หลังจากที่ทุกท่านต่างได้เฉลิมฉลองกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ราคาทองโลกและราคาทองไทยทำสถิติสูงสุดเหนือระดับ 2,000 เหรียญและ 30,000 บาท โดยในขณะที่ทุกคนกำลังยกแก้วดื่มกันอยู่นั้น …เราเชื่อว่า ในใจลึก ๆ ต่างรู้กันดีว่า “มันต้องมีสักวันที่ถูกเทขาย” เพียงแต่ไม่มีใครอยากพูดออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศ แต่หากถ้าทุกคนเลือกที่เก็บไว้ไม่แชร์ออกมา มันอาจกลายเป็นการทำร้ายทางอ้อมกับคนที่ไม่รู้จริง ๆ ดังนั้นในฐานะที่ตัวผมเองเคยประสบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดมาก่อน จึงอยากบอกเล่าให้ทุกคนได้ฟัง รวมถึงแชร์วิธีการรับมือ โดยหากถ้าสิ่งที่พูดนี้ไม่เข้าใจหูใคร ต้องขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ครั้งไหนและที่แห่งใดในไทยที่ทองคำเคยสร้างบาดแผลเลวร้ายที่สุดเอาไว้
ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน (2011) ทองคำได้สร้างเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งโลก “จำไม่รู้ลืม” โดยหากใครจำได้ ทองคำเคยสร้างจุดสูงสุดไว้ที่ $1920 ก่อนพังทลายลงมาจวบจนปัจจุบัน … แล้วในตอนนั้นเหตุการณ์มันเป็นอย่างไร ผมจะมาแชร์แบบละเอียดในฐานะ 1 คนที่ “อิน” และ “เจ็บ” หนักที่สุด กับการเทรด Gold Futures ในยุคแรกๆ ถ้าพร้อมกันแล้วลองรับฟังกันได้ครับ
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอนกำลังขึ้น)
จากรูปจะเห็นว่าในช่วงปี 2011 เป็น “ปีทอง” ของจริง โดยราคาค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปีจาก $1300 ไปเป็น $1600 ภายในเวลา 6 เดือน และ กระชากขึ้นอย่างขึ้นแรงไปเป็น $1900 ภายในเวลาแค่เดือนเดียว (สถานการณ์คุ้น ๆ กันไหมครับ?) ซึ่งในตอนนั้นกระแสเรื่องทองถือเป็น Talk of the town อย่างมาก ชนิดที่ว่า ขนาดแม่ค้าทอนเงินยังหันมาถามทิ้งท้ายว่าทองจะขึ้นต่อหรือไม่ หรือแม้กระทั่งนั่งแท็กซี่ก็ไม่วายต้องชวนคุยเรื่องทอง และแน่นอนว่า นอกจากที่เยาวราชแล้ว ตลาดที่ผู้คนตื่นตัวที่สุด คงหนีไม่พ้น “ตลาดทุน” โดยแทบทุกสถาบันการเงินต่างออก Product ที่เกี่ยวกับทองคำทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น การออก ETF ที่อ้างอิงกับราคาทอง หรือกองทุนต่าง ๆ และหนึ่งในตลาดที่นักลงทุนให้ความสนใจเก็งกำไรกับราคาทองมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “TFEX”
รีบเปิดบัญชี TFEX ให้เร็วที่สุด จะได้เปิด Long Gold Futures ทัน
ในช่วงนั้นทุก Broker ต่างเปลี่ยนประเด็นสัมมนามามุ่งเน้นเรื่องของ “Gold Futures” กันแทบทั้งหมด และมันบูมถึงขนาดมีคนคิดค้นทฤษฏีการเล่น TFEX อย่างถูกต้องขึ้นมา โดยมี 2 ขั้นตอน คือ
1.รีบเปิดบัญชี TFEX ให้เร็วที่สุด และ
2.รีบเปิด Long Gold Futures ให้เร็วกว่า !
โดยนี้คือสิ่งที่ถูกสอนกันในสังคมขณะนั้น หลายคนอาจจะมองว่ามันบ้าใช่ไหมครับ ? แต่ถ้าท่านอยู่ในจุดนั้น ท่านไม่กล้าตำหนิออกมาอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาพูดถูก ในช่วงเวลานั้น ตลาด TFEX เปรียบได้ดั่งแหล่งขุมทรัพย์ชนิดที่ว่า ถ้าทำตาม 2 ข้อนั้นได้ โดยอาศัยแค่ศรัทธา มันสามารถเปลี่ยนพอร์ตจากหลักหมื่นเป็นหลักแสน หรือหลักแสนเป็นหลักล้านภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน และตัวผมเองก็เป็น 1 ในนั้น สุดท้ายจึงกลายเป็น 1 ศพจากการถูกสังหารหมู่ โดยมาดูเรื่องราวทั้งหมดกัน
ทองกำลังเข้าสู่ Mania Phase
นี่คือคำที่ใช้เปรียบเปรยการเคลื่อนไหวของราคาทองในตอนนั้น โดยหากถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็ประมาณ “สภาวะบ้าคลั่ง” ที่แทบทุกสำนักต่างฟันธงเป้าหมายในระดับ $3000 - $5000 ด้วยเหตุผลอย่างเศรษฐกิจโลกกำลังถดถอย และความต้องการทำ QE (คุ้น ๆ กันอีกแล้วใช่ไหมครับ) โดยทุกคนมีความมั่นใจถึงขีดสุดว่าต้องไปถึงอย่างแน่นอน ! … มาถึงตรงนี้ ทุกท่านคงกำลังสงสัยว่าเราพูดเกินจริงและคิดแทนคนอื่นไปเองหรือเปล่า ? คำตอบ คือไม่ใช่เลย “คนแทบทั้งตลาดคิดเหมือนกันหมด” ถ้าไม่เชื่อ มาดูหลักฐานกัน
รูปแสดงการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Gold Futures เดือน ก.ค.-ส.ค. 2554
จากรูปจะเห็นว่ากราฟราคา GFZ11 พุ่งขึ้นแทบจะเป็นเส้นตรงวันละประมาณ 1,000 บาท สอดคล้องกับราคาทองโลกในช่วงนั้น ซึ่งนี้คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไรหาก Scale การขึ้นมันเป็นไปตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติ คือ “Gold Futures ดันขึ้นแรงกว่าราคาทองจริง” โดยในเวลานั้นราคาทองโลกขึ้นไปสูงสุดที่ $1900 และค่าเงินบาทอยู่ที่ ฿29.8 จึงคิดเป็นราคาทองไทยที่ $1900 x ฿29.8 x 0.473 = 26,800 บาท แต่ในรายของ Gold Futures กลับเทรดนำไปถึง 28,800 บาท ! ต่างกันถึง 2,000 บาท โดยปรากฏการณ์นี้อธิบายได้ง่าย ๆ คือ นักลงทุนในตลาด Futures กำลังมั่นใจอย่างสุดขีดว่าต้องขึ้นต่อ จึงกล้าเทรดนำหน้าไปขนาดนั้น (ประมาณ 100 กว่าเหรียญ) ทีนี่คงเชื่อแล้วใช่ไหมครับ ว่าในช่วงนั้นแทบทุกคนมีมุมมองแบบเดียวกันเกือบทั้งตลาด ซึ่งมันกลายมาเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ผมและรายย่อยคนอื่น ๆ ที่ซื้อทอง(หรือเปิด Long) ต้องจดจำไปจนวันตาย
24 ส.ค. 54 วันเริ่มต้นของหายนะราคาทองคำ
อีกเพียงไม่กี่วันก็จะครบรอบ 9 ปีในวันทองโลกวิปลาส โดยผมจะเล่าเหตุการณ์ในนั้นวันให้ฟังแบบละเอียด ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าตลาดเอเชีย “โชคดี” ที่ราคาทองโลกได้ส่งสัญญาณขายออกมาในช่วงเวลากลางวันบ้านเรา โดยราคาได้ถูกเทขายออกมาราว ๆ 50 เหรียญ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวลดลงตามประมาณ 1,000 บาท แต่ Gold Futures ลดลง 2,000 บาท !! (นักลงทุนที่เคย Trade Premium ไว้ ต่างขายออกมาเพราะเริ่มไม่มั่นใจกับราคา แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า “พวกเขารู้อะไรบางอย่างมา”) จากนั้นราคาชะลอการปรับตัวลง ทำให้มีช่วงเวลาที่ทุกคนได้พักหายใจและ “ตั้งสติ” ในการหาจังหวะถอยออกจากตลาดตามสัญญาณขายที่เกิดขึ้น …
แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่รายย่อยเมืองไทยคิด !
สิ่งที่ทุกคนควรทำ คือ ตั้งสติและตัดสินใจ “ถอย” แต่รายย่อยส่วนใหญ่ในวันนั้นกลับเลือกใช้วิธีตั้งสติแล้ว “ถัว” ! โดยใช้เวลาในช่วงภาคบ่ายที่เหลือหาเงินมาเปิดเพิ่ม เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ All In หมดหน้าตัก ! เพราะการปักป้าย Sale กระหน่ำกว่า 2,000 บาท ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงนี้ มีหรือคนไทยจะยอมพลาด และนั่นคือ ความคิดที่ผิดที่สุดที่คนเหล่านั้นไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขได้ เพราะหลังจากปิดตลาด 5 โมงเย็น … ราคาทองไหลลงอีกกว่า 100 เหรียญ โดยไม่มีใครที่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แม้กระทั่งโบรกเกอร์ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจผิด ๆ อย่างการไล่ Force sell นักลงทุนในทุกระดับราคา ส่งผลให้ Gold Futures ลงมากว่า 4,000 บาท ในช่วงเวลาเพียง 2 วัน
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอนกำลังประคองตัว)
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติในเวลาเพียงไม่กี่วัน
สรุปแล้วในตอนนั้น หลังจากราคาทองได้ขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดใหม่เหนือระดับ $1900 และ “Panic Sell” ออกมา 200 เหรียญ มาทำจุดต่ำสุดที่ $1700 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน ทุกอย่างก็ดูกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาประคองราคา จนกลับไป ณ จุดเดิมหรือใกล้เคียงเดิมได้ในเวลาเพียง 2-3 อาทิตย์ (คุ้น ๆ กันอีกแล้ว … ใช่ไหมครับ ?) ซึ่งในตอนนี้ผู้เล่นทองต่างก็คิดว่าความเลวร้ายทุกอย่างมันจบลงแล้ว ราคาน่าจะกลับมาเป็นขาขึ้นเพื่อเข้าสู่เทรนหลัก … “แต่ทิศทางมันไม่ได้แข็งแรงอีกต่อไปแล้วครับ” เพราะนักลงทุนอาจเริ่มหมดความเชื่อมั่น หรืออาจสงสัยและเริ่มรู้ว่ารายใหญ่ได้ทิ้งของออกมาในการ Panic รอบก่อนแล้ว จึงทำให้ราคาค่อยซึมตัวลง โดยช่วงนี้จะกินเวลาประมาณ 1-2 เดือน
รูปแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองในปี 2011 (ตอบจบรอบ)
สุดท้ายทุกอย่างก็เฉลย
ของที่มันแย่ไปแล้ว มีคนถล่มขายทิ้งหนักแล้ว ประคองไปยังไงก็แย่ … และนี้ภาพสุดท้าย โดยจะสังเกตว่า หลังจากผ่านช่วงหมดความศรัทธาโดยราคาได้พยายามประคองตัวสักพัก ก็เกิดการเทขายอย่างรุนแรงอีกครั้งกว่า 200 เหรียญ หลุด Low เดิมที่เคย Panic และนี้คือจุดจบในรอบขาขึ้นโดยสมบูรณ์แบบของราคาทองคำในครั้งนั้น ซึ่งนี่เป็นประสบการณ์ที่ผมจำได้ขึ้นใจในการเล่นทองปีนั้น
แล้วเราได้รับอะไรจากบทเรียนในครั้งนี้ ?
พวกท่านจำกระทู้ที่เราเคยตั้งไว้ตอนช่วง มีนาคม หลัง Cercuit Breaker รอบสุดท้ายได้ไหมครับ
https://pantip.com/topic/39716929 >> พวกเราคิดว่าตลาดขาลงรอบนี้มันจบแล้ว <<แชร์ข้อมูลสำคัญที่ทุกท่านจำเป็นต้องเข้าใจ>>
โดยในกระทู้นั่น เราค่อนข้างมั่นใจว่า “เกมส์การเงิน” ในตลาดหุ้นไทย ทุกครั้งที่จบรอบขาลงจะต้องจบด้วย “การ Panic” เพื่อกินกำไรก้อนใหญ่ครั้งสุดท้ายกับ Product จำพวก Short Sale/Futures หรือ Block Trade แต่สำหรับสินทรัพย์ระดับโลกเรามองว่า เกมส์มันซับซ้อนกว่านั้น โดยในปีนี้ เราได้เห็นเหตุการณ์แปลก ๆ อย่างกรณี ราคาน้ำมันติดลบ ดังนั้น ทองคำเองก็สามารถเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้เช่นเดียวกัน โดยสิ่งที่เราได้รับรู้ คือ “ทุกครั้งที่ Panic ห้ามเข้าไปยุ่งเด็ดขาด” แม้ในอีกอาทิตย์หรือเดือนถัดมาทุกอย่างดูเหมือนสงบก็ตาม แต่ … เราคิดว่ามันอาจเป็นแค่การหลอกล่อให้ทุกคนคิดแบบนั้น เพราะแท้จริงเกมมันอาจจะจบลงไปแล้ว … ซึ่งเราเองก็คงไม่กล้าที่จะบอกกับพวกท่านเลย หากถ้ามันเคยเกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว
แต่มันไม่ได้เคยเกิดขึ้นครั้งเดียว !
ทุกท่านยังจำช่วงสงกรานต์ทมิฬเมื่อ 7 ปีก่อน (2013) ได้ไหมครับ ? ในช่วงที่ตลาดบ้านเราปิดหยุดเล่นน้ำสงกรานต์ แต่ต่างประเทศยังคงเปิดทำการปกติ และราคาทองใช้เวลาแค่ 3 วันในการทิ้งดิ่งลงกว่า 200 เหรียญ … ถ้าใครจำไม่ได้ เรามาลองรื้อฟื้นกัน
รูปแสดงราคาทองโลกปี 2013
จากรูปจะเห็นว่าในช่วงนั้น ราคาทองได้ Panic ทิ้งดิ่งลงมาจาก $1550 มาถึง $1350 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันทำการ … จากนั้นก็มีแรงซื้อกลับประคองตัวให้ราคากลับไปใกล้เคียงก่อนลงมา โดยใช้เวลาประคองตัวราว ๆ 1-2 เดือน แต่สุดท้ายเมื่อความมั่นใจมันหมดลงไปแล้ว แรงซื้อในรอบนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไร และราคาทองก็ร่วงลงมาอีกกว่า 200 เหรียญแตะ $1200 และฟอร์มตัวขาลงตลอดครึ่งปีหลัง ลากยาวมาจนปัจจุบัน โดยนี่แหละครับ เราถึงบอกกับพวกท่านว่า การ Panic ของทองในแต่ละรอบสำหรับเรา มันเป็น “สัญญาณการขาย” มากกว่าความคิดที่จะซื้อกลับ แม้ราคาจะดูถูกลงมามากก็ตาม
รูปแสดงราคาทองไทยในปี 2020
ที่นี้เรามาดูราคาปัจจุบันกันบ้างดีกว่า
จากรูปราคาทองมีการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงจนเกือบเหมือนกับปี 2011 ที่ใช้เวลาค่อยๆไต่ขึ้น และกระชากขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเดือนที่ผ่านมา สุดท้ายจบด้วยการ Panic ลงมา 2-3 วันกว่า 200 เหรียญ ก่อนดีดตัวขึ้นมาทรง ๆ ตัวในช่วงอาทิตย์นี้ โดยเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าทุกอย่างมันจะซ้ำรอยอดีตหรือไม่ แต่ถ้าใครมีความคิดว่ามันจะคล้ายกัน … “ยังพอมีเวลารับมือครับ” เพราะ หากราคาจะกลับเป็นขาลงจริง ๆ เขาน่าจะฟอร์มตัวอีกสักพัก และนั่นคือเวลาที่พวกท่านจะหาข้อมูลกันต่อเพื่อทำการตัดสินใจหาวิธีการรับมือ โดยแบ่งเป็น 2 มุมมอง ดังนี้
1.สำหรับใครที่มองว่าราคาในตอนนี้ค่อนข้างสูงแล้ว และคิดว่ามีแนวโน้มปรับตัวลงครั้งใหญ่ แบบครั้งในอดีตให้ทยอยขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมา หรือเปิด Short ในตลาด TFEX เพื่อป้องกันความเสี่ยง และดูแนวโน้มในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าว่าจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่ โดยหากถ้าแรงซื้อยังสามารถต้านทานไหวกลับไปยืนเหนือ $2000 ได้จริง ๆ ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่าขาขึ้นรอบนี้จะยังไม่จบเพียงแค่นี้
2.สำหรับใครที่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองให้ถือต่อไปก่อน แล้วจับตาดูที่ Low เดิมที่เคย Panic ไว้ (แถว ๆ $1850) โดยจุดสังเกตจากรอบก่อน ๆ คือ เมื่อเวลาหลุด Low เดิมราคามีแนวโน้มไหลต่อไปได้อีกราว ๆ 200 เหรียญ และนั้นจึงเป็นจังหวะที่ทุกคนควรทยอยขายล็อคกำไร หรือเปิด Short เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือทำกำไรขาลงเพื่อชดเชยการขาดทุนจากการถือทองไว้
และในฐานะที่พวกเราเป็น 1 ในคนที่ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ Futures และติดตามการเคลื่อนไหวของตลาด TFEX อยู่ตลอด จึงอยากมาอัพเดทข้อมูลบางอย่างที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เคยรับรู้ว่าตลาด TFEX บ้านเราได้พัฒนาไปไกลถึงระดับไหนแล้ว โดยเป็นเรื่องที่น่าสนใจและเกิดประโยชน์กับทุกคนอย่างแน่นอน ซึ่ง Product ที่เราจะมาพูดถึงกัน คือ “Gold Online”
Gold Online ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับเก็งกำไรทอง
เชื่อไหมครับ ว่านี่คือ Product Futures ที่อ้างอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ ที่พวกเรารอคอยมาโดยตลอด เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคนรักการเก็งกำไรในราคาทองคำ และไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั่น … “คนทั้งตลาด” ก็คิดเหมือนกับพวกเราครับ โดยพวกท่านสามารถดูได้จากรูปนี้
รูปแสดงปริมาณการซื้อขาย Gold Online และ Gold Futures เฉลี่ยต่อวัน
GO โตเร็วแบบน่าเหลือเชื่อ โดยมีมูลค่าซื้อขายวันละประมาณ 15,000 ล้านบาท
จากรูปจะเห็นว่า Gold Online ที่เป็น Product น้องใหม่ที่เกิดมาไม่ถึง 2 ปี แต่กลับมี Volume เฉลี่ยต่อวันแซงหน้ารุ่นพ่ออย่าง Gold Futures ที่เป็น Product คู่บุญของตลาด TFEX มาช้านานอย่างหน้าตาเฉย และกำลังฉีกหนีกันแบบขาดลอยในอนาคต โดยในแต่ละวันจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยสูงถึง 26,000 สัญญา คิดเป็นมูลค่ารวมเท่ากับ 26,000 สัญญา x ราคาที่ 2,000 และ x จุดละ 300 = 15,600 ล้านบาท ขึ้นมาหายใจรดต้นคอผลิตภัณฑ์อันดับ 1 อย่าง SET50 Index Futures โดยเหตุการณ์นี้สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า “นักลงทุนทุกสารทิศที่เก็งกำไรทอง หันมาเล่น GO กันเป็นจำนวนมาก” ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยสามารถเล่นทีละละหลัก 10-100 สัญญาได้อย่างสบาย เราถึงบอกไงครับ ว่าไม่ใช่แค่เราที่รอ Product นี้เพียงกลุ่มเดียว โดยสาเหตุเป็นเพราะอะไร มาดูกัน
รูปแสดงรายละเอียดสำคัญของ Gold Online Futures
Gold Online ทลายปัญหาสำคัญแทบทุกอย่างสำหรับการเทรดทอง
นักเก็งกำไรทองมืออาชีพต่างก็เคยประสบกับปัญหาที่คาดการณ์แนวโน้มทองถูก แต่กลับไม่ได้รับกำไรเท่าที่ควร โดยเป็นเพราะว่า การซื้อทองหรือเล่น Gold Futures นั่นผลกระทบเรื่องของค่าเงินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น บางครั้ง(ส่วนใหญ่)ที่ราคาทองโลกขึ้น มักจะมาพร้อมกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า จนกลายเป็นว่าไปกดให้ราคาทองไทยไม่เคลื่อนไหว ซึ่งนี้คือปัญหาที่คาราคาซังของ Gold Futures มาเป็นเวลา 10 ปี ! จนในปีก่อน ตลาด TFEX ตัดสินใจออก Product ที่เรียกว่า Gold Online ขึ้น โดยหยิบเอา “ราคาทองโลก” มาอ้างอิง เสมือนเป็นดัชนีตัวหนึ่ง ทำให้นักลงทุนสามารถ เก็งราคาทองโลก โดยไม่มีผลของค่าเงินมากวนใจ โดย 1 จุดที่เปลี่ยนไปคิดเป็นกำไรขาดทุน 300 บาทกันง่าย ๆ แบบนี้เลย นอกจากนี้ยังได้ขยายเวลาเปิดทำการในช่วง Night Session ไปจนถึง “ตี 3” ครอบคลุมช่วงเวลาสำคัญที่ทองมักจะแกว่งแรงอีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างดูเป็น “สากล” มากขึ้น ดังนั้น จากนี้ไป ใครที่คิดจะเก็งกำไรราคาทอง พวกท่านสามารถเล่นผ่าน Gold Online Futures (GO) ได้
ในเรื่องของ Leverage ปัจจุบัน Gold Online ยังมีให้เลือกอยู่เพียงขนาดเดียว โดยใช้เงินวางประกัน 30,000 บาทต่อสัญญากับมูลค่าสัญญาประมาณ 600,000 บาท ซึ่งมันคงไม่ได้ยืดหยุ่นเท่าตลาด Forex ที่สามารถปรับ Leverage หรือกระจายหน่วยย่อยให้เล็กลงได้ แต่ก็แลกมาด้วยความสบายใจที่ไม่ต้องพึ่งพาโบรกเกอร์ Forex ที่หลายคนกังวลเรื่องความเสี่ยงในการปิดหนี และไม่แน่นะครับ หากถ้าคนเทรดเยอะมากจริง ๆ เราอาจได้เห็น Mini Gold Online เช่นเดียวกับ Mini SET50, mini Gold Futures เหมือนที่ผ่านมาก็ได้
และเพื่อเป็นโอกาสอันดีสำหรับคนที่อยากเริ่มต้น ทางตลาด TFEX ได้จัดโครงการ TFEX Trading Challenge 2020 ขึ้นมา เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้อง และแจกรางวัลจูงใจสำหรับนักลงทุน โดยทุ่มงบประมาณกว่า 2 ล้านบาท สำหรับใครที่เทรดอยู่แล้วอย่าปล่อยให้ตัวเองเสียสิทธิ์นะครับ โดยลงทะเบียนได้ที่ลิ้ง
https://portal.set.or.th/tsd/eventcalendar.html?sessId=65218&courseType=Y
และสำหรับมือใหม่พวกท่านสามารถเปิดบัญชีกับโบรกที่ไว้ใจได้ โดยเพื่อความสะดวกเราได้รวบรวมทั้งหมดไว้ให้ใน Spoil
สุดท้ายนี้เราขอแสดงเจตนาอีกครั้งว่าเรา “ไม่ได้มีความตั้งใจชี้นำทิศทางราคาแต่อย่างใด” เราแค่อยากออกมาบอกเล่าประสบการณ์เพื่อเป็น 1 ในข้อมูลที่ให้ทุกคนได้ใช้เป็นตัวตัดสินใจเพิ่มเติม โดยเราตระหนักดีว่า บทความนี้ไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนพอในการชี้นำราคาได้ ดังนั้น หากใครมีข้อมูลที่มีประโยชน์พวกท่านสามารถแสดงความเห็นกันต่อได้ โดยเราเองก็ยังมีสิ่งที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ทุกท่านตัดสินใจได้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยรวบรวมกลยุทธ์บทวิเคราะห์โบรกเกอร์ที่เผยแพร่สาธารณะประจำวัน และจะโพสในกระทู้ Pantip รวมถึงในห้อง Open Chat ทุกเช้า-เย็น ดังรูป
รูปแสดงกลยุทธ์ที่รวบรวมจากบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่ใน SETTRADE Research
และหากใครที่ยังไม่มีโบรกประจำพวกท่านสามารถมาร่วมกลุ่มกับพวกเราเพื่อต่อรองค่าธรรมเนียมให้ถูกลงได้โดยไม่มีเงื่อนไข หรือเข้ามาร่วมวงสนทนาและเทรด Gold Online หรือ Gold Futures ไปพร้อมกับพวกเรา&สมาชิกในห้องได้นะครับ หวังว่ากระทู้นี้จะสามารถเป็นประโยชน์กับนักลงทุนทุกท่าน โดยหากใครยังมีใครสนใจบทความของเรา ช่วยแสดงออกให้ได้รับรู้และติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
Credit : https://www.facebook.com/tfexforfuture
Line Sqaue : TFEX For Future
https://line.me/ti/g2/btLW138AZRRYIUeuCe-5GQ