.4 อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงหนุนจากหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวโดยเฉพาะกลุ่มงบไตรมาส 4/66 เติบโตจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้


ด้านกลยุทธ์การลงทุน Selvectie buy ในหุ้นรับอานิสงส์ต้นทุนพลังงานลดลงจากการปรับ Pool gas GULF GPSC BGRIM ,ไทย-จีนลงนามฟรีวีซ่ามีผล 1 มี.ค.67 AOT AAV BA CENTEL ERW MINT SPA และแนวโน้มไตรมาส 4/66 เติบโต BDMS BCH AOT WHA CPALL CPAXT BJC CBG ITC AAI AUCT PLANB SABINA MC SISB MASTER SNNP SPA MINT 


ขณะที่หุ้นแนะนำวันนี้ PLANB (ปิด 8.70 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ทำสถิติสูงสุดใหม่ประมาณ 280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน และ 18% จากช่วงเดียวกัน ด้วย U rate ที่เพิ่มขึ้น ทั้งปีคาดกำไรสุทธิโต 30% และโตต่อเนื่องอีก 31% ในปีนี้


SABINA (ปิด 28 ซื้อ/เป้า 33 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่  122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน และ 15% จากช่วงเดียวกัน ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังเข้า High season ของธุรกิจแนวโน้มไตรมาส 1/67 โตต่อเนื่องจากผลบวกของมาตรการ Easy eReceipt, มีนโยบายจ่ายปันผล 100% ให้ Dividend yield 5-6%ต่อปี


สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้ เงินเฟ้อไทยเดือน ม.ค. ติดลบมากสุดในรอบ 35 เดือน แต่มองเป็นปัจจัยชั่วคราว ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) ของไทยเดือน ม.ค. ลดลงสู่ระดับ -1.1% จาก -0.83% ในเดือน ธ.ค. และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ -0.82% นับเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 35 เดือน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ลดลงสู่ระดับ 0.52% จาก 0.58% ในเดือน ธ.ค.


ADVANC ประกาศงบไตรมาส 4/66 และตามด้วย INTUCH ในวันพรุ่งนี้ โทนเป็นบวก โดยคาดว่า ADVANC จะมีกำไรปกติประมาณ 7.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 16% จากช่วงเดียวกัน และคาดปันผลครึ่งปีหลังประมาณ 4.6 บาท ให้ Dividend yield 2%, ส่วน INTUCH ประกาศงบพรุ่งนี้คาดมีกำไรปกติ 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และ 14% จากช่วงเดียวกัน คาดปันผลครึ่งปีหลัง 1.73 บาทต่อหุ้นให้ Dividend yield ประมาณ 2.3%


สุดท้ายคาดแบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม จับตาคาดการณ์ GDP ปี 23 และ 24 แม้อัตราเงินเฟ้อของไทยจะติดลบแต่เป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวจึงเป็นไปได้สูงที่แบงก์ชาติจะเลือกคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมเพื่อรอประเมินทิศทาง ศก. ในช่วงครึ่งปีแรกก่อน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 66 และ 67 ว่าจะมีการปรับลดในทิศทางเดียวกับ ก.การคลังหรือไม่ (มีโอกาสปรับลด หากปรับลดเยอะเป็น Sentiment ลบกดดันตลาด)