โดย อิคคิวซัง
เผยแพร่ : 
113 views3 หุ้นเด่นกลุ่ม REIT
LHSC, BAREIT, CPNREIT
แม้กำไรปกติรวมจะเพิ่มขึ้น (+2.6% YoY) แต่กำไรหลักรวมต่อหน่วยไตรมาส 4QCY67 ลดลง 1.6% YoY จากฐานทุนที่สูงขึ้น
ด้วยอัตราค่าเช่าที่มั่นคงและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เราคาดว่ากลุ่มธุรกิจนี้จะแสดงให้เห็นการเติบโตที่เสถียรทั้งด้านกำไรหลักและผลตอบแทนในปี 2568 เช่นกัน
คงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจนี้ และเลือก BAREIT LHSC และ CPNREIT เป็นหุ้นเด่นของเราจาก CAGR 3 ปีของ DPU และ IRR ที่แข็งแกร่งรวมถึง WALE ระยะยาว
Highlight Investment
สรุปผลประกอบการไตรมาส 4QCY67 กลุ่ม REIT and IFF จำนวน 17 กองภายใต้การวิเคราะห์ของเรารายงานกำไรปกติรวมไตรมาส 4QCY67 ที่ 1.13 หมื่นลบ. (+2.6% YoY และ +4.8% QoQ) และจากการที่มีฐานทุนใหญ่ขึ้น core EPU จึงอยู่ที่ 0.22 บาท (-1.6% YoY และ +4.4% QoQ) โดย core EPU ที่ลดลงเชิง YoY มาจาก Retail REIT (ALLY IMPACT CPNREIT และ AXTRART) ขณะที่ core EPU ที่เติบโตเชิง QoQ มาจาก Power Plant IFF (EGATIF และ SUPEREIF) Transport IFF (BTSGIF) และ Industrial REIT (FTREIT และ WHART)
สำหรับปี 2567 core EPU รวมอยู่ที่ 0.87 บาท ลดลง 5.6% YoY ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก Telco IFF (-10.9%) Transport IFF (-6.1%) Retail REIT (-4%) และ Industrial REIT (-3%) ในทางตรงกลับกัน Hotel REIT (LHHOTEL และ +8.5% YoY) และ Power Plant IFF (+1.5% YoY) ทำผลงานดีกว่าคาดไว้ ทั้งนี้ เราได้ยุติการวิเคราะห์ Office REITs (5 กอง) และ BRRGIF โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.
ผลงานดีและไม่ดี ในไตรมาส 4QCY67 ผู้เล่นที่ทำผลงานดีที่สุดในแง่ของการเติบโตเชิง YoY ของ core EPU ได้แก่ LHSC (+16.2%) TFFIF (+14.3%) และ BAREIT (+6.2%) ในขณะที่ผู้เล่นที่ทำผลงานแย่ที่สุด ได้แก่ CPNREIT (-31.8%) AXTRART (-18.7%) และ ALLY (-16.5%) สำหรับปี 2567 LHSC (+25.3%) IMPACT (+14.4%) และ LHHOTEL (+8.5%) เป็นผู้นำในการเติบโตของ core EPU ในขณะที่ 3BBIF (-24.9%) CPNREIT (-15.5%) และ BTSGIF (-11.6%) มีการเติบโตลดลงมากที่สุด
เงินปันผลปี 2567 เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรจะอ่อนแอ แต่กองทุนทั้ง 17 กองทุนประกาศจ่ายเงินสดตอบแทนปี 2567 รวมทั้งสิ้น 3.93 หมื่นลบ. (+1.8% YoY) โดยมีอัตราการจ่ายที่ 90% และอัตราผลตอบแทนต่อปีที่ 10.2% สำหรับกลุ่ม REIT และ IFF ในแง่ของอัตราตอบแทนต่อหน่วย กองทุน 11 กอง จาก 17 กอง (64.7%) ยังคงจ่ายเงินสดตอบแทนในระดับเดิมหรือเพิ่มขึ้น หนุนโดยสภาพคล่องที่แข็งแกร่งและผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ที่มั่นคง
กลุ่มที่มีการจ่ายเงินสดตอบแทนซึ่งเติบโตสูง ได้แก่ Hotel REIT (+15.9%) Transport IFF (+1%) Power Plants (+0.4%) และ Industrial REIT (+0.3%) ขณะที่กองทุนที่มีโครงสร้างรายได้ทรงตัวอย่าง BAREIT (+5.6%) และ INETREIT (+1.9%) ทำผลงานได้ดีเช่นกัน ผู้เล่นที่ทำผลงานดีที่สุด ได้แก่ LHHOTEL (+15.9%) LHSC (+12.5%) และ IMPACT (+11.3%) ขณะที่ผู้เล่นที่มีผลงานอ่อนแอที่สุดคือ ALLY (-20.5%) 3BBIF (-10.3%) และ CPNREIT (-5.7%)
แนวโน้ม เราคาดว่า core EPU ปี 2568 ของกลุ่ม REIT และ IFF ภายใต้การวิเคราะห์ของเราจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.4% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม Transport IFF Industrial REIT และ Telco IFF นอกจากนี้ เรายังคาดว่าการจ่ายเงินสดตอบแทนโดยรวมปี 2568 จะทรงตัวโดยกลุ่มธุรกิจส่วนใหญ่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการจ่ายเงินปันผลที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากโครงการค่าเช่าที่มั่นคงและต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงทั่วทั้งกลุ่ม
ภายใต้กลุ่มธุรกิจที่เราวิเคราะห์อยู่ Transport IFF (BTSGIF และ TFFIF) Retail REIT (CPNREIT LHSC และ AXTRART) โรงแรม (LHHOTEL) และ Industrial REIT (FTREIT WHART และ WHAIR) คาดว่าจะทำผลงานได้ดีที่สุดในการรักษาโมเมนตัมการจ่ายเงินสดตอบแทน
มุมมอง KS
มุมมองบวก เราคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่ม PFREIT และ IFF โดยได้รับแรงหนุนจาก
1) การเติบโตของกำไรหลักที่มั่นคงในปี 2568-69
2) โมเมนตัมการจ่ายเงินสดตอบแทนโดยรวมที่ยังคงอยู่ในระดับดี
3) มูลค่าที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนจากส่วนต่างของอัตราตอบแทนของ PFREIT และ IFF
โดย ณ ระดับปัจจุบัน อัตราตอบแทนของ SETPREIT อยู่ที่ 6.2% (2SD สูงกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีที่ 3.8%) ในขณะที่อัตราตอบแทนของ KSIFF อยู่ที่ 10.3% (2SD สูงกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีที่ 5.8%) เรายังคงเลือก BAREIT LHSC และ CPNREIT เป็นหุ้นเด่นของเรา
