จับตาประกาศงบ NVIDIA หุ้นที่สำคัญที่สุดในโลก AI
ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ NVIDIA ยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำที่สำคัญ ด้วยมูลค่าตลาดสูงถึง 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ บริษัทนี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับการพัฒนาเทคโนโลยี AI ทั่วโลก แม้จะมีอุปสรรคและความท้าทายจากเหตุการณ์ภายนอก เช่น “DeepSeek tantrum” ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด แต่ NVIDIA ยังคงแสดงศักยภาพและนวัตกรรมที่จะนำพาไปสู่อนาคตที่สดใส

บทบาทและความสำคัญของ NVIDIA ในยุค AI
NVIDIA คือหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนระบบ AI ผ่านชิปประมวลผลที่มีความสามารถสูง ใช้ในการทำงานที่ต้องการการคำนวณอย่างหนักในศูนย์ข้อมูล รวมถึงเป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อที่ใช้ในธุรกิจชั้นนำทั่วโลก
หุ้นของ NVIDIA ได้มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเกิดผลกระทบจาก “DeepSeek tantrum” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มูลค่าบริษัทลดลงชั่วคราว
โดยเทคโนโลยีของ NVIDIA ยังคงถูกนำไปใช้โดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Meta, Amazon, Microsoft และ Google ที่ลงทุนอย่างมหาศาลใน AI
ชิป Blackwell: นวัตกรรมที่มาพร้อมความท้าทาย
ชิป Blackwell ถือเป็นก้าวสำคัญในยุค AI ที่ NVIDIA กำลังผลักดันออกสู่ตลาด
การเพิ่มปริมาณการผลิตและการส่งมอบ:
ในไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน บริษัทได้เริ่มส่งมอบชิป Blackwell ให้กับลูกค้ารายสำคัญ และคาดว่าจะขยายการส่งมอบนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 2026 แม้ในช่วงแรกจะต้องเผชิญกับปัญหาล่าช้าและอุปสรรคด้านห่วงโซ่อุปทาน
ความซับซ้อนและผลกระทบต่ออัตราผลิต (Yield):
เนื่องจากชิป Blackwell มีความซับซ้อนเกือบสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า (Hopper) ทำให้ในช่วงแรกอัตราการผลิตอาจจะไม่สูงเท่าที่คาดหวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในช่วงการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ
ผลกระทบต่อกำไร:
นักวิเคราะห์จาก Bank of America ระบุว่า ผลประกอบการต่อหุ้นของ NVIDIA ในไตรมาสนี้ “อาจมีความแข็งแกร่งที่มีสาระสำคัญ” แม้ภาพรวมจะดูไม่อลังการเท่าที่เคยเป็นมา
ผลกระทบจากเหตุการณ์ DeepSeek และการแข่งขันในตลาด AI
แพลตฟอร์ม AI ชื่อ DeepSeek จากจีนได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาด ด้วยการอ้างว่าสามารถให้บริการ AI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าและใช้ชิบน้อยกว่าเทียบกับคู่แข่ง
ผลกระทบต่อตลาด:
หลังจากข่าวจาก DeepSeek ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ NVIDIA ลดลงเกือบ 700 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นของบริษัทยังคงปรับตัวขึ้นมามากกว่า 70% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพระยะยาว
มุมมองจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่:
ผู้บริหารของบริษัทชั้นนำอย่าง Meta และ Amazon มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นโอกาสให้เกิดการเรียนรู้และนวัตกรรมในการลดต้นทุน แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์จากนักวิเคราะห์ที่ตั้งคำถามว่า DeepSeek จะสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางของเทคโนโลยี AI ได้จริงหรือไม่
คาดการณ์ผลประกอบการและตัวเลขสำคัญ
ข้อมูลจาก Bloomberg Intelligence ให้ภาพรวมที่น่าจับตามองเกี่ยวกับผลประกอบการของ NVIDIA ในไตรมาสที่จะถึงนี้
ยอดขายและกำไร:
คาดว่าในไตรมาสเดือนมกราคม ยอดขายของ NVIDIA จะเพิ่มขึ้นถึง 72% ไปสู่ 38.1 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นราว 5% ไปสู่ 21 พันล้านดอลลาร์
อัตรากำไรขั้นต้น:
แม้การผลิตชิป Blackwell ในช่วงแรกอาจกดดันอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 4 และไตรมาสแรก แต่มีแนวโน้มว่าระดับอัตรากำไรจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 70% กลางๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
การเปลี่ยนบทบาทและการขยายตลาดของ NVIDIA
NVIDIA ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่การผลิตชิปอีกต่อไป แต่ได้ขยายบทบาทไปสู่การเป็น OEM ที่ให้บริการระบบ AI แบบครบวงจร
การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์และบริการครบวงจร:
ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง DGX และเซิร์ฟเวอร์ Blackwell ที่กำลังเข้ามาในตลาด NVIDIA กำลังเปลี่ยนจากแค่การผลิตชิปไปสู่การจัดหาโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ที่ตอบโจทย์งานประมวลผล AI ได้อย่างครบวงจร
ส่วนแบ่งตลาดในด้าน GPU และเครือข่าย:
จากการสำรวจของ Bloomberg Intelligence พบว่า NVIDIA ยังคงครองส่วนแบ่งตลาด GPU สำหรับงาน AI มากกว่า 50% โดยในด้านเครือข่าย ผลิตภัณฑ์ Spectrum Ethernet ของบริษัทยังคงมีส่วนแบ่งอยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศ AI ของ NVIDIA
การแข่งขันในตลาดฮาร์ดแวร์:
แม้ว่า NVIDIA จะมีความโดดเด่นในตลาด GPU แต่คู่แข่งอย่าง AWS ก็เริ่มพัฒนาชิปของตัวเอง (Trainium) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มการแข่งขันในอนาคตจะทวีความเข้มข้นมากขึ้น
ปัจจัยความเสี่ยงและแนวโน้มในอนาคต
แม้ NVIDIA จะมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องจับตา
ความซับซ้อนของชิป Blackwell:
ความท้าทายจากการผลิตชิปที่มีความซับซ้อนสูงอาจทำให้อัตราผลิตในช่วงเริ่มต้นต่ำลง ส่งผลต่อกำไรในระยะสั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน:
ข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปที่ทันสมัยไปยังจีนส่งผลให้ตลาดจีนมีสัดส่วนการสั่งซื้ออยู่ที่ประมาณ 10-15% ของยอดส่งออกทั้งหมดของ NVIDIA ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบในอนาคต
การแข่งขันทางเทคโนโลยี:
แม้ NVIDIA จะครองส่วนแบ่งตลาด GPU สำหรับงาน AI ได้มากกว่า 50% แต่การที่คู่แข่งอย่าง Amazon กำลังพัฒนาชิปของตัวเอง อาจเป็นความท้าทายในระยะยาวที่บริษัทต้องเตรียมรับมือ
สรุป
แม้จะเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิตและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเทคโนโลยี NVIDIA ยังคงแสดงถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการปรับตัว ด้วยการผลักดันชิป Blackwell ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ พร้อมทั้งการขยายบทบาทไปสู่การเป็นผู้ให้บริการระบบ AI แบบครบวงจร และบริษัทได้วางรากฐานที่มั่นคงเพื่อรับมือกับอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจในเทคโนโลยี AI การจับตาดูผลประกอบการและนวัตกรรมจาก NVIDIA ในไตรมาสที่จะถึงนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยนแปลงโลกอย่างแท้จริง
ด้วยความมุ่งมั่นในนวัตกรรมและการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง NVIDIA ยังคงเป็นผู้นำที่นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไม่ควรมองข้ามในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างอย่างรวดเร็ว


ที่มาเนื้อหาข้อมูล https://web.facebook.com/share/p/1FYYhnSFMB/