สถานการณ์ตึงเครียดระหว่าง “ทรัมป์ vs รัสเซีย” กำลังเดินหน้าสู่จุดอันตรายอีกครั้ง
ทั้งหมดเริ่มต้นจากถ้อยแถลงของ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตปธน.รัสเซีย ที่ออกมาข่มอเมริกาเรื่องยูเครน พร้อมแนบวาทกรรมแรงถึงขั้น “สงครามนิวเคลียร์อาจเกิดได้”

คำพูดแบบนี้ ทำให้ฝั่งอเมริกาโดยเฉพาะ ทรัมป์ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดใน GOP ถึงกับเดือด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศผ่านโซเชียลว่า
“ผมสั่งเคลื่อนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำ ไปประจำการในพื้นที่เหมาะสม
เผื่อว่าคำพูดโง่ ๆ เหล่านี้ จะไม่ใช่แค่คำพูด”
แม้จะยังไม่มีการยืนยันจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แต่การออกแถลงการณ์เชิง “ข่มกลับ” อย่างเปิดเผยของทรัมป์
สะท้อนว่าบรรยากาศตอนนี้ไม่ใช่แค่สงครามตัวแทน แต่กำลังกลายเป็นสงครามโวหารระหว่าง “ตัวจริง”
พร้อมกันนั้น ทรัมป์ยังบีบปูตินด้วยการประกาศ “มาตรการคว่ำบาตรใหม่”
โดยเตรียมตั้งกำแพงภาษีต่อประเทศที่ยังซื้อพลังงานจากรัสเซีย
ซึ่งรวมถึงอินเดียด้วย — เป็นครั้งแรกที่ทรัมป์พาดพิงอินเดียในเชิงลบอย่างจงใจ
ฝั่งรัสเซียเองก็ไม่อยู่เฉย
เมดเวเดฟโพสต์สวนทันทีผ่าน Telegram ว่าอเมริกานั่นแหละคือ “เศรษฐกิจตายแล้ว”
ขณะเดียวกัน ปูตินก็แสดงจุดยืนแข็งกร้าวว่า “เป้าหมายในยูเครนยังไม่เปลี่ยน”
แม้จะมีการเจรจาล่าสุดที่ตุรกี
สุดท้าย ทรัมป์ยังทิ้งท้ายด้วยความหวังเล็ก ๆ
โดยส่ง “สตีฟ วิตคอฟฟ์” ทูตพิเศษไปมอสโก
หวังเปิดโต๊ะเจรจา (แม้จะยังไม่ระบุวันชัดเจน)
..
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงทันทีตั้งแต่วันศุกร์
ทั้งจากความกังวลเรื่องภาษีใหม่
และความตึงเครียดเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มใกล้จุดเดือด
แต่ในอีกด้านหนึ่ง
ตลาดก็ยังจับตาเรื่อง “การลดดอกเบี้ย” ที่กลับมามีโอกาสสูงในเดือนกันยายน
รวมถึงการเติบโตของกำไรบริษัทที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง
นักลงทุนต้องระวัง “ความผันผวนระยะสั้น”
แต่ไม่ต้อง panic
เพราะสุดท้ายตลาดจะกลับมาวิ่งตาม Earnings + Fed Policy อยู่ดี
..
โลกตอนนี้…ไม่ได้ร้อนแค่เรื่องเงินเฟ้อ
แต่ร้อนจาก “เกมชิงอำนาจระดับโลก” ที่กลับมาอีกครั้ง
เรือดำน้ำอาจจะยังไม่ยิง
แต่ “คำพูด” นั้นอาจส่งผลได้แรงกว่าที่คิด
ไปต่อให้ไหวครับ
ถือให้มั่น ติดตามให้ไว…เพราะเรื่องนี้ยังไม่จบง่าย ๆ แน่นอน
เนื้อหาที่มาจาก. เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด