ห้องเม่าปีกเหล็ก

เฮดจ์ฟันด์

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
53 views

Jim Rogers ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ เฮดจ์ฟันด์ ดังนี้ คือ :

เฮดจ์ฟันด์กองแรกเกิดขึ้นในโลกในปี ค.ศ 1949 โดยอัลเฟรด วินสโลว์ โจนส์ กองทุน เอ ดับเบิลยู โจนส์ยังอยู่ตอนที่เรา ( หมายถึง George Soros และ Jim Rogers ) เริ่มกองทุนของเราเอง และ ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน กองทุนนี้ประสบผลสําเร็จอย่างสูงในทศวรรษที่ 50 และ 60 เราใช้โครงสร้างการจ่ายผลตอบแทนแบบเดียวกับที่โจนส์คิดขึ้นและคนอื่นๆก็ใช้มันเข่นเดียวกัน ณ ตอนนั้น

ความแตกต่างหลักระหว่างเฮดจ์ฟันด์กับกองทุนรวมนั้นอยู่ที่ความสามารถในการป้องกันความเสียง ( Hedge ) ตามชื่อของกองทุน เฮดจ์ฟันด์สามารถขายชอร์ต ( Short ) ได้ กองทุนรวมในสหรัฐจะซื้อหุ้นอย่างเดียว พวกเขาเล่นขาขึ้น ( Long ) ได้เท่านั้น พวกเขาถูกจํากัดโดยกฏการจ่ายผลตอบแทนโดย ก.ล.ต. ให้เก็บค่าธรรมเนียมในอัตราที่ตํ่า และพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้กู้ยืมเงินนั่นคือพวกเขาซื้อด้วยมาร์จิ้น ไม่ได้ เฮดจ์ฟันด์สามารถซื้อด้วยมาร์จิ้นได้และพวกเขาสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ เราเรียกเก็บค่าบริหารจัดการประจําปีอยู่ที่ร้อยละหนึ่งจากสินทรัพย์ทั้งหมด กองทุนรวมอาจจะเรียกเก์บอยู่ที่ร้อยละ 0.5 เราเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเป็นรางวัลจูงใจที่ร้อยละ 20 จากกําไรสะสมทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรฐานในการจัดเก็บในช่วงนั้น

โดยหลักการแล้วเฮดจ์ฟันด์จะทํากําไรได้ตลอดเาลาทั้งในปีที่ดีและปีที่แย่เพราะพวกเขาสามารถเล่นขาลงได้ และนั่นเป็นเหตุผลในการมีค่าธรรมเนียมเป็นรางวัลจูงใจ ถ้าคุณจัดการได้ดีจะทําเงินได้มหาศาล ถ้าคุณทํากําไรไม่ได้เลยนักลงทุนก็ไม่ต้องจ่ายเงินให้คุณเลย แต่เมื่อใดที่คุณทํากําไรได้มากนักลงทุนก็ยินดีที่จะจ่ายรางวัลร้อยละ 20 ให้คุณ เพราะพวกเขาก็ทําเงินได้มากไปด้วยเช่นกัน

ผม ( หมายถึง Jim Rogers ) และ George Soros ก่อตั้งควอนตัมฟันด์ขึ้นบนสํานักงานเล็กๆ ใน ปี ค.ศ 1973 โดย George Soros เป็นหุ้นส่วนหลัก ส่วนผมเป็นหุ้นส่วนรอง ควอนตัมฟันด์เป็นเฮดจ์ฟันด์ที่เชี่ยวชาญในการลงทุนในต่างประเทศสําหรับนักลงทุนต่างชาตืที่ไม่ต้องเสียภาษีเพื่อความเท่าเทียมทางผลประโยชน์ บริษัทจดทะเบียนที่เนเธอร์แลนด์ แอนทีลีส เราซื้อและขายชอร์ตในหุ้น โภคภัณฆ์ สกุลเงิน และพันธบัตรในทุกที่ทั่วโลก เราลงทุนในที่ที่คนอื่นไม่ทํา แสวงหาประโยชน์จากตลาดที่ยังไม่มีไครเข้าใช้ประโยชน์ทั่วโลก ผมทํางานโดยไม่หยุด สร้างความชํานาญให้ตัวเองในเรื่องการไหลของทุน โภคภัณฆ์ วัตถุดิบและข้อมูลข่าวสารทั่วโลก

ใน ปี ค.ศ 1974 มีเฮดจ์ฟันด์เหลืออยู่บนโลกแค่หยิบมือเดียว เฮดจ์ฟันด์มีอยู่ไม่มากอยู่แล้วตั้งแต่ต้น และส่วนใหญ่ต้องเลิกกิจการไปเพราะวอลสตรีทเป็นสถานที่ที่แย่มากในการทําเงิน และไม่กี่กองที่เหลืออยู่ก็เลือกลงทุนในสหรัฐเป็นหลัก เราเป็นเฮดจ์ฟันด์กองเดียวที่ลงทุนในระดับนานาชาติ โดยทฤษฏีแล้วคนที่จัดการเฮดจ์ฟันด์เป็นคนที่ฉลาด แต่กลับไม่มีไครลงทุนในต่างประเทศ ณ ขณะนั้น มีไม่กี่คนในตอนนั้นที่สามารถหาเบลเยี่ยมเจอในแผนที่ ไม่ต้องพูดถึงการเข้าใช้ประโยชน์จากมัน

