ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดข้อเสนอ “อนุสรณ์” ต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดย OttO
เผยแพร่ :
62 views

เปิดข้อเสนอ “อนุสรณ์ ธรรมใจ” ต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู้โควิด-19 1.68 ล้านล้านบาท

เปิดข้อเสนอ อนุสรณ์ ธรรมใจ ต่อมาตรการเศรษฐกิจ 1.68 ล้านล้านบาท และ ข้อสังเกตต่อมาตรการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยเฉพาะมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้เอกชนต้องทำด้วยความระมัดระวัง การทำมาตรการ QE ควรซื้อเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้นและการทำการขยายฐานเงินเพื่อสนับสนุนนโยบายการคลังต้องทำให้เกิดการจ้างงานและการผลิตในภาคเศรษฐกิจจริงจึงทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน ไม่เช่นนั้นจะทำได้เพียงพยุงตลาดการเงินและราคาสินทรัพย์สินทางการเงินเท่านั้น 

อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง  กล่าวถึง มาตรการเศรษฐกิจ 1.68 ล้านบาท ว่า วงเงินของมาตรการเศรษฐกิจ 10% ของจีดีพี หรือ ประมาณ 1.68 ล้านล้านบาท ด้วยขนาดของเม็ดเงินทั้งมาตรการทางการคลังและการเงินอาจจะเพียงพอต่อการประคับประคองเศรษฐกิจและอาจจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาเป็นบวกได้เล็กน้อยในไตรมาสสองปีหน้า หากมีการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงิน 1.68 ล้านล้านบาทจะฟื้นเศรษฐกิจได้หรือไม่อยู่ที่นโยบายสาธารณสุขที่ต้องคุมโรค Covic19 ให้ได้ในระดับเดียวกับสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน เป็นต้น ดูเหมือนว่า การใช้งบประมาณมากขนาดนั้นเมื่อเทียบกับจีดีพีประมาณ 10% เป็นระดับใกล้เคียงกับ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมัน สิงคโปร์

แต่หากพิจารณาข้อมูลในรายละเอียดพบว่า 10% ของจีดีพีของไทยนั้นรวมมาตรการทางการเงินเข้าไปด้วย รัฐบาลประสบความยากลำบากในการบริหารจัดการงบประมาณโดยเฉพาะรายได้จากภาษีจะต่ำกว่าเป้าหมายมากจากการหดตัวของเศรษฐกิจและอัตราการติดลบของรายได้ของบุคคลและนิติบุคคล ทำให้อัตราการเติบโตของรายได้ประชาชาติ รวมรายได้กิจการของทุนข้ามชาติสัญชาติไทยด้วยติดลบอย่างแรง

  ไทยคงจะทำแบบบางประเทศยากเพราะไม่ได้มีการปฏิรูปโครงสร้างภาษีอย่างจริงจัง ฐานภาษีทรัพย์สินแคบมากๆ หากขยายฐานภาษีทรัพย์สินก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะทำงานได้คล่องตัวขึ้นในการจัดการงบประมาณและบริหารหนี้สาธารณะ ภาษีทรัพย์สินมันมีมิติเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่

ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจว่า ทำไมสังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก เมื่อไม่ขยายฐานภาษีทรัพย์สินจริงจัง ย่อมมีเงินรายได้ไม่พอ จึงต้องกู้เงิน หากกู้เงินมากขนาดเดียวกับบางประเทศ 10% ของจีดีพี ความเสี่ยงของฐานะทางการคลังจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในอนาคต

คำตอบจึงมาอยู่ที่การตัดลดงบที่ไม่จำเป็นตอนนี้ให้มากที่สุดโดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธและโครงการก่อสร้างที่มีการนำเข้าสูง ไม่ก่อให้เกิดการจ้างงานและไม่กระตุ้นเศรษฐกิจภายใน มีโจทย์หรือประเด็นที่จะต้องพิจารณาดังนี้

