31 ตุลาคม 2562 -- Daily Strategy : บล.คันทรี่ กรุ๊ป
Daily View
คาด SET INDEX ปรับตัวขึ้นกรอบ 1602 - 1610 แม้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐจะออกมาลดดอกเบี้ยลง 0.25% สอดคล้องกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้พร้อมกับถ้อยแถลงที่ระบุไปในทิศทาง Hawkish มากขึ้นโดยมีการตัดคำว่า (Act as appropriate to sustain the expansion) หรือแปลเป็นไทยได้ว่าเฟดจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งประโยคดังกล่าวได้ปรากฎในทุกถ้อยแถลงนับตั้งแต่การประชุมเดือน มิ.ย. และจากถ้อยแถลงดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นสัญญาณนัยๆว่า ตลาดอาจจะไม่เห็นการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ความเห็นล่าสุดของ Bloomberg Consensus ให้โอกาสที่การประชุมเดือน ธ.ค. จะคงดอกเบี้ย 77%) อย่างไรก็ตามเรามองว่าการกระทำดังกล่าวของธนาคารกลางสหรัฐนั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มฟื้นตัวแล้วสอดคล้องกับตัวเลข GDP สหรัฐ 3Q19 ที่เมื่อคืนประกาศออกมาเติบโต 1.9%QoQ สูงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.6%QoQ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดผ่อนคลายในส่วนของความกังวลเศรษฐ กิจถดถอยและเราเชื่อว่าตลาดจะเริ่มกลับมาให้น้ำหนักกับทิศทางเศรษฐกิจมากกว่าน โยบายดอกเบี้ยดังนั้นแนะเริ่มจับตากับการตัวเลขเศรษฐกิจจากนี้ ส่วนการพบปะของโดนัล ทรัมป์ กับ สี จิ้น ผิง แม้ทางชิลีจะออกมาประกาศยกเลิกการจัดงานเอเปคในวันที่ 16-17 พ.ย. เนื่องจากมีปัญหาการประท้วงแต่ทางทำเนียบขาวได้ออกมายืนยันว่าทั้งสองผู้นำ จะยังคงหาทางบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกภายในช่วงเวลาเดิมเช่นเคย
Daily Strategy
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเรายังคงเน้นกลยุทธ์ Selective Buy แนะนำ COM7 เมื่อคืนที่ผ่านมา Apple ประกาศกำไรสุทธิออกมาดีกว่าที่ Bloomberg คาดการณ์ 6.6% มองเป็นบวกเชิงจิตวิทยา นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้นที่ทางเราประเมินว่า 3Q19 จะยัง เห็นการเติบโต YoY (BCH CPALL PLANB VGI WHA)
COM7 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 27.8 บาท) แม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะเกินกว่าราคาเป้า หมายที่เราได้วางไว้ อย่างไรก็ตามมองว่ายังสามารถ Trading ได้เนื่องจากปัจจัยบวก จาก iPhone 11 ที่กระแสตอบรับดีมากประกอบกับกำไรสุทธิของ Apple ออกมาดีกว่าที่ Bloomberg คาด ซึ่งน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ โดยเราคาดการณ์ว่ากำไรในปี 19 จะเติบโตได้ 17.5%YoY และ ปี 20 โตต่อเนื่องอีก 15%YoY
IVL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 47.5 บาท) เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากผลประกอบการในงวด 1H19 มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงานที่สร้างอัตรากำไรขั้นต้นสูงให้กับบริษัทเป็นระยะเวลา 4 เดือน ประกอบกับเกิด Stock loss ราว 4 พันล้านบาท ส่งผลให้ทั้งรายได้และอัตรากำไรมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามปัจจุบันโรงงานที่สร้างอัตรากำไรขั้นต้นสูงนั้นได้กลับมาเปิดทำการปกติ นอกจากนี้ยังมี Upside ในอนาคตจากการซื้อ Hunstman ที่จะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะกลางถึงยาว โดยมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการเพิ่มทุนเนื่องจากมีเงินสด และ หนี้ / ทุน เพียง 0.7
Analyst : Sittidath Prasertrungruang
Registration No. 17618
Tel. +66 2205 7000 ext. 4400
Assistant Strategist : Vathan Jitsomnuk