หุ้นวัสดุก่อสร้างกำลังโดดเด่น
เมื่อไฮซีซั่น-ช้อปดีมีคืน ดันผลงานโตแกร่ง!!

.
ความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของประชาชน ประกอบกับการเร่งเปิดดำเนินการโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งคอนโด บ้านจัดสรร อาคาร และศูนย์การค้า ทำให้ความต้องการวัสดุก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าฤดูกาล “ซื้อ” จะลากยาวตั้งแต่ไตรมาส 4/65 มาจนถึงไตรมาส 1/66 จากปัจจัยหนุนด้านเทศกาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
.
อีกทั้งเมื่อผ่านพ้นช่วงเก็บเกี่ยวของเกษตรกรมาแล้ว จะเป็นช่วงของการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ทำให้การดำเนินงานในช่วงดังกล่าวของหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มดีขึ้น วันนี้ Wealthy Thai จึงมีคาดการณ์การเติบโตและความเห็นของนักวิเคราะห์ที่มีต่อหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 3 ตัว ได้แก่ HMPRO, DOHOME และ GLOBAL มาฝาก
.
โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดในไตรมาส 4/65 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 1/66 จะยังอยู่ในช่วงฤดูกาล ซื้อ ทั้งเทศกาลปีใหม่และท่องเที่ยว ซึ่งยังมีการจับจ่ายใช้สอยที่ดี ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการรัฐ “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งมีการใช้สิทธิระหว่างเดือน 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2566 ซึ่งกลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์ทั้งจากสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิต Consumer
.
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 1/66 เป็นช่วง High season ของกลุ่ม Home Improvement อย่าง HMPRO, DOHOME และ GLOBAL ซึ่งหลังฤดูเก็บเกี่ยวของกลุ่มเกษตรกร จะเริ่มซ่อมแชมและปรับปรุงที่อยู่อาศัย
.
สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของ HMPRO หรือ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) มุมมองบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ของ HMPRO ไปได้ดี โดยยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) เป็นบวกต่อ คาดไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่มีผลประกอบการดีสุดในปี 2565 เนื่องจากเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยและมีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำท่วมคลี่คลาย
.
โดยประเมินกำไรสุทธิทั้งปี 2565 จะสูงกว่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 หรือสูงกว่าปี 2562 โดยทำ Record high จากยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตดีและการขยายสาขาใหม่ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อของจาก Home mart มากขึ้น
.
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 1/66 คาดจะได้อานิสงค์จากโครงการช้อปดีมีคืนที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 โดยสามารถนำค่าซื้อสินค้าละบริการ (ยกเว้น 10 รายการ) ในช่วง 1 ม.ค.- 15 ก.พ. ไปลดหย่อนภาษีปี 2566 ได้ไม่เกินคนละ 4 หมื่นบาท โดยคำแนะนำลงทุน ซื้อ ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 17.80 บาท อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง คือ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าและเติบโตน้อยกว่าคาด
.
ส่วน DOHOME หรือ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) โดยบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดปี 2566 เข้าสู่ช่วงฟื้นตัว หลังผ่านจุดต่ำสุดในปี 2565 ซึ่งได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาเหล็กและเหตุการณ์น้ำท่วมในเดือนต.ค. 65 ซึ่งยอดขายจะกลับเช้าสู่ภาวะปกติ
.
ทั้งนี้ไตรมาส 1/66 จะเป็นช่วง High season อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากมาตรการช้อปดีมีคืน คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ SSSG และผลประกอบการขยายตัว นอกจากนี้ ยังคาดว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ต่อเนื่องในปี 2566 เพื่อเร่งสร้างเม็ดเงินในตลาด เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ที่จะเพิ่มกำลังซื้อสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน แนะนำ เก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 16.40 บาท
.
สุดท้าย GLOBAL หรือ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยบล.บัวหลวง ระบุว่า คาดกำไรไตรมาส 4/65 และไตรมาส 1/66 ของ GLOBAL จะกลับมาเติบโต ทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า หนุนมาจากอุปสงค์ต่อการซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม การจบฤดูเก็บเกี่ยว และอาจมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายก่อนการเลือกตั้ง โดยประมาณการเติบโตของกำไรปี 2565 ที่ 14% และปี 2566 ที่ 13%
.
ทั้งนี้แม้ว่าจะมีน้ำท่วมบ้างในช่วงต้นไตรมาส 4/65 แต่ GLOBAL ยังเห็นการเติบโตของ SSSG ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/65 นอกจากนี้โดยปกติไตรมาส 1/65 จะเป็นช่วงพีคของการก่อสร้างบ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นคาดจะเห็นกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1/66 จึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก ถือ เป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ที่ 23 บาท