
ตลาดเกาะติดผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ (14-15 มี.ค.) หลังมุมมองประธานเฟด “เจเน็ต เยลเลน” ล่าสุด ให้สัญญาณบวกทางเศรษฐกิจ พร้อมระบุถึงโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากภาวะเศรษฐกิจยังเป็นไปตามการคาดการณ์
ในการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Executives Club of Chicago เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว นางเยลเลนระบุถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้มีความเหมาะสม หากเศรษฐกิจขยายตัวสอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์ ทั้งตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อ
นางเยลเลนระบุถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าอัตราว่างงานในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 4.8% สอดคล้องกับที่เฟดประเมินไว้ ขณะเศรษฐกิจยังดูมีความพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค. ก็ส่งสัญญาณมุ่งเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับเกือบ 2%
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBST ประเมินว่า หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจส่งผลให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fund Flow) ออกจากตลาดเกิดใหม่และรวมทั้งหุ้นไทย แต่มองว่าผลกระทบไม่มาก จึงแนะว่าควรเพิ่มสัดส่วนเงินสด เพื่อรอซื้อหุ้นเมื่อดัชนีปรับตัวต่ำกว่า 1,550 จุด
โดยหุ้นที่มีความเสี่ยงมากได้แก่หุ้นที่ต่างชาติมีการซื้อ (Net Buy Position) จำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้ จากการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นช่วงที่เริ่มมีเม็ดเงินจากต่างชาติจำนวนมาก พบว่าหุ้น 5 อันดับที่มีมูลค่าซื้อสูงที่สุด ได้แก่ KBANK, PTT, PTTGC, SCB และ AOT จึงมองว่าหุ้นทั้ง 5 บริษัท มีความเสี่ยงที่จะถูกต่างชาติเทขายมากที่สุด และหุ้นที่มีความเสี่ยงอีกกลุ่มได้แก่ หุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่มีมูลค่าการซื้อ (Net Buy Position) ใน 30 อันดับแรกและมี P/E สูงสุด 5 อันดับ ซึ่งได้แก่ TRUE, MTLS, BEM, BDMS และ BH
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มส่งออกยังได้แรงหนุนจากเงินบาทอ่อนและเศรษฐกิจโลกที่เริ่มปรับตัวขึ้น หากเฟดมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย อีกทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ทั้งการปรับลดภาษีนิติบุคคลและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกมีบรรยากาศที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้จะช่วยส่งผลบวกอย่างมากต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เช่น อิเล็กทรอนิกส์
โบรกเกอร์รายนี้ระบุว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนการประชุมเฟด ตลาดจะผันผวนมากกว่าปกติ และยังมีตัวแปรอื่นอีกเช่น ราคาน้ำมัน แนวโน้มผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสและนโยบายเศรษฐกิจใหม่ๆของรัฐบาล ดังนั้น ตลาดจึงยังมีความเสี่ยงขาลง ซึ่งคาดว่าในเดือน มี.ค.นี้ ดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,530 -1,550 จุด
- ที่มา : moneychannel.co.th