ห้องเม่าปีกเหล็ก

TRUE โดนนักวิเคราะห์จัดหนัก

โดย BID
เผยแพร่ :
299 views

TRUE โดนนักวิเคราะห์จัดหนัก

หั่นเป้ากำไรปี 66 เป็นพลิกขาดทุน 4.6 พันลบ.

แนะนำ “ขาย” ลดราคาเป้าหมายเหลือ 7.60 บาท

.

หลังจาก TRUE รายงานงบการเงินรอบไตรมาส 1/66 ออกมา นักวิเคราะห์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่าผิดหวัง” ทำให้มีการปรับลดประมาณการจากเดิมลง ล่าสุดบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ให้รอผลของการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายที่ชัดเจน หลังประเมินว่า แม้พรรคก้าวไกลจะไม่ได้มีนโยบายโดยตรงเกี่ยวกับกลุ่มสื่อสาร และแม้ว่า กสทช. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะเป็นองค์กรอิสระ

.

แต่ในระยะถัดไปมีโอกาสที่นโยบายภาครัฐจะเข้มข้นมากขึ้น เช่น 1.การติดตามเงื่อนไขหลังการควบรวมกิจการที่เข้มข้น และ 2.การพยายามเปิดเสรีและสนับสนุนให้เกิดผู้เล่นรายใหม่

.

สะท้อนจากมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติ TRUE ปี 2566 จาก 3.5 พันล้านบาท ลงเป็น 396 ล้านบาท หลักๆ มาจาก 1.การปรับลดสมมติฐานรายได้มือถือและรายได้ Online เป็นเติบโต 1% จากปีก่อน

2.การปรับลด Device margin ลงเป็น -3% และ 3. ปรับลด Synergy ที่คาดจะเกิดขึ้นกับ Cost of service ให้เกิดขึ้นน้อยลง 1พันล้านบาท ซึ่งการปรับลดสมมติฐานเพื่อให้สะท้อนโอกาสเกิด Synergy ที่ช้าลงและความเสี่ยงจากการถูกควบคุมที่จะเข้มข้นขึ้นในระยะถัดไป

.

ทั้งนี้ผลของการปรับลดประมาณการทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ปรับลดเป็น 8.40 บาทต่อหุ้น ซึ่งประเมินมูลค่า NewCo. ที่ 7.80 บาทต่อหุ้น และประเมินมูลค่าเงินลงทุนใน DIF discount 20% ที่มูลค่า 0.6 บาทต่อหุ้น โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปรับตัวลงรับความเสี่ยงไปมากแล้ว หากการควบคุมเกิดขึ้นช้าหรือไม่เข้มข้นหุ้นมีโอกาส Rebound ในระยะถัดไป

.

ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำทยอยสะสม ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำ รอผลของการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายที่ชัดเจน

.

โดย ณ วันที่เขียนรายงาน ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีโอกาสสูงที่พรรคก้าวไกลจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นโยบายสำคัญของพรรคก้าวไกล คือ การลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และลดการผูกขาดในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โดยเฉพาะอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น

.

ดังนั้นแม้ว่าพรรคก้าวไกลจะไม่ได้มีนโยบายโดยตรงเกี่ยวกับกลุ่มสื่อสาร และแม้ว่า กสทช. ซึ่งเป็นผู้ควบคุมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะเป็นองค์กรอิสระ แต่ในระยะถัดไปมีโอกาสที่นโยบายภาครัฐจะเข้มข้นมากขึ้น เช่น 1.การติดตามเงื่อนไขหลังการควบรวมกิจการที่เข้มข้น และ 2.การพยายามเปิดเสรีและสนับสนุนให้เกิดผู้เล่นรายใหม่

.

อย่างไรก็ตามประเมินความเสี่ยงโดยรวมต่อกลุ่มสื่อสารทั้ง ADVANC และ TRUE จำกัด เนื่องจาก 1.แม้มีการเปิดเสรี โอกาสที่จะเกิดผู้เล่นรายใหม่ไม่ง่ายเพราะอุตสาหกรรมอยู่ใน Late-cycle และต้องการการลงทุนหนัก 2.เงื่อนไขบังคับหลังการควบรวมโดยเฉพาะด้านการควบคุมราคาอาจทำให้ ARPU เพิ่มได้จำกัดในช่วงสั้น แต่การลดลงของ Unlimited Package จะเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมในระยะยาวมากกว่า

.

โดยภาพรวมปัจจัยที่มีโอกาสกระทบกับ TRUE น่าจะเป็นการควมคุมที่เข้มข้นขึ้นในด้านกฏเกณฑ์โดยเฉพาะราคา Package มากกว่า ผลกระทบ คือโอกาสเกิด Synergy มีโอกาสช้าลงกว่าที่ตลาดคาด

.

สำหรับ TRUE ให้ Guidance ปี 2566 กับตลาดหลังประกาศงบการเงินไตรมาส 1/66 โดยเป็น Guidance ผล ประกอบการ 10 เดือนตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.66 ถึงสิ้นเดือนธ.ค.66 ดังนี้ 1. Service revenue ex. IC ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

2. EBITDA ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง single digit จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3) CAPEX ในช่วง 2.5-3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ TRUE ยังไม่ได้ให้ตัวเลข Synergy ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะยาวกับตลาด โดยชี้แจงว่าจะแจ้งในงาน Investor Day ที่จะจัดขึ้นในระยะถัดไป (ยังไม่ได้กำหนดวันอย่างเป็นทางการ)

.

ขณะที่ตลาดกังวลสองประเด็นจาก 1.Guidance ที่รายได้และ EBITDA ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนว่า Synergy ในปี 2566 มีโอกาสเกิดขึ้นช้ากว่าที่ตลาดคาด และ 2. มูลค่า Synergy ที่ยังไม่ถูก Guidance ชัดเจน ทำให้ตลาดไม่สามารถประเมินมูลค่าที่อาจจะเกิดขึ้นลงไปในราคาหุ้นได้ และสร้างความกังวลว่าการสร้าง Synergy อาจต้องใช้เวลามากกว่าคาดหรือไม่

.

[ โบรกฯ เมย์แบงก์ แนะนำ “ขาย” ]

ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า ปรับลดแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย” หลังราคาเป้าหมายใหม่ที่ 7.60 บาท (เทียบกับราคาเป้าหมายเดิมที่ 9.23 บาท) โดย TRUE รายงานผลขาดทุน

.

สุทธิหลักที่ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66 จากรายได้ที่อ่อนแอ ส่งผลให้ปรับประมาณการปี 66 จากกำไรหลัก 1.1 พันล้านบาทเป็นขาดทุนหลัก 4.6 พันล้านบาท แต่คาดว่าตลาดจะหันมาปรับลดคาดการณ์กำไรในเร็วๆ นี้เช่นกัน หุ้นเด่นสำหรับอุตสาหกรรมเทเลคอม ยังคงเป็น ADVANC (แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 240 บาท)

.

ทั้งนี้จากงบไตรมาส 1 ที่น่าผิดหวัง คาดว่านักวิเคราะห์ทั้งตลาดจะปรับลดประมาณการกำไรลงเช่นกัน โดยคาดว่าผลขาดทุนสุทธิหลักจะเพิ่มขึ้นจาก 117 ลบ.ในปี 65 (ผลขาดทุนของ TRUEE และ DTAC เก่า) เป็น 4.6 พันล้านบาทในปี 66 (เทียบกับตลาดคาดการณ์ผลขาดทุน 384 ล้านบาท) เนื่องจากค่าใช้จ่าย D&A เพิ่มขึ้น 4.7% จากปีก่อน และต้นทุนในการรวมธุรกิจ 1.6 พันล้านบาทในปี 66 และคาดว่าผลขาดทุนหลักในไตรมาส 2/66 จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้ทรงตัวและอัตราค่าไฟฟ้า (ค่า Ft) ลดลงในเดือน พ.ค.

 

 


BID