“หุ้นไทย” อัพไซด์จำกัด-แต่ยังลงทุนได้...มองดัชนี 1,700 -1,750 จุด !!!

.
Fun of Funds: “โมเดลธุรกิจ” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญในการทำธุรกิจเช่นเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ธุรกิจจัดการกองทุน” มักเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัทแม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบงก์, โบรกเกอร์ หรือประกันก็ตาม
.
“บลจ.ดาโอ” ก็เช่นเดียวกัน เป็นหนึ่งในหกธุรกิจภายใต้ “กลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย): DAOL (THAILAND)” ซึ่งครอบคลุมการให้บริหารทางการเงินที่ครบตอบโจทย์นักลงทุนได้เป็นอย่างดี
.
ปีกระต่ายนี้ “DAOL” พร้อมสำหรับก้าวย่างแห่งการเติบโตในทุกธุรกิจ รายละเอียดจะเป็นยังไงนั้น ตามทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ ไปดูพร้อมๆ กันได้เลย
.
“DAOL”...ตอบโจทย์ครบทุกบริการด้านการเงิน!!!
.
โดย “ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงิน ดาโอ (ประเทศไทย) หรือ DAOL (THAILAND) บอกว่า เดิมเราใช้ชื่อว่า “We” เพื่อสื่อถึงว่า “เรา” เราที่พร้อมจะเป็นพันธมิตรกับทุกคน เมื่อได้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เป็นเกาหลีใต้ ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “DAOL” หรือ “ดาโอ” เป็นภาษาเกาหลี หมายถึง "ทุกสิ่งที่ดึงดูดความโชคดี" ซึ่งถือเป็นชื่อที่ดีเช่นกัน ในส่วนของธุรกิจนั้น เรามี 6 กลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์นักลงทุนครบและแต่ละธุรกิจก็มีการเติบโตที่ดีและมองไปข้างหน้าเชื่อมั่นว่ายังสามารถรักษาการเติบโตที่ดีเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
.
ในส่วนของ “DAOL LEND” ที่ให้บริการสินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (Welfare loan) กับบริษัทต่างๆ ในประเทศไทย ผ่านการกู้ยืมเงินผ่านโมบายแอปพลิเคชัน “LEND U” เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขความยุ่งยากของมนุษย์เงินเดือนในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็เติบโตได้ดี และเป็นการปล่อยกู้ที่ไม่มีความเสี่ยงเพราะบริษัทที่พนักงานมาขอกู้ จะดูแลจัดการเก็บเงินมาให้กับบริษัทเอง แต่เราถือเป็นสวัสดิการเพราะคิดดอกเบี้ยถูกกว่าดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลทั่วไปในตลาดค่อนข้างมาก ดังนั้นหากเศรษฐกิจไม่ดีก็ไม่ได้กังวลว่าสินเชื่อสวัสดิการนี้จะเป็นหนี้เสียแต่ประการใด
.
“ในส่วนของการขาย ‘หุ้นกู้’ ก็เป็นอีกหนึ่งบริการของเรา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีข่าวบริษัท ‘ผิดนัดชำระหนี้’ ในอุตสาหกรรมขึ้นมาบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในหุ้นกู้แต่ประการใด และบริษัทเองยังมีการสกรีนหุ้นกู้ก่อนที่จะนำมาขายให้กับนักลงทุนด้วย อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นกู้ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน อยากให้นักลงทุนทำความเข้าใจก่อนลงทุนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีศักยภาพในการคัดเลือกหุ้นกู้ แต่ยังไม่มีความคิดที่จะเอาไปจัดตั้งในรูปแบบของ ‘กองทุนรวม’ แต่ประการใด เพราะตลาดหุ้นกู้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความหลากหลาย และสภาพคล่องของตราสารด้วยเช่นกัน แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไปก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในปีนี้เช่นเดียวกัน”
.
“บลจ.ดาโอ” ขอรอ “กบช.”...ก่อนตัดสินใจลุยธุรกิจ “PVD”
.
ด้าน “อิศรา พุฒตาลศรี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ดาโอ บอกว่า บลจ.เราตั้งมาครบ 3 ปีแล้ว ซึ่งเข้าเงื่อนไขที่สถาบันการเงินสามารถจะนำกองทุนรวมไปขายให้ได้ ก็เชื่อมั่นว่าในปีนี้จะมีพันธมิตรที่เป็นตัวแทนขายซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น ในช่วงเริ่มต้นของบลจ.เราต้องพยายามสร้างความแตกต่างและจุดขาย กองทุนที่เราคัดมาจึงเป็นกองทุนที่มีนวัตกรรมและมีความแตกต่างค่อนข้างชัดเจน ในปีที่ผ่านมาช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบกองทุนเทคโนโลยีในภาพรวมพอสมควร จนราคาปรับตัวลงมามากและอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ถ้ามองการลงทุนในระยะยาว “ธีมเทคโนโลยี” ยังเป็นหนึ่งใน Megatrend ของโลกการลงทุน
.
ปัจจุบันบริษัทก็ได้เติมเต็มกลุ่มกองทุนที่เป็น “Traditional” แบบดั้งเดิมเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายและสามารถนำไปจัดพอร์ตการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น แต่ก็ยังมองหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ มานำเสนอนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
.
“บริษัทมี 2 ธุรกิจในปัจจุบัน คือ กองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล ในส่วนของ ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ ตลาดแข่งขันกันค่อนข้างมาก ถ้ายังไม่มีโมเดลในการทำธุรกิจที่ใช่ เราคงยังไม่ทำ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ ถ้ามี ‘กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.)’ เราก็อาจพิจารณาทำธุรกิจนี้ได้เช่นกัน แต่คงต้องดูรายละเอียดของกบช.อีกครั้ง เริ่มช้าไม่เป็นไปไร แต่เราต้องมั่นใจถึงจะทำ”
.
“หุ้นไทย” อัพไซด์จำกัด-แต่ยังลงทุนได้...มองดัชนี 1,700 -1,750 จุด
.
ส่วนมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น “นิสารัตน์ ชมภูพงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บลจ.ดาโอ มองว่า “หุ้นไทย” เดือนกว่าขึ้นมาแล้วประมาณ 7% อาจต้องมีการพักฐานบ้าง และกลับมาดูปัจจัยที่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นคือเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ “ธนาคารกลางสหรัฐ” (FED) ที่คาดว่าน่าไม่เกิน 5.25% ตามคาดการณ์ประกอบกับการแข็งค่าของดอลลาร์อาจทำให้ในระยะสั้นตลาดดีดตัวลงได้นิดหน่อย อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อเพราะอัตราดอกเบี้ยน่าใกล้จุดสูงสุดแล้ว เพราะเงินเฟ้อเท่าที่เห็นมีการปรับตัวลดลงแล้วและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เคยกังวลก็น่าจะไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ปัจจัยการเปิดประเทศของจีนถือว่าส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
.
“หุ้นไทยปีนี้อัพไซด์คงมีจำกัด เรามองดัชนีที่แถวๆ 1,700-1,750 จุด พอขึ้นมาก็มีการปรับตัวบ้างแต่ถ้าดูแค่กุมภาพันธ์เดือนเดียวต่างชาติก็ขายไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกำไรค่าเงินด้วย ซึ่งฟันด์โฟลว์อาจจะต้องอีกสักพักให้ค่าเงินบาทอ่อนลงกว่านี้อีกสักหน่อยอาจจะกลับมาได้ โดยอาจ
.
เห็นได้ในช่วงๆ จากการที่นักลงทุนต่างชาติขายทำไรและนำเงินกลับ อย่าไรก็ตามหุ้นไทยยังมีโอกาสในการลงทุนอยู่ เนื่องจากในปีนี้จะมีเพียงไม่กี่ประเทศที่กลับมาเติบโตได้ดี นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากกการเปิดประเทศของจีนโดยหุ้นกลุ่มที่น่าลงทุน เช่น ท่องเที่ยว โรงแรม และหุ้นที่เกี่ยวข้องการเปิดประเทศ”
.
การลงทุนในหุ้นไทยยังต้องรอจังหวะให้ผ่านช่วงที่มีความคาดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไปก่อน ซึ่งอาจจะเป็นหลังไตรมาสที่1 เพราะหุ้นใหญ่ยังมีบริษัทน้ำมันที่ได้รับผลกระทบอยู่ แต่กลุ่มแบงก์อาจฟื้นตัวดีขึ้นได้บ้าง ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวน่าจะปรับตัวได้ดีกว่า
.
“สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในปีนี้แนะนำให้มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศมากกว่าหุ้นไทยหลังจากในปีที่ผ่านมาปรับตัวดีกว่าตลาดต่างประเทศ ประกอบกับราคาหุ้นไทยที่ P/E 18 เท่า ถือว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับหุ้นโลกที่อยู่ประมาณ 15 เท่า”
.
ล่าสุดมีข่าวคราวมีกลุ่มทุนใหม่จาก “เกาหลีใต้” ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนใน “DAOL” เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไรนั้น คงต้องรอความชัดเจนกันอีกครั้ง แต่ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก้าวย่างของ “DAOL” ยังคงเป็นที่จับตาของผู้ร่วมอุตสาหกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย และ “ปีกระต่ายทอง” น่าจะเป็นการเปิดศักราชของการเติบโตของ “DAOL” อย่างแท้จริง