ห้องเม่าปีกเหล็ก

ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย 3 ตลาดหุ้นโดดเด่นในปี 2017 ..!

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
68 views

 

นักวิเคราะห์คาดแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียในปี 2017 มีโอกาสเร่งตัวขึ้นตามปัจจัยพื้นฐานที่ดี โดยเฉพาะใน 3 ประเทศทางตอนใต้ของภูมิภาค อินเดีย อินโดนีเชีย และไทย

นักวิเคราะห์กล่าวกับ CNBC ว่าแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐที่จะตึงตัวขึ้นจากการที่ธนาคารกลาง (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และการชะลอตัวของการค้าโลกเพราะนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ จะเป็นปัจจัยส่งผลที่เอื้อต่อ 3 ประเทศดังกล่าว  

เฟรดเดอริค นิวแมน กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของ HSBC กล่าวว่าประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักอย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน คงไม่น่าจะฟื้นกลับมาดีในปีนี้

เขาแนะนักลงทุนให้มองเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งแรงขับเคลื่อนจากการบริโภคในประเทศ เช่นอินเดียและอินโดนีเชีย ซึ่งมีระดับภาระหนี้ที่ค่อนข้างต่ำ มีสภาพคล่องทางการเงินและการปล่อยสินเชื่อ และการบริโภคในประเทศที่คึกคัก  

ถึงแม้ HSBC จะยังมีมุมมองที่ค่อนข้างระวังสำหรับแนวโน้มการขยายตัวของภูมิภาคเอเชียโดยรวม ซึ่งน่าจะชอลอลง       เล็กน้อยในปี 2017 แทนที่จะเร่งตัวขึ้น แต่ 3 ประเทศที่กล่าวถึงจะมีความโดดเด่นในภูมิภาคนี้  

เคลวิน เตย์ หัวหน้าฝ่ายการลงทุนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ UBS กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยได้ปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในเอเชียในปี 2016 โดยได้เพิ่มขึ้น 20% ตามราคาน้ำมันที่กระเตื้องขึ้นเพราะน้ำหนักของหมวดธุรกิจพลังงานในดัชนี SET มีมากถึง 35%  

นอกจากนี้ วิษณุ วาราธาน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Mizuho Bank กล่าวว่านักลงทุนต่างชาติต่างมีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากช่วงการเปลี่ยนรัชกาลจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไปเป็นรัชกาลที่ 10 ได้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่น  

ส่วนทางด้านสกุลเงินของอินเดียและอินโดนีเชีย ก็น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในปีนี้ หลังจากที่ได้ผ่านช่วงความผันผวนใน 2-3 ปีที่ผ่านมาเมื่อเฟดเริ่มส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่

นิวแมนคาดว่าสกุลเงินรูปีของอินเดีย และเงินรูเปียะของอินโดนีเชีย คงจะไม่ถูกกระทบหรือผันผวนมากนักจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้  

ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ของอินโดนีเชียได้ริเริ่มโครงการยกโทษปรับผู้หลีกเลี่ยงภาษีตั้งแต่กลางปี 2016 ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 7,700 ล้านดอลลาร์ ณ  ปลายเดือน ธ.ค. ซึ่งถือเป็นผลงานสำคัญของรัฐบาลในการหารายได้มาจุนเจือโครงการลงทุนก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ

ส่วนทางด้านนายกรัฐมนตรีนเรนดระโมดี ของอินเดียได้เริ่มนโยบายยกเลิกการใช้ใบธนบัตรเก่าที่มีมูลค่าสูงตั้งแต่เดือน พ.ย. โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล และส่งเสริมการเปลี่ยนระบบการใช้จ่ายชำระเงินด้วยเงินสดไปเป็นแบบดิจิตอล

Money channel แปลและเรียบเรียง โดยวิฑูรย์  อมรวิรัตนสกุล
- See more at: http://www.moneychannel.co.th/news_detail/14666#sthash.sep1088W.dpuf


คนเล่นหุ้น