ธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นสุข

ธุรกิจที่ยั่งยืนและเป็นสุข

ขณะนั่งจัดของอยู่ในบ้าน
ผมดูคลิปบรรยายของ ดร.วัชรมงคล เบญจธนะฉัตร์
เผื่อใครไม่รู้จัก เขาคือเจ้าของบริษัท Bathroom Design
เป็นผู้บริหารธุรกิจตามวิถีพุทธและเศรษฐกิจพอเพียง
ตามแนวคำสอนท่านพุทธทาสและในหลวง

คำพูดของเขานั้นคม โดนและนำมาใช้พัฒนาธุรกิจได้จริง
แม้หลายคนสงสัยว่าวิถีพุทธไม่เห็นเข้ากับธุรกิจเลย
แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งที่เขาพูดสอนจะเอามาใช้ได้อีกนาน

มีอยู่สามคำในคลิปนี้ที่สะดุดใจผมเป็นอย่างมาก
คือคำว่า ผลิตให้มาก ใช้แต่พอดี และเหลือช่วยผู้อื่น

คำแรก ผลิตให้มาก เขาพูดถึง “ทำสิ่งที่เรารักให้มาก”
ดร. พูดว่า ชีวิตเราต้องทำงานให้เหมือนเป็นงานอดิเรก
เพราะเราจะทำงานด้วยความสุขตลอดเวลา
ผลงานก็จะไหลทะลักออกมาโดยอัตโนมัติ

ผมฟังแล้วชอบมาก เพราะมันจริงยิ่งกว่าจริง
เรื่องความรักในงานที่ทำ อาจจะยากแต่เราทำได้
การงานแบบนี้จะได้ผลงานเยอะและไม่เบื่อหน่าย

อีกคำคือคำว่า ใช้แต่พอดี
ผมสะดุดหูตรงคำว่า “พอดี” นี่แหละครับ
เพราะมันทำให้ผมนึกถึงเรื่องนึง

ช่วงนี้เราจะได้ยินหลายคนบ่นว่า “เศรษฐกิจไม่ดี”
แต่น่าแปลกที่ว่าผมยังคงเห็นหลายคนใช้จ่ายกันอย่างเต็มที่
รถใหม่ นาฬิกาใหม่ รองเท้าใหม่ ทั้งที่ไม่ใช่ของราคาถูกๆ

คำถามก็คือ “ไหนว่าเศรษฐกิจไม่ดี?”
ทำไมยังมีคนซื้อของใหม่อยู่เยอะแยะ
หรือจริงๆแล้ว
ที่หลายคนบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี
เพราะเขากำลังใช้แบบ “ไม่พอดี” ในเศรษฐกิจของเขา

ประเด็นก็คือ
เศรษฐกิจของใครจะดีหรือเปล่าไม่รู้
แต่การ “ใช้แต่พอดี” จะต้องเหมาะสม ไม่เหมาะสมไม่ได้
ผมว่านี่คือสิ่งที่เราต้องชั่งน้ำหนักไว้ในใจ
เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าเราขืนใช้จ่ายเกินตัว
เราก็จะพยายามหาข้ออ้างมากมาย
มาสนับสนุนเงินที่ลดลงว่า “เห็นมั๊ย? เศรษฐกิจไม่ดีจริงๆด้วย”
แล้วเราก็จะใช้เกินพอดี ต่อไปไม่สิ้นสุด

สำหรับคนที่เศรษฐกิจแย่จริงๆ
ผมไม่กล้าแนะนำวิธีการหาเงิน เพราะแต่ละคนคิดต่างกัน
แต่ผมแนะนำวิธีการส่วนตัวได้ว่า
แทนที่จะเอาค่าเน็ตใช้ฟังเพลง ดูมิวสิควิดีโอไปวันๆ
แทนที่จะเอาเวลาไปอ่านกระทู้ดราม่าทั้งหลาย
ขอให้เข้าไปดูรายการดีๆ ใน youtube
ให้ดูรายการที่สร้างแรงบันดาลใจจากคนสำเร็จเยอะๆ
เช่น TED Talk หรือรายการอื่นอีกมากมาย

เมื่อคุณเสพสิ่งดีๆ เข้าไปในหัว
พลังงานพิเศษมันจะขับเคลื่อนออกมา
แล้วคุณจะเริ่มมีมุมมองที่กว้างขวาง
มองเห็นอุปสรรคเป็นบทเรียนให้สู้ต่อไป

คำสุดท้ายคือคำว่า เหลือช่วยผู้อื่น
เมื่อคุณผลิตให้มาก ใช้แต่พอดี ก็จะมีสวนที่เหลือ
สามารถแบ่งปันช่วยเหลือให้คนอื่นๆ ต่อไปได้

แล้วในที่สุดคุณก็จะมีธุรกิจที่ยั่งยืน
ไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจอะไรทั้งนั้น
เพราะคุณทำด้วยความสุขและเป็นประโยชน์ครับ

 Aotto