ปีแห่งการล้างบางใหญ่ และล้างบางเล็กของโลก! :
1..) ปีที่แล้ว ( ปี 2022 ) คือปีแห่งการล้างบางใหญ่ของโลก ทําให้ตลาดหุ้นทั่วโลกสูญเสียมูลค่าไป 25 ล้านล้าน USD, ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกสูญเสียมูลค่าไป 9.6 ล้านล้าน USD และตลาดคริปโตฯทั่วโลกสูญเสียมูลค่าไป 2 ล้านล้าน USD ( คล้ายๆกับปี 2008 )
2..) ปีนี้ ( ปี 2023 ) คือปีแห่งการล้างบางเล็กของโลก เป็นการเกิด Afttershock ตามมาจากปี 2022 ทําให้บริษัทฯใหญ่ๆทั่วโลกต้องลดจํานวนพนักงานลง และเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย ( คล้ายๆกับปี 2009 )
3..) ตั้งแต่ปีหน้า ( ปี 2024 ) เป็นต้นไป เป็นปีที่ฟ้าเปิด หรือปีที่ขึ้นจากหลุม หรือปีที่ลืมตาอ้าปากได้ ( หรือแล้วแต่จะเรียก ) และเกิดขาขึ้นรอบใหญ่รอบต่อไปหลังจากการล้างบางใหญ่ในปี 2022 และล้างบางเล็กในปี 2023 ของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก และเป็นการขึ้นรอบใหญ่อย่างต่อเนื่องไปอีก 10 ปีหรืออาจจะยาวนานมากกว่านี้ ( คล้ายๆกับระหว่างปี 2010 - 2021 )
4..) ข้อแตกต่างระหว่างปี 2010 - 2021 และตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไปอีก 10 ปีหรืออาจจะยาวนานมากว่านี้คือระหว่างปี 2010 - 2021 เป็นปีที่เงินเฟ้อตํ่าและดอกเบี้ยตํ่า ส่วนตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไปอีก 10 ปีหรืออาจจะยาวนานมากกว่านี้ เป็นปีที่เงินเฟ้อสูงและดอกเบี้ยสูงเพราะ :
4.1..) ต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้นจากความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ และผลจากความขัดแย้งครั้งนี้ จะเป็นตัวชี้ขาดว่าใครจะเป็นมหาอํานาจอันดับหนึ่งของโลกระหว่างสหรัฐฯกับจีน
4.2..) ต้นทุนการผลิตสินค้าที่สูงขึ้นจากนโยบาย Net Zero Carbon ของโลก
5..) คาดว่าคริปโตฯและ Web.3.0 เติบโตได้ดีตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไปอีก 10 ปีหรืออาจจะยาวนานมากกว่านี้ โดยจะมีมูลค่าทางการตลาดเติบโตจาก 1 ล้านล้าน USD ในปัจจุบันไปเป็น 300 ล้านล้าน USD ( หรือเติบโต 300 เท่า ) ในอีก 10 - 15 ปีข้างหน้า
6..) กลยุทธการลงทุนคือ :
6.1..) ปี 2022 : ซื้อเมื่อมีการย่อตัว
6.2..) ปี 2023 : ซื้อแบบ DCA
6.3..) ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป : ถือลงทุนไปอีก 10 ปีข้างหน้าหรืออาจจะยาวนานมากกว่านี้ ด้วยผลตอบแทนเป้าหมายเฉลี่ยต่อปีที่ 20%
6.4..) สินทรัพย์ลงทุน : Bitcoin, XRP, Dogecoin และ LUNC อย่างละ 25% ของพอร์ตลงทุน
หมายเหตุ : การล้างบางครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดของโลกคือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ( ปี 2008 )