ประเด็นแรก จะอยู่ที่ว่าจะหาแหล่งเงินมาจากไหนในส่วนของมาตรการทางการคลัง ทั้งส่วนมาตรการลดภาษี ลดการจัดเก็บค่าบริการสาธารณะของรัฐ (ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าโทรคมนาคมและมาตรการการใช้จ่ายภาครัฐ (ลงทุนเพื่อทำให้เกิดการจ้างงานและรายได้มาตรการเงินโอน (ชดเชยรายได้ เพิ่มสวัสดิการการว่างงานงบเพิ่มเติมใหม่นี้จะต้องไม่ไปเบียดบังงบประมาณลงทุนอื่นๆที่จำเป็นเพราะจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อประเทศ

ประเด็นที่สอง การทบทวนและการจัดสรรงบใหม่ปี 2563 ต้องตัดลดงบไม่จำเป็นและเพิ่มในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนก่อนจึงต้องเรียงลำดับความสำคัญให้ดีตามพันธกิจของการบรรเทาปัญหาความยากลำบากทางเศรษฐกิจโดยมุ่งเป้าไปที่ กลุ่มคนที่เปราะบาง คนที่อ่อนแอรายได้น้อยก่อน ต้องจัดงบไปดูแลในส่วนที่จะให้ผลกระทบในวงกว้างก่อน จัดหาอุปกรณ์ทางแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อการรับมือการแพร่ระบาดของโรคในระยะต่อไป

ประเด็นที่สาม ในส่วนของเงินกู้ ให้กู้ภายในประเทศก่อน หากมีผลต่อสภาพคล่องในระบบ หรือ หากมีสัญญาณเกิด Crowding out effects ให้กู้ต่างประเทศแทน

ประเด็นที่สี่ สัดส่วนของมาตรการทางเศรษฐกิจต้องไม่มุ่งไปที่นำเงินไปแจกเพื่อชดเชยรายได้แต่เพียงอย่างเดียวเพราะจะทำให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อในระยะต่อไป และ จะไม่ได้แก้ปัญหาแบบยั่งยืน การแจกเงินต้องเชื่อมโยงกับการก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ รายได้ใหม่ และ การพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจและธุรกิจไทยในอนาคต

ประเด็นที่ห้า มาตรการการเสริมสร้างอาชีพและทักษะใหม่ในชุมชนเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเป็นการผลิตสินค้าและบริการที่มีอุปสงค์รองรับ และ ต้องเป็นระบบการผลิตที่ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็งในระยะยาวมากกว่าพึ่งพิงทุนขนาดใหญ่แบบโครงการประชารัฐ

ประเด็นที่หก มาตรการชดเชยรายได้ (แจกเงินมีความจำเป็นแต่ไม่เพียงพอต่อการฟื้นเศรษฐกิจ ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ภาวะการทำงานของประชากรเดือน มกราคม .. 2563 พบว่าจำนวนผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 56.72 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานหรือผู้ที่พร้อม จะทำงาน 37.87 ล้านคน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีงานทำ 37.18 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.10 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 2.8 แสนคน รวมคนว่างงานและว่างงานแฝงประมาณ 6.9 แสนคน

ภาวะที่จำนวนคนว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสองเดือนจาก 1.1% เป็น 13.20-17.16% อาจมียอดคนว่างงานสะสมอยู่ที่ 5-6.5 ล้านคน ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน เมื่อรวมเข้ากับการว่างงานในภาคเกษตรกรรมเนื่องจากภัยแล้งบวกนักศึกษาจบใหม่ในเดือนพฤษภาคมจะทำให้จำนวนคนว่างงานเพิ่มสูงมากในเวลาอันสั้น

จึงมีความจำเป็นที่ต้องนำเอางบประมาณมาลงทุนโดยภาครัฐเพื่อให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ หรือ จ้างเอกชนทำโครงการต่างๆหรือผลิตสินค้าจำเป็นบางอย่างที่อาจจะขาดแคลนในอนาคตเพื่อเพิ่มการจ้างงานในระบบ และ ชะลอการเปิดเสรีการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเฉพาะในสาขาที่ประเทศไทยมีอุปทานแรงงานอยู่จำนวนมาก   

อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ตั้งข้อสังเกตถึง มาตรการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยว่า   มาตรการสินเชื่อต่ำพิเศษ ช่วยบรรเทา ปัญหาสภาพคล่องและความยากลำบากทางการเงินของผู้ประกอบการเท่านั้น ไม่มีหลักประกันอะไรที่สถานการณ์การเลิกจ้าง

การล้มละลายลงของกิจการจะหยุดลงในเวลาอันสั้น เนื่องจากอุปสงค์มวลรวมหดตัวอย่างรุนแรงฉับพลันมากกว่าที่ควรจะเป็น จาก การหยุดชะงักและทรุดตัวลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยว การคมนาคมขนส่งและภาคการผลิตบางส่วนอันเป็นผลมาจากตัวโรคระบาดเองและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค Covic19 ที่ไม่มีประสิทธิภาพและบูรณาการอย่างดีในช่วงแรก

รวมทั้งล่าสุดได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ พรก ฉุกเฉิน การใช้จ่ายเพื่อการจ้างงาน เพื่อลงทุน เพื่อกระตุ้นให้เกิดรายได้ใหม่ทดแทนรายได้ที่หายไป จึงสำคัญกว่า มาตรการสินเชื่อต่ำพิเศษ แต่มาตรการนี้ก็จำเป็นต้องมีแต่ไม่เพียงพอต้องมีมาตรการอื่นเสริม มาตรการนี้ถึงจะส่งผล

มาตรการช่วยเหลือกลุ่มทุนธนาคาร กลุ่มทุนขนาดใหญ่ หรือ การสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดการเงิน ต้องใช้การผ่อนคลายกฎระเบียบเป็นหลัก หลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนซึ่งในที่สุดจะแปลงมาเป็นภาระภาษีประชาชนหรือหนี้สาธารณะในอนาคต การจะออก ...ให้อำนาจ ธปท.ซื้อตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน ต้องเป็นตราสารที่ผู้ออกมีคุณภาพดีและต้องมุ่งไปที่การดูแลนักลงทุนรายย่อย หรือ นักลงทุนสถาบันที่เกี่ยวกับการบริหารผลประโยชน์การลงทุนให้กับผู้ออมที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ การดำเนินการภายใต้ ..ดังกล่าวต้องมีกลไกและคณะกรรมการในการพิจารณาที่ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินการซื้อตราสารหนี้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน                  

ตนมีความคาดหวังว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นอิสระโดยปราศจากการแทรกแซงของอำนาจรัฐที่อาจทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนได้ และ ต้องก่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) อย่างเสมอภาค

การทำมาตรการ QE ควรซื้อเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลเท่านั้นและการทำการขยายฐานเงินเพื่อสนับสนุนนโยบายการคลังต้องทำให้เกิดการจ้างงานและการผลิตในภาคเศรษฐกิจจริงจัง เศรษฐกิจถึงเติบโตได้อย่างยั่งยืน ไม่เช่นนั้นจะทำได้เพียงพยุงตลาดการเงินและราคาสินทรัพย์สินทางการเงินเท่านั้น 

อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายช้าเกินไป การปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าจากการไหลเข้ามาลงทุนตลาดตราสารหนี้จากการเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้นเก็งกำไรมาอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปี ทำให้เกิดฟองสบู่ในตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น ราคาปรับขึ้นไปเกินปัจจัยพื้นฐาน เมื่อเจอกับวิกฤติโรค Covic19 เกิดความตื่นตระหนกและการขาดทุน ควรเป็นเรื่องที่นักลงทุนควรต้องรับความเสี่ยงเองระดับหนึ่ง

ตราบเท่าที่ยังไม่กระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชน รัฐในนามของธนาคารแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเข้าแทรกแซง หากเกิดความผิดผลาดในการดำเนินการอาจเกิดความเสียหายจำนวนมากแบบกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินในยุควิกฤตการณ์เศรษฐกิจการเงินปี 2540 ได้

