ตีแผ่ข่าวเศรษฐกิจ+!!!

ตีแผ่ข่าวเศรษฐกิจ+!!!

ทรัมป์ ออกโรงเตือนพาวเวล ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED

ปธน.โดนัลด์ ทรัป์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ว่า อาจจะทำให้ขัดขวางการลงทุนต่างๆ และอาจทำให้สหรัฐเสียเปรียบคู้ค้าประเทศต่างๆ ได้ ดังนั้น จึงเห็นว่าอยากให้ FED คิดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.25% อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ FED ก็ได้แสดงสัณญาณชะลอการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยอยู่แล้ว โดยเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ประกาศล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นลดลงจากเดือนก่อน (ต.ค. 61) เนื่องจากการปรับตัวของน้ำมันดิบโลก

ทรัมป์ พร้อมแทรกแซงคดี หากสามารถทำให้การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนดีขึ้น

จากการที่มีการจับกุมตัวผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน นางเมิ่ง ว่านโจว ซึ่งเป็น CFO ของบริษัททางเทคโนโลยี Huawei และเป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัท ที่ประเทศแคนดานั้น สร้างความกังวลให้กับตลาดถึงความตรึงเครียดที่อาจเพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนพร้อมแทรกแซงคดีนี้ หากเห็นว่าสามารถทำให้การเจรจายุติการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดีขึ้นได้ โดยปัจจุบันนางเมิ่ง ได้รับการประกันตัวจากศาลของแคนดา อย่างไรก็ตาม ทางจีนได้ออกมาแสดงความเห็นถึงกรณีที่นักการทูตแคนดาที่ถูกจับกุมที่ปักกิ่ง เนื่องจากการทำธุรกรรมที่จีนอย่างไม่ถูกต้อง โดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการจับกุมจริง อีกทั้งเห็นว่าหากมีการจับกุมตัว ก็จะปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่ได้เป็นการตอบโต้แคนดาที่จับกุมตัวผู้บริหารของ Huawei แต่อย่างใด

“เทเรซา เมย์” รอด จากการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากการประชุมอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางเทเรซา เมย์ เนื่องจากไม่พอใจ “ข้อตกลงการออกจากสหภาพยุโรป หรือ EU” จากผลการลงมติยังสนับสนุนให้นางเมย์เป็นรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมต่อไป ด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง ซึ่งจากผลการลงมติดังกล่าว ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเงินหลัก อีกทั้ง ยังสร้างความเชื่อมันถึงเสถียรภาพของรัฐบาลอังกฤษต่อไป

EIA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมัน BRENT ในปีนี้และปีหน้า

จากราคาน้ำมันดิบโลกทั้ง WTI และ BRENT ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIA ได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบทั้ง WTI และ BRENT โดยราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย WTI ในปีนี้จะอยู่ที่ จาก 65.18 ดอลล่าห์/บาเรล (หรือลดลง 2.4% จากการคาดการณ์ก่อนหน้า) และปีหน้าจะอยู่ที่ 54.19 ดอลล่าห์/บาเรล (หรือลดลง 16.4% จากการคาดการณ์ก่อนหน้า) ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRENT ในปีนี้จะอยู่ที่ จาก 71.30 ดอลล่าห์/บาเรล (หรือลดลง 2.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้า) และปีหน้าจะอยู่ที่ 61 ดอลล่าห์/บาเรล (หรือลดลง 15.2% จากการคาดการณ์ก่อนหน้า)

กนง. ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 1.75

ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงค์ชาติได้แถลงว่า คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน หรือ กนง. ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% จากอัตรา 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ด้วยคะแนนลงมติ 5 ต่อ 2 เสียง โดยกรรมการส่วนใหญ่ผู้ลงมติได้ให้ความเห็นว่า ความจำเป็นในการพึ่งพานโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมาลดน้อยลง และเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว เป็นการปรับเพิ่มขึ้นในรอบกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่ไทยได้เปลี่ยนจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เป็นนโยบายที่ลดและป้องกันความเสี่ยงที่อาจจจะเกิดขึ้นกับเสถียรภาพระบบทางการเงินของไทยได้