ห้องเม่าปีกเหล็ก

ดีใจ กับ เสียใจ อะไรมีค่ามากกว่ากัน

โดย GALAXYZ
เผยแพร่ :
98 views

ดีใจ กับ เสียใจ อะไรมีค่ามากกว่ากัน

 

มีคนถามว่าทำไมเราถึงไม่เล่นเกมส์ที่เป็นแฟร์เกมส์หรือเกมส์ที่โอกาสที่เราชนะเท่ากับแพ้ ทั้งที่มันก็ดูยุติธรรมดีนี่ ใช่ครับมันก็ดูยุติธรรม แต่เราลองมาดูเหตุการณ์นี้ดูครับ

สมมติมีคนมาชวนคุณไปลงทุน โดยมีโอกาสได้กำไรกับขาดทุนเท่าๆกัน (50-50) ถ้ากำไรได้ 100% ของเงินลงทุน แต่ถ้าขาดทุนเราต้องเสียเงินทั้งหมดที่เราลงทุนหรือ -100% ถ้าเราลงทุนแค่บาทสองบาทอาจโอเค แต่ถ้าการลงทุนนี้ต้องลงขั้นต่ำ 500 บาท และพอดีเรามีเงินเหลือเพียง 500 บาทแถมยังต้องเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวอีก เราจะลงทุนหรือไม่ ถ้าชนะเราได้มาอีก 500 บาทเป็น 1000 บาท แต่ถ้าเสีย เราจะไม่เหลืออะไรเลย

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตอบแบบง่ายๆคือ

สมมติว่าถ้าเราสามารถประเมินค่าอรรถประโยชน์หรือ Utility นี้ได้ด้วยสมการ U = Ln(W) เราจะได้กราฟของมันเมื่อเทียบกับความเสี่ยงตามรูป

รูปแสดงค่าอรรถประโยชน์ Utility ในแกน Y เมื่อเทียบกับความมั่งคั่ง W ในแกน X

ถ้าเราได้เงินเพิ่มมา 500 บาทเราจะมีอรรถประโยชน์เพิ่มมาประมาณ 0.69 หน่วย แต่ถ้าเราเสียมันไป สมมติว่า 400 บาท อรรถประโยชน์ของเราจะหายไป 1.61 หน่วย

ดังนั้นเราจึงสามารถสรุปโดยใช้หลักการนี้ได้ว่า ถ้าเรามีโอกาสที่จะได้เงินเพิ่ม แต่เราก็มีโอกาสเท่า ๆกันที่จะเสียเงินจำนวนเท่า ๆกันไปแล้วนั้นความสุขที่เราจะได้จากเงินที่เพิ่มนี้จะน้อยกว่าความเสียใจจากการที่เราสูญเสียหรือขาดทุนจากเงินจำนนวนเดียวกันนี้ หรือ

ดีใจมีค่าน้อยกว่าเสียใจ

ถ้าเราใช้หลักการเดียวกันในการลงทุนในหุ้น ถ้าเราไม่รู้อะไรเลยหรือเลือกลงทุนแบบเทรดดิ้ง โดยไม่ได้มีเครื่องมือใดๆ โอกาสที่เราจะได้กำไรหรือขาดทุนจะคาดเดาได้ยาก ขึ้นอยู่กับว่าตลาดหรือภาวะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะแบบไหน แต่ถ้าเอาแบบง่ายๆเราก็เหมือนมีโอกาสเท่าๆกันที่จะขาดทุนหรือกำไร ดังนั้นเราจึงไม่ควรเข้ามาลงทุน

ถ้าจะเข้ามาลงทุน นักลงทุนคนนั้นเขาต้องมั่นใจว่า เขามีเครื่องมือทางเทคนิค หรือศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจ มาระดับหนึ่งทำให้...

การลงทุนนี้สำหรับเขาไม่ได้เป็นแฟร์เกมส์

แต่เป็นเกมส์ที่เขามีแต้มต่อ ในแง่ของ

โอกาสที่เขาจะชนะมีมากกว่าที่เขาจะขาดทุน

ถ้าชนะเขาจะได้เงินที่มากกว่าในกรณีที่เขาขาดทุน

เขาจึงเลือกที่จะเข้ามาลงทุนในสนามนี้ครับ

 

 


GALAXYZ