ส่วนตราสารหนี้ของเอกชนรายใหญ่หรือตราสารหนี้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ออกตราสารหนี้จำนวนมากเป็นกลุ่มได้ประโยชน์จากกระแสเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นอันเป็นผลจากการไม่ลดดอกเบี้ยและเงินบาทแข็ง แล้วก็เอาเงินทุนที่ระดมได้ไปลงทุนสร้างคอนโดรองรับการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มทุนจีน

ความเฟื่องฟูของ EEC ก่อนหน้านี้กระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากในเขตจังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทรา รวมทั้งเมืองท่องเที่ยวทั้งหลายอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย เป็นต้น สัญญาณของปัญหาอสังหาริมทรัพย์แบบปี 2540 เริ่มชัดขึ้นแต่ขณะนี้ยังไม่กระทบต่อฐานะของระบบสถาบันการเงินมากนัก เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กู้จากธนาคารน้อยลง กู้ด้วยการออกหุ้นกู้มากขึ้น

สถานการณ์ในปี 2563 หากเกิดปัญหาหนี้เสียอสังหาริมทรัพย์จะกระทบต่อตลาดตราสารหนี้มากกว่าธนาคาร แต่ธนาคารและสถาบันการเงินอื่นก็หลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้อยู่ดี  โรค Covic19 ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างฉับพลัน

มาตรการควบคุมการระบาดก็เข้ามาซ้ำเติมให้สถานการณ์การทรุดตัวลงของอุปสงค์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวรุนแรงขึ้นและน่าจะติดลบยืดเยื้อยาวนานไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงทำให้บางบริษัทอาจจะไม่สามารถชำระหนี้เมื่อตราสารหนี้ครบกำหนดได้ ฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่ประเด็นเรื่องการเทขายจากความตื่นตระหนกอย่างเดียว มันมีเรื่องของปัจจัยพื้นฐานเรื่องความเสี่ยงในการไม่สามารถชำระหนี้ได้รวมอยู่ด้วย

นอกจากนี้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีการแก้ไขใน สนช กันจนกระทั่งผิดเพี้ยนไปจากหลักการที่ดีซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง ทำให้กฎหมาย เป็นภาระกับผู้ซื้อหรือผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่เป็นธรรม ไม่ได้กำหนดให้ภาระภาษีเป็นไปตามฐานะทางเศรษฐกิจมากนัก การเลื่อนการบังคับใช้จึงเป็นเรื่องที่ดีแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะกระทบมากกว่านี้

ขณะเดียวกัน การเลื่อนการจัดเก็บภาษีที่ดินได้ทำให้เกิดปัญหาการขาดรายได้ขององค์กรส่วนท้องถิ่นที่จะนำไปพัฒนาและแก้ปัญหาในพื้นที่ด้วยเช่นเดียวกัน

รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยต้องให้ธุรกิจต่างๆและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แก้ปัญหาของตนเองก่อนในเบื้องต้น ด้วยการเพิ่มทุน หรือขายกิจการหรือขายอสังหาริมทรัพย์ในราคาส่วนลดตามสภาวะเศรษฐกิจหดตัว หรือทำการปรับโครงสร้างหนี้ผ่านกลไกของระบบธนาคารพาณิชย์ก่อนเพื่อให้นักธุรกิจ

นักลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติต้องรับผลขาดทุนตามสัดส่วนที่เป็นธรรมและความเสี่ยงที่ตัวเองต้องรับผิดชอบไปก่อน แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงค่อยนำเงินสาธารณะมาสร้างเสถียรภาพต่อตลาดการเงินด้วยการซื้อตราสารหนี้

หากไม่ทำอย่างที่ ตน แนะนำ สถานการณ์จะคล้ายกับสถานการณ์ที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน นำเงินสาธารณะ ไปซื้อตราสารหนี้ของเอกชน หรือ ไปเพิ่มทุนให้บรรดาบริษัทเงินทุนและธนาคารบางแห่งโดยเฉพาะธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ ก่อนวิกฤตการณ์การเงินปี 2540 การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างภาระหนี้ก้อนโตให้กับประชาชนผู้เสียภาษีในเวลาต่อมา

