เช็กเลย! หุ้นไหนได้ประโยชน์ เมื่อค่าไฟฟ้าลดเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย
จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยถึงข่าวดีเรื่องราคาพลังงาน โดยเห็นชอบลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 0.11 บาท จาก 4.10 บาท ทำให้เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะเริ่มมีผลทันทีในรอบบิลเดือน ก.ย.นี้ โดยก่อนหน้านี้ Wealthy Thai ได้นำเสนอบริษัทที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบจากปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้นจะพานักลงทุนมาสำรวจบริษัทที่ได้ผลบวกกันบ้าง
เริ่มที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินกลุ่ม COMMERCE ว่า มีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อประเด็นดังกล่าว โดยจะเห็นประโยชน์จากการลดค่าไฟในไตรมาส 4/66 และจะรับรู้เต็มปีในปี 2567 หากอิงค่าไฟต่อหน่วยเท่ากับมติ ครม.ล่าสุดที่ 3.99บาท/หน่วย ลดลง 10% จะทำให้ประมาณการกำไรปี 2567 รวมของกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 5% นำโดย CPAXT เพิ่มขึ้น 8% , CPALL เพิ่มขึ้น 5% และ BJC เพิ่มขึ้น 3%
ทั้งนี้มองว่ากลุ่มค้าปลีกได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางถึงยาว แม้จะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำภายในต้นปีหน้า จากการประเมินเบื้องต้นการขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท จะทำให้กำไรกลุ่มลดลง 6% แต่ถูกชดเชยด้วยการลดค่าไฟ 10% ส่งผลให้กำไรของกลุ่มเพิ่มขึ้น 5% รวมทั้งกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น Digital wallet
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังของปี 66 ของกลุ่มค้าปลีก คาดเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งต้นทุนค่าไฟต่อหน่วยที่ลดลง และหลายบริษัทพยายามเพิ่มส่วนผสมสินค้ากลุ่ม High Margin ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนที่ “มากกว่าตลาด” Top Pick แนะนำ CPALL (ราคาเป้าหมาย 73 บาท) และ DOHOME (ราคาเป้าหมาย 13.60 บาท)
ด้านมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า จากประเด็นครม. มีมติลดค่าไฟรอบเดือน ก.ย. – ธ.ค. เหลือ 3.99 บาท/หน่วย จากเดิมที่มีการประกาศลดไปเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ 4.10 บาท/หน่วยนั้น
โดยมองเป็นผล “บวก” ภาคครัวเรือนในการลดค่าครองชีพ และเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจที่มีสัดส่วนค่าไฟสูง อย่าง CRC, CPALL, CPAXT, HMPRO และ ADVANC แต่เป็น Downside risk เพิ่มต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP อย่าง GPSC, BGRIM, GULF
ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ก็เช่นกัน มีความเห็นว่า มองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก (ค่าไฟ 0.7-2.8% ของต้นทุน), CPAXT รวมถึงสื่อสาร (ค่าไฟ 2-3% ของต้นทุน) ADVANC, TRUE โรงแรม (ค่าไฟ 6-10% ของต้นทุน) ERW
ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า หุ้นได้ประโยชน์จากการลดค่าไฟฟ้ายังมี อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม จากค่าใช้จ่ายส่วนนี้ที่ลดลง
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เปิดเผยว่า ยังชอบกลุ่มที่แนวโน้มต้นทุนไฟฟ้าที่จะลดลง เช่น กลุ่มศูนย์การค้า โรงแรม ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร สื่อสาร โดยแนะนำ CRC, CPN, BJC, CENTEL, ERW, CPALL, CPAXT, AU, M, CBG, TRUE และ ADVANC
ต่อกันที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า ประเด็นนี้เป็นบวกต่อกลุ่มค้า ปลีก, โรงแรม และโรงพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก
ปิดท้ายที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า อัตราค่าไฟฟ้าที่ลดลงเป็นบวกกับหลากหลายธุรกิจและภาคครัวเรือน โดยธุรกิจที่มีต้นทุนค่าไฟฟ้าสูง ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ชม. เป็นต้น หุ้นเด่น คือ ERW, CENTEL, MINT, CPN, CPALL, CPAXT เป็นต้น