กนง.ขึ้นดอกเบี้ย กระทบตลาดหุ้น-ค่าเงินแค่ไหน?.

หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วรอบนี้ 0.75% จะเข้าสู่ช่วงการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 28 ก.ย.นี้ โดยภาพรวมตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% กระทบหุ้นไทยไม่มาก แต่หากขึ้น 0.50% มองร่วงแรง ฟากเงินบาทมองกรอบอ่อนค่าสุดได้ถึง 38 บาท/ดอลลาร์
.
โดย "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ได้รวบรวมความคิดเห็นนักวิเคราะห์และศูนย์วิจัยต่างๆ ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยก.ย. 65 โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าคาดว่ากนง. ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เพราะเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่งขนาดต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น ซึ่งกระทบตลาดหุ้นไทยไม่มากนัก เพราะเป็นไปตามนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,670 จุด แต่หากปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% จะเป็นลบต่อตลาดค่อนข้างมาก เพราะขึ้นมากกว่านักวิเคราะห์คาด ส่งผลตลาดอาจตกใจและปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,620-1,630 จุด
.
ส่วนทิศทางค่าเงินบาทคาดว่ามีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า โดยมีโอกาสไปแตะที่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์ แต่ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.65 เงินบาทน่าจะกลับมาแข็งค่า เนื่องจากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวที่น่าจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามหากปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ก็อาจช่วยให้เงินบาทแข็งค่าระยะสั้นได้ แต่มีข้อเสียคือทำให้กำลังซื้อแย่ลงและต้นทุนบริษัทจดทะเบียน (บจ.) สูงขึ้น
.
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่าเชื่อว่าการประชุมกนง.รอบนี้น่าจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ส่วนน้ำหนักที่ระดับ 0.50% ยังค่อนข้างน้อย โดยคาดทิศทางค่าเงินบาทในช่วง 1-2 เดือนยังมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่ เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อและทิศทางดอกเบี้ยของเฟดที่เหลืออีก 2 ครั้ง โดยมีระดับจุดทดสอบถัดไปที่บริเวณ 37.50 บาทต่อดอลลาร์ และหากกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ยังประเมินไม่ได้ว่าค่าเงินบาทจะกลับมาแข็งค่าขึ้นหรือไม่ เพราะมองว่าส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างไทยและสหรัฐฯก็ยังห่างอยู่
.
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าคาดว่ากนง.จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% เช่นกัน เพราะเศรษฐกิจไทยยังฟื้นไม่เต็มที่และการปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงๆคงไม่ทันกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯอยู่แล้ว รวมถึงเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วอาจทำให้เศรษฐกิจชะงักและต้นทุนค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น พร้อมคาดค่าเงินบาทจะอ่อนค่าไม่เกิน 37.5-38 บาทต่อดอลลาร์ เพราะช่วงไตรมาส 4/65 การท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาและหนุนให้เงินต่างชาติไหลเข้ามา
.
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า คาดกนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ 0.25% ซึ่งมองว่าจะกระทบตลาดหุ้นไทยน้อย โดยคาดว่าจะปรับตัวลดลงไม่เกิน 10 จุด ด้านค่าเงินบาทคาดว่ายังอยู่ระดับทรงตัวกรอบไม่เกิน 37.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเป้นสถานการณ์ที่ตลาดคาดการณ์อยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามหากกนง. ปรับขึ้น 0.50% คาดว่าจะเซอร์ไพร์สตลาด ซึ่งมีโอกาสกดดันให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงแรงในระดับติดลบ 10-25% ได้
.
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดว่าไทยขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ 0.25% โดยยังขึ้นในระดับน้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ เนื่องจากสัญญาณเงินเฟ้อไทยน้อยกว่าและภาพรวมราคาพลังงานเริ่มชะลอตัวลง จึงมีดอกาสกดดันหุ้นไทยให้เคลื่อนไหวในระดับทรงตัว อย่างไรก็ตามหากปรับขึ้น0.50% มากกว่าคาด มองว่าจะทรงผลกระทบต่อภาระต้นทุนการเงิน การบริโภคมากขึ้น คุณภาพลูกหนี้แย่ลง จึงมีโอกาสกดดันหุ้นไทยร่วงลง 15-20 จุด


***********************************