หากเวลานั้น ให้เอกชนพยายามเพิ่มทุนด้วยตัวเองก่อน หรือลดทุนก่อนแล้วจึงเพิ่มทุนให้ ความเสียหายและหนี้สาธารณะจะน้อยลงมาก ตอนนี้หนี้ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินยังใช้ไม่หมดเลย เวลาผ่านมากว่า 23 ปีแล้ว หากไม่ดำเนินการอย่างระมัดระวังและยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดแล้ว คณะกรรมการและผู้บริหารแบงก์ชาติอาจจะเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีเช่นในอดีตแม้นจะออกเป็น พรก ให้อำนาจกับแบงก์ชาติแล้วก็ตาม   

แม้น ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังยืนยันถึงความมีเสถียรภาพและความเข้มแข็งของระบบสถาบันการเงินและตลาดการเงินของประเทศ แต่หากปัญหาการทรุดตัวของอุปสงค์ลงอย่างรุนแรงจาก พรก ฉุกเฉิน อัตราการเติบโตติดลบของการท่องเที่ยวและภาคการผลิตยังดำเนินต่อไปจนถึงปลายปี

ประกอบกับการมีการลงทุนส่วนเกินและเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ใน EEC พัทยา ภูเก็ต กรุงเทพและปริมณฑล อาจทำให้เกิดปัญหาฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกได้เช่นเดียวกับปี 2540 ส่งผลให้เกิดหนี้เสียจำนวนมากและกระทบต่อฐานะของสถาบันการเงินได้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงควรมีมาตรการเชิงรุกเตรียมป้องกันไว้ก่อน 

อนุสรณ์ ธรรมใจ ยังระบุถึงส่วนการขอขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากออกไปเป็นเรื่องที่ดีแต่ช่วยคนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นการลดความกังวลใจของผู้ฝากเงินร่ำรวยมากกว่า ซึ่งเดือน ..นี้ จะลดการคุ้มครองเงินฝากลงเหลือไม่เกิน 1 ล้านบาท จาก 5 ล้านบาท การที่ ธปท.เสนอให้ขยายเวลาการคุ้มครองที่ 5 ล้านบาทไปอีก 1 ปี เป็นการยืดการขยายการคุ้มครองเงินฝากซึ่งทำให้คนที่มีเงินฝากเกิน 5 ล้านบาทซึ่งมีอยู่ประมาณไม่เกิน 1.5% ของเงินฝากทั้งระบบได้ประโยชน์

จากข้อมูลงานวิจัยของสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ผลงานของ อัจจนา ล่ำซำรัฐพร บุญเลิศสุรศักดิ์ เจิดพสุพรโสมรัศมิ์ จันทรัตน์ธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ผู้ฝากเงินรายใหญ่สุด 10% มีเงินฝากรวมถึง 93% ของเงินฝากในระบบธนาคาร คนไทย 56.4% มีเงินฝากในบัญชีไม่ถึง 3,142 บาท และ 32.8% มีเงินฝากไม่เกิน 500 บาท

ฉะนั้นรัฐบาลไม่ต้องแปลกใจว่า เมื่อรัฐบาลมีมาตรการแจกเงิน 5,000 บาท จึงมีคนลงทะเบียนกว่า 20 ล้านคน และ ทำไมรัฐสั่งให้ปิดกิจการ ลูกจ้างนอกระบบ ลูกจ้างรายวันถึงเดือดร้อนหนักมากเพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศแทบจะไม่มีเงินออมและมีหนี้สินมาก หาเช้ากินค่ำ หาค่ำกินเช้ากระทบจากประกาศเคอร์ฟิว หากไม่ได้ทำงานหรือขาดรายได้เพียงไม่กี่วันก็อยู่อย่างยากลำบากแล้ว ไม่มีหลักประกันเหมือนแรงงานในระบบ 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก

 

 


OttO