หลังสงครามจบลง เอ ดับเบิลยู โจนส์เข้าพบกับนักลงทุนแล้วบอกว่า " ผมเป็นคนฉลาด ผมกําลังจะตั้งกองทุนประเภทที่ผมจะประกันความเสี่ยงให้การลงทุนของผม ของเรา และเนื่องจากผมเป็นนักลงทุนที่มีฝีมิอ ผมจึงคาดไว้ว่าคุณจะจ่ายเงินให้ผมอย่างงามถ้าผมจัดการได้ดี ถ้าคุณต้องการลงทุนกับผม คุณก็ต้องจ่าย " กองทุนรวมในขณะนั้น ( และจนเดี่ยวนี้ ) ไม่สามารถเก็บค่าธรรมเนียมเป็นรางวัลจูงใจได้ แต่ตามตัวบทกฏหมายแล้ว ถ้าคุณมีผู้ลงทุนน้อยกว่าเก้าสิบเก้าคนก็ไม่ถือว่าคุณระดมทุนจากสาธารณะ ไม่เหมือนอย่างกองทุนฟิเดลีตี้ที่ระดมทุนจากผู้ลงทุนหลายล้านคน และกองทุนส่วนบุคคลนั้นสามารถจัดการผลตอบแทนได้ตามต้องการ ดังนั้นเฮดจ์ฟันด์จึงออกแบบให้มีขนาดเล็ก

George Soros เป็นเทรดเดอร์ที่เก่งมากและจับจังหวะของตลาดได้อย่างยอดเยี่ยม มันเป็นเรื่องที่ผมไม่เก่งเลยและไม่สนใจมันด้วย ผมทํางานค้นคว้าเกือบทั้งหมด ผมสนใจพริกหินขึันมาดูแล้วตามเงื่อนงําที่พบไป มันเป็นสิ่งที่ผมหลงใหลและมันก็ตอบแทนคืนให้ผมเมื่อ ปี ค.ศ 1964 ตอนที่ผมจับพลัดจับผลูมาที่วอลสตรีทและพบกับงานที่ผมยินดีที่จะทําให้ฟรีๆ ถ้าผมมีทางอื่นที่จะเลี้ยงตัวเองได้ไปพร้อมๆกัน

ผมตัดเงินเดือนผมอย่างมากเพื่อเริ่มธุรกิจนี้ ผมตัดเงินเดือนไปร้อยละ 75 แต่เงินไม่ไช่ประเด็นของผม ต่อไปนี้คือคําแนะนําที่ผมให้กับทุกคน เป็นคําแนะนําที่ผมจะให้กับลูกๆของผม ก่อนที่คุณจะถามว่าคุณจะได้เงินเท่าไหร่ในการทํางาน อย่างแรกคุณต้องตัดสินใจก่อนว่านี่เป็นงานที่ไช่หรืดเปล่า เพราะถ้ามันเป็นที่ที่ไช่และคุณได้ทํางานที่ไช่ เงินก็จะมาหาคุณเอง ผมยืนยันกับคุณได้เลยว่าเงินจะตามหาคุณ เงินควรจะเป็นเรืองที่เล็กที่สุดสําหรับคุณ

ผู้โพสต์ขอให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมดังนี้คือ :

1) ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลที่ก่อกําเนิดนักเก็งกําไรและนักลงทุนระดับตํานานโลก 2 ท่าน คือ George Soros เป็นนักเก็งกําไรค่าเงิน ส่วน Jim Rogers เป็นนักลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์

2) การเก็งกําไรที่ประสบผลสําเร็จมากที่สุดในโลกเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ 

2.1) George Soros ขาย Short ค่าเงินปอนด์ใน ปี ค.ศ 1992 แล้วได้กําไร 2,000 ล้าน USD

2.2) John Paulson ขาย Short Subprime Assets ใน ปี ค.ศ 2007 แล้วได้กําไร 15,000 ล้าน USD

3) ปัจจุบัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์มีอยู่ประมาณ 10,000 กองทุนทั่วโลก มีสีนทรัพย์บริหารจัดการทั้งสี้น 3.00  ล้านล้าน USD โดยมีกองที่ใหญ่ที่สุด คือ Bridgewater Associates ( 150,000 ล้าน USD ) ส่วนที่ใหญ่อันดับสองคือ J.P Morgan Asset Management  ( 59,000 ล้าน USD ) 

4) ปัจจุบัน มีกองทุนเฮดจ์ฟันด์ใน สหรัฐอเมริกา 68% ยุโรป 24% และ เอเชีย 8%

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก หนังสือ " STREET SMARTS " โดย จิม โรเจอร์ 

                 2) โปรดติดตามราบละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ใน longtunbysak.blogspot.com

 


ศักดิ์