ชีวิตใหม่ " ฉาย บุนนาค "

สัปดาห์ก่อนมีโอกาสพบปะสนทนากับ “ฉาย บุนนาค” นักลงทุนรายใหญ่อายุน้อยที่มีบทบาทในตลาดหุ้นมากที่สุดในยุคนี้ หลังจากพลาดการนัดหมายกันมาแล้วครั้งหนึ่ง

การพูดคุยกันวันนั้น แม้เวลาไม่มาก และพูดถึงเรื่องราวในตลาดหุ้นน้อยมาก แต่สาระที่พูดคุยกันสั้น เป็นสิ่งที่ผิดจากความคาดหมายไว้ก่อนหน้าอย่างมาก

“ฉาย” ประกาศจุดยืนของตัวเองว่า จะถอยห่างจากตลาดหุ้น จะเลิกเล่นหุ้น และพยายามขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทจดทะเบียนต่างๆออก รวมทั้งบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG

ไม่อยากเชื่อว่า จะได้ยินคำประกาศขอล้างมือจากธุรกรรมทุกอย่างในตลาดหุ้น จากปากนักลงทุนรายใหญ่ ที่เคยอยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นับสิบบริษัท

“ฉาย” ให้เหตุผลว่า ถ้ายังเล่นหุ้น คงได้เปรียบนักลงทุนทั่วไป เพราะมีประสบการณ์การเล่นหุ้นนับสิบปี แต่คงจะถูกสังคมจับจ้องพฤติกรรม และปัจจุบันมีกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลการซื้อขายและการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งใครจะทำอะไรไม่ถูกต้องคงลำบาก

แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ “ฉาย” อยากจะหยุดทุกอย่างในตลาดหุ้นคือ การคิดถึงอนาคตของลูก 2 คน และไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องได้รับผลกระทบใด ๆ จากการดำเนินชีวิตของตัวเอง

นักลงทุนรายใหญ่ที่สร้างความสั่นสะเทือนในตลาดหุ้นนับสิบปียอมรับว่า อดีตเคยผิดพลาด และไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมในอดีตได้ แต่จะแก้ไขอนาคต โดยเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ ไม่เดินบนเส้นทางเดิมที่ผิดพลาด

การหันหลังให้ตลาดหุ้น “ฉาย” รู้ดีว่า จะไม่มีคนเชื่อในคำพูด แต่ยืนยันในความตั้งใจจริง และขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ โดยพร้อมจะรับคำตำหนิ ถ้ากระทำเรื่องผิดพลาดซ้ำรอยอดีต

ความตั้งใจอีกประการของ “ฉาย” คือ การจะรณรงค์ต่อต้านพฤติกรรมการปั่นหุ้น โดยใช้ประสบการณ์ในตลาดหุ้นนับสิบปี เพื่อเตือนให้นักลงทุนระมัดระวัง และไม่ตกเป็นเหยื่อของการปั่นหุ้น

การพูดคุยกับ “ฉาย” ซึ่งเป็นการพบปะกันครั้งแรก ทำให้เกิดความรู้สึกดีกับเด็กหนุ่มที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีบทบาทในตลาดหุ้นมากที่สุดคนนี้

เพราะคนที่หลงระเริงกับความมั่นคั่ง มุ่งแต่กอบโกยกำไรจากตลาดหุ้น โดยอาจไม่ตระหนักว่า จะตักตวงความร่ำรวยด้วยวิธีการใด ใครจะได้รับผลกระทบหรือไม่ แต่วันนี้สามารถทบทวนตัวเองได้ และตั้งใจที่จะปรับปรุงพฤติกรรมใหม่ จะไม่รู้สึกยินดีได้อย่างไร

คนที่เคยเดินหลงทาง เมื่อคิดได้ คิดดี และกำลังกลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูก จะไม่ส่งเสริม สนับสนุน ให้กำลังใจได้อย่างไร

สื่อมวลชนที่ยึดมั่นในหลักการ เมื่อเห็นใครที่เดินทางผิด ควรเตือนสติ แนะนำทางที่ถูกให้เดิน ไม่ใช่รับผลประโยชน์แล้ว ถือเป็นพรรคพวกกัน และให้ท้ายคนที่เดินทางผิด แสดงตัวพร้อมปกป้อง ทำให้คนที่คิดผิดเดินลงสู่เหวลึก จนพบกับหายนะ

คำพูดของ “ฉาย” เชื่อได้ขนาดไหน เป็นคำถามในใจ แต่ดูจากสีหน้าแววตา และเหตุผลที่หยิบยกมาสนับสนุนคำพูดแล้ว ทำให้เชื่อว่า “ฉาย” น่าจะพูดออกมาจากความรู้สึกจริง โดยเฉพาะการตระหนักถึงอนาคตของลูก ๆ

คนที่รักลูก ไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องแบกรับคำตำหนิจากพฤติกรรมพ่อ มักจะหลีกเลี่ยงการกระทำที่ไม่ดี และพยายามทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของครอบครัว พยายามทำให้สังคมสงบสุข มีความเป็นธรรม

เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบหรือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ลูกหลานจะได้มีชีวิตอยู่ในสังคมที่ดี

แต่พ่อแม่บางคนทำร้ายลูก เพราะความหิวโหยในผลประโยชน์ ประพฤติตัวเป็นที่น่ารังเกลียจของสังคม ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีของลูกหลาน ซึ่งในสังคมสื่อก็มีคนที่เดินทางผิดมานับสิบ ๆ ปีเหมือนกัน

ก่อนจะร่ำลากัน ได้ให้กำลังใจ “ฉาย” ยืนยันว่าสิ่งที่คิด เป็นสิ่งที่ดี เป็นเส้นทางการใช้ชีวิตที่ถูก และอย่ากังวลกับความผิดพลาดในอดีต

แต่ควรมุ่งมั่นกับการเริ่มต้นใหม่ เดินในทางที่ถูกเพื่อแก้ไขอนาคต และต้องปฏิบัติในสิ่งที่คิดไว้ให้ได้

“ฉาย” จะเลิกเล่นหุ้น ทยอยทิ้งธุรกรรมในตลาดหุ้นหรือไม่ คงหาคำตอบไม่ยาก เพราะหุ้นที่ “ฉาย " เคยมีบทบาทอยู่เบื้องหลัง ทุกคนรู้หมดว่า มีหุ้นตัวไหนบ้าง

ดูจากพฤติกรรมความเคลื่อนไหวของหุ้นเหล่านี้ คงเป็นคำตอบได้ว่า “ฉาย” ล้างมือ ถอนตัวจากตลาดหุ้นจริงหรือไม่

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com