หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นักวิเคราะห์มองท้าทาย 3 เรื่อง แนะขาย DELTA ซื้อ HANA-SVI ส่วน KCE แนะถือ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย มีมุมมองต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2566 บริษัทส่วนใหญ่มองเห็นความท้าทาย เนื่องจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อาจชะลอตัวลงในบางตลาด เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคอาจยังคงเห็นอุปสงค์ที่อ่อนแอในครึ่งแรกของปี 2566
ขณะที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และอุตสาหกรรมคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง ด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า( EV) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง ยังคงสามารถเติบโตต่อไปจากการเปลี่ยนใช้รถ EV
ยิ่งไปกว่านั้น บล.กสิกรไทย มองว่าการเปิดประเทศของจีนเป็นปัจจัยบวก แต่ค่าเงินที่แข็งแกร่งอาจส่งผลเสียต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โดยรวมแล้วกำไรของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อาจเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ ประเมินกำไรปี 2566 เติบโต 21% ช้ากว่าปี 2565 ที่ 74.2%
บล.กสิกรไทย คงมุมมอง ”เป็นกลาง”ต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดยเชื่อว่าการระบายสต๊อกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอัตราดอกเบี้ยที่สูง อาจส่งผลลบต่อกำไรและราคาหุ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
ขณะเดียวกันวงจรขาลงของอิเล็กทรอนิกส์อาจดำเนินต่อไปอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ราคาหุ้นอาจเห็นการปรับฐานในช่วงรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 แต่บล.กสิกรไทย มองว่าเป็นโอกาสในการ”ซื้อสะสม”เพื่อลงทุนระยะยาว
บล.กสิกรไทย แนะนำหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ดังนี้
-DELTA แนะนำ”ขาย”ให้ราคาเป้าหมาย 710 บาท
-HANA แนะนำ “ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 60.00 บาท
-KCE แนะนำ”ถือ”ให้ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท
-SVI แนะนำ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 11.30 บาท
บล.กสิกรไทย ระบุว่ากำไรปกติของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 6.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 4.9% จากไตรมาส 3 ปี 2565 (QoQ) โดยรวมแล้วออกมาสูงกว่าประมาณการของตลาด 7.4%
– ผู้ผลิตปลายน้ำแข็งแกร่ง
กำไรของ DELTA และ SVI เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ และยังสูงกว่าประมาณการของตลาด
สำหรับ DELTA รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 48.4% YoY และ 10.5% QoQ จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์จ่ายไฟสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวเป็น 24.5%
ส่วน SVI รายได้เติบโต 26.6% YoY และ 2.8% QoQ จากยอดขายอุปกรณ์เครื่องเสียงและระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น GPM ขยายตัวเช่นกันจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงและส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น
– ผู้ผลิตต้นน้ำและกลางน้ำอ่อนแอ
HANA กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ด้วยกำไรก้อนใหญ่จากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) แต่กำไรปกติอ่อนแอลงจากรายได้และ GPM ที่หดตัวลง และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) สูงขึ้น
KCE กำไรลดลง YoY และ QoQ ตาม GPM ที่อ่อนแอจากค่าไฟฟ้าและค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันที่ลดลงจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงปลาย 4Q22
สำหรับปี 2565 กำไรของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปี 2565 อยู่ที่ 2.082 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.2% จากปีก่อนหน้า
โดย DELTA แสดงการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดที่ 1.4 เท่า ขณะที่กำไรของ SVI เพิ่มขึ้น 18.6% กำไรของ HANA ดีขึ้น 5.4% แต่กำไรของ KCE ทรงตัว YoY
ขณะที่ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์และอุตสาหกรรมคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับ EV และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง ยังคงสามารถเติบโตต่อไปจากการเปลี่ยนใช้รถ EV