ปัจจุบันนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นอกจากจะคาดหวังผลตอบแทนในรูปแบบผลกำไรแล้ว ยังมองไปถึงว่าบริษัทที่เข้าไปลงทุนนั้น มีการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อสังคม และมีธรรมาภิบาลหรือไม่ ซึ่งกลุ่มนักลงทุนประเภทนี้มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เหล่านักวิเคราะห์ รวมถึงสถาบันการจัดอันดับต่างๆได้พยายามจัดตั้งมาตรฐาน กำหนดตัวชี้วัด หรือกรอบการรายงานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมากเพิ่มมากขึ้น นั้นแสดงให้เห็นว่าโลกให้ความสำคัญกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนมากเพียงใด
ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัด ที่ถูกนำมาใช้เพื่อประเมินด้านความยั่งยืนที่ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันดัชนีดังกล่าวได้รับการยอมรับจากทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งในทุกปีจะมีการคัดเลือกบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า 3,500 บริษัททั่วโลกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าบริษัทสูงเป็นอันดับต้น มาเข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจ
ซึ่งนอกจากบริษัทต่างๆ จะต้องทำการประเมิณตนเองให้ผ่านเกณฑ์ชี้วัดของ DJSI แล้ว ในทุกๆปี ถือเป็นความท้าทายสำคัญหากบริษัทใดๆที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในดัชนี DJSI เพราะนั่นหมายถึงการที่บริษัทนั้นๆจะต้องพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าอยู่เสมอ หากไม่ได้คะแนนประเมินของเราอาจจะหล่นจาก top 10 percentile และไม่ได้รับการจัดอันดับให้มีรายชื่อติดอยู่ในดัชนีตัวนี้ในปีต่อไปได้
ซึ่งหากกล่าวถึงบริษัทที่ถูกจัดอันดับเป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของไทย ที่ติดอันดับ การเป็นสมาชิก DJSI ได้ถึง 3 ปีซ้อนและเป็นเพียงรายแรกและรายเดียวที่ติดอันดับ ในประเภทตลาดเกิดใหม่ (emerging markets) ด้วยคะแนนสูงสุดที่ 1 (World Industry Leader) ของโลก คงต้องพูดถึง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่สามารถ คงสถานะเป็นสมาชิกดาวน์โจนส์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 (2560-2563) ดังนั้น อะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้ทรูได้รับการยอมรับระดับโลกต่อเนื่องกันถึง 3 ปี เราจะไปหาคำตอบกัน
เดินตามกรอบ 3H’sที่ทั่วโลกยอมรับ
แน่นอนว่า จุดเด่นสำคัญของ ‘ทรู’ ที่หลายคนนึกถึงคงไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยี, โครงข่าย 4G, 5G และระบบนิเวศดิจิทัลของกลุ่มทรูที่แข็งแกร่ง แต่ทรูก็มีกรอบความยั่งยืน 3H’s ที่ประกอบด้วย ‘Heart’ ‘Health’ และ ‘Home’ ไว้คอยสร้างสมดุลการขับเคลื่อนองค์กรและสังคมบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วน ร่วมพัฒนาสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องโดยเริ่มจาก
HEART มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน
ที่ผ่านมา ทรูได้ดูแลองค์กรและสังคมด้วย ‘หัวใจ’ โดยได้นำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์บริการที่ดีให้แก่ลูกค้า เช่น บริการ iService, VDO Call Services ที่ 50 ทรูช้อป และมะลิ AI ผู้ช่วยออนไลน์ที่พร้อมดูแลลูกค้าทรูให้สะดวกยิ่งขึ้นบนแอป True iService และทรูได้นำแพลตฟอร์ม True Virtual World รวบรวมโซลูชันของกลุ่มทรูที่ให้ทุกคนสามารถทำงาน เรียน และใช้ชีวิตได้ทุกที่ ทุกเวลาไม่ต้องเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
หรือในส่วนของภาคการศึกษา ทรูเป็นส่วนหนึ่งร่วมจัดตั้งการดำเนินงานของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) จัดอบรมผู้นำเทคโนโลยีด้านการศึกษา หรือ ICT Talent สนับสนุนการใช้แอปพลิเคชัน ‘VLEARN’ แก่ผู้อำนวยการและคุณครู ในสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 1,000 โรงเรียน เพื่อช่วยบริหารจัดการสถานศึกษา จัดการเรียนการสอนออนไลน์ และใช้ ‘VROOM’ ห้องประชุมเสมือนจริงเชื่อมต่อผู้เรียนและผู้สอนแบบออนไลน์ รวมถึง นำแพลตฟอร์ม VROOM และ VLEARN ให้เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของมูลนิธิออทิสติกไทย นำไปขยายการใช้งานสู่ศูนย์ส่งเสริมทักษะชีวิตบุคคลออทิสติกในต่างจังหวัดทั่วประเทศ
Health มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน
ทรูได้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ผสานเข้ากับเทคโนโลยี ‘5G’ พัฒนาเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ’VHEALTH’ ส่งเสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ลดความเสี่ยงติดเชื้อ และสามารถดูแลคนไข้ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น เช่น ทำหน้าที่เสมือนพยาบาลที่จะคอยเสิร์ฟยาและอาหารตามที่แพทย์สั่ง, มีกล้องตรวจจับความร้อน เพื่อวัดไข้ผู้ป่วยและแจ้งเตือนได้ทันที, ติดตั้งเจลล้างมือฆ่าเชื้อแบบอัตโนมัติที่ด้านหลังหุ่นยนต์ โดยทรูได้ส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลสนามวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์
ในส่วนขององค์กร ทรูได้จ้างงานผู้บกพร่องทางการได้ยิน ทางสายตา และบุคคลออทิสติก เพื่อสร้างโอกาสและความเท่าเทียม พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเพื่อการทำงานบุคคลออทิสติกแห่งแรกในประเทศไทย
Home มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
ทรูได้นำป้ายผ้าใบโฆษณาเก่ามาใช้ประโยชน์ โดยสร้างสรรค์เป็นกระเป๋า ‘Bag Vertising’ การออกแบบชุดยูนิฟอร์มพนักงานแบบใหม่ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ‘Digital-eco Uniform’ นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังเริ่มการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ หรือSolar Cell ในสถานีฐานกว่า 455 แห่ง
นอกจากนี้ ทรูยังเดินหน้าโครงการ ‘เฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า’ (Elephant Smart Early Warning System) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ WWF ประเทศไทย ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารร่วมกับการใช้กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ (camera trap) เมื่อช้างหรือวัตถุใดๆ เคลื่อนไหวผ่านกล้องจะทำการบันทึก และส่งภาพไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งเตือนให้ผลักดันช้างกลับเข้าพื้นที่ป่า เป็นโครงการนำร่องในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และปลุกจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ด้วยแอปพลิเคชัน ‘We Grow’ เครื่องมือที่ช่วยบันทึกข้อมูลการปลูกต้นไม้ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้เรื่องการปลูกต้นไม้ รวมทั้งสามารถคำนวณปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงจากการปลูกต้นไม้ได้อีกด้วย และร่วมกับองค์กรพันธมิตรจัดฝึกอบรมการใช้ให้แก่อาจารย์ และนักเรียนทั่วประเทศกว่า 10,000 คน
“ความเชื่อของทรูคือ การสร้างนวัตกรรมอัจฉริยะ ที่เข้าใจทุกปัญหา และความต้องการของคนไทย เพื่อสร้างนวัตกรรมและประเทศไทยที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง บนปณิธาน อัจฉริยภาพสู่โลกใหม่ที่ยั่งยืนของเรา”