เจาะกำไร 3 หุ้นอสังหาฯ รับปัจจัยบวก
ต่ออายุมาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง

.
ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกเล็กๆ ที่เข้ามาสนับสนุนหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองไปอีก 1 ปี หรือจะสิ้นสุดในปี 2567 สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ประเด็นนี้จะเป็นผลบวกต่อหุ้นอสังหาฯ มากแค่ไหน และหุ้นตัวไหนจะได้ปัจจัยบวกนี้บ้าง Wealthy Thai หาคำตอบมาให้แล้ว
.
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่จะสิ้นสุดในปีนี้ออกไปอีก 1 ปี หรือไปสิ้นสุดในปี 2567
.
โดยครม. เห็นชอบขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เป็น 1% และ ค่าจดจำนองจาก 1% เป็น 0.01% สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 ธ.ค. 66
.
ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ แต่ไม่มาก เนื่องจากเป็นมาตรการที่ให้สิทธิเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด (ราคาบ้านที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็นเพียง 30% ของตลาดรวม) โดยกลุ่มอสังหาฯ Top pick ในเชิงกลยุทธ์ คือ AP SPALI และ SIRI
.
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของ AP นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์กำไรปี 2566 ที่ 6.1 พันล้านบาท โต 3.3% โดยคาดกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 1.3-1.5 พันล้านบาท โตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแบ็กล็อกรอโอนรับรู้รายได้ ซึ่งสิ้นไตรมาส 3/66 แบ็กล็อกมีมูลค่ารวม 3.3 หมื่นล้านบาท
.
โดยบริษัทมีแผนโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/66 ราว 3.4 พันล้านบาท ขณะที่เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าคาดจะชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นการโอนต่อเนื่องของ 2 โครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 3/66 เป็นหลัก นอกจากนี้สิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มเติม คือ ค่าใช้จ่ายในการขายและการทำการตลาดที่อาจสูงขึ้น ตามการเปิดตัวโครงการใหม่ในที่สูงเกือบ 50% ของมูลค่าการเปิดตัวทั้งหมดในปี 2566
.
อย่างไรก็ตาม มองการเติบโตของผลประกอบการปี 2567 จะมีความท้าทายมากกว่าที่คาดการณ์เดิม จากทั้งอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง และกำลังซื้อที่ลดลง คาดกำไรปี 2567 จะเติบโตเล็กน้อยอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท โดยคาดเงินปันผลปี 2566 ที่ 0.68 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงถึง 6% ช่วยจำกัด Downside risk เบื้องต้นจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13 บาท
.
สำหรับ SPALI นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) มีมุมมองว่าเชิงบวกต่อการจัดตั้งกิจการร่วมค้า “SSRCP HoldCo Pty Ltd” ร่วมกับ Stockland Corporation Ltd. โดยตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน SPALI ได้มีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลียไปแล้ว 12 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นล้านบาท ทำให้มีความเข้าใจในตลาดอสังหาฯ ในออสเตรเลียเป็นอย่างดี
.
ประกอบกับการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลียจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในอนาคตจาก Know-How ของผู้พัฒนาท้องถิ่น ฝ่ายวิเคราะห์จึงมองว่าการลงทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยเพิ่มการเติบโตของฐานกำไรให้แก่บริษัทได้ในระยะยาว
.
อีกทั้งยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยที่ยังฟื้นตัวล่าช้า ทำให้มีโอกาสที่ฝ่ายวิเคราะห์จะปรับประมาณในปี 2567 เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่ากำไรไตรมาส 4/66 จะเติบโตโดดเด่นจากไตรมาสก่อนหน้า จากแบ็กล็อกที่พร้อมโอนปีนี้ 8.4 พันล้านบาท ประกอบกับการเร่งขายโครงการแนวราบเปิดใหม่อีก 11 โครงการ
.
ส่งผลให้คาดว่าปี 2566 กำไรจะอยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท ลดลง 27% และคาดจะเห็นกำไรฟื้นตัวในปี 2567 ที่ 6.3 พันล้านบาท เติบโตราว 8% โดยประเมินราคาเป้าหมาย ที่ 22.30 บาท มี Upside จากราคาปัจจุบัน บวกกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจราว 6% ทำให้ปรับเพิ่มคำแนะนำจากถือเป็น “ซื้อ”
.
ส่วน SIRI นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด คาดว่าจะทำยอด presales ในปี 2566 พลาดเป้าที่บริษัทวางไว้ราว 10-15% โดยจะอยู่ที่ 4.0-4.2 หมื่นล้านบาท แต่ยอด presales จะอยู่ในระดับทรงตัวถึงเติบโต 5% โดยได้รับการสนับสนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมาที่ 6.6 หมื่นล้านบาท
.
ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ปี 2566 ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท โต 18.6% โดยแบ็กล็อกรองรับรายได้ที่ฝ่ายวิเครราะห์คาดการณ์ไว้แล้ว 94% รวมทั้งคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 6 พันล้านบาท โต 41.9% และกำไรปกติที่ 5.4 พันล้านบาท โต 25.4% ขณะเดียวกันคาดว่าไตรมาส 4/66 กำไรจะลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ tactical call ระยะ 3 เดือนสำหรับ SIRI ไว้ที่ Neutral ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท