2 พฤษภาคม 2561 -- JAS ตั้งงบลงทุนโครงข่ายปี 61 สูงสุดหมื่นล้าน
บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เผยการลงทุนต่อเนื่องทั้งในปีก่อนหน้าและปีนี้อีกราว 7,000-10,000 ล้านบาท ขยายโครงข่ายธุรกิจอินเตอร์เน็ตใยแก้วนำแสง หนุนอัตรากำไรสุทธิของบริษัทให้กลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยถึงงบลงทุนที่วางไว้สำหรับปี 2561ไว้ที่ 7,000-10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายโครงข่ายธุรกิจอินเตอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (FTTx) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เป้าหมายของ JAS ในปีนี้ คือตั้งเป้าการให้บริการ FTTx ครอบคลุม 80% ของจำนวนครัวเรือนทั่วประเทศ และตั้งเป้าหมายจำนวนลูกค้าบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต จะเติบโตแตะ 5 ล้านราย ในปี 2563 จากไตรมาส 1/61 บริษัทมีลูกค้าอยู่ที่ 2.8 ล้านราย
ผู้บริหารของ JAS ยังระบุด้วยว่า จากแผนงานขยายโครงข่าย FTTx ในปีนี้ และปีที่ผ่านๆ มา รวมถึงการลงทุนอื่นๆ ทำให้เชื่อว่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า อัตรากำไรสุทธิของบริษัท จะกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากปีก่อนอยู่ที่ 14.73%
สำหรับแหล่งเงินเพื่อใช้ในการลงทุนดังกล่าว JAS ระบุว่า จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ 7,674 ล้านบาท รวมถึงเงินที่จะได้จากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท รุ่นที่ 3 หรือ JAS-W3
ส่วนการขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่ม มูลค่ารวม 50,000-70,000 ล้านบาท ให้แก่กองทุนโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ผู้บริหารระบุว่า จะมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ในวันศุกร์ที่ 11 พ.ค. 61 ซึ่งหากได้รับการอนุมัติฯ จะดำเนินการยื่นไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่ออนุมัติต่อไป โดยคาดว่าจะกำหนดการขายได้ในช่วงปลายปีนี้ และน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2562
โดยเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าว JAS จะนำไปใช้ในเรื่องของ FTTh expansion last mile ,และใช้คืนหนี้จากสถาบันทางการเงิน รวมถึงเป็นเงินปันผลพิเศษให้แก่ผู้ถือหุ้น
ส่วนการเข้าประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ผู้บริหาร JAS ยืนยันว่าไม่มีมีแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากต้องการเน้นขยายธุรกิจบรอดแบนด์เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม หากอนาคตมีการใช้งานในระบบ 5G เกิดขึ้นจริง ก็เชื่อมั่นว่าจากขยายโครงข่ายให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตในระดับความเร็วสูงถึง 10 Gbps จะสามารถรองรับเทคโนโลยีดังกล่าวได้
ที่มา: Money channel