ในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ จะมีการประชุมระหว่างกลุ่ม OPEC รวมถึง Russia ซึ่งประเด็นที่จับตามองคือ การตกลงคงหรือลดปริมาณการผลิต เพื่อพยุงราคาน้ำมัน
เนื่องจาก สถานการณ์ราคาที่ตกต่ำ ทำให้แทบจะทุกประเทศในกลุ่ม OPEC รวมถึง Russia ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ จนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การเจรจาสำเร็จก็เป็นได้
เรามาลองดูสถานการณ์ของแต่ละรายกัน
Saudi Arabia – รายได้น้ำมันที่หดหาย ทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ลดลงไปกว่า 1.8 แสนล้านเหรียญ จนรัฐบาลต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย รวมทั้งลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และลดการอุดหนุนราคาภายในประเทศ
Russia – เศรษฐกิจถดถอยมากว่า 1 ปีครึ่ง เพราะรายได้น้ำมันลดลง ประกอบกับถูก Sanction อีกต่างหาก
Venezuela – น่าจะเป็นประเทศที่หนักสุดแล้ว เพราะต้นทุนสูง ทำให้ประเทศขาดสภาพคล่องอย่างหนัก จนเกิดเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ เกิดการประท้วงและสภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงขณะนี้
Iran – อาจเป็นประเทศเดียวที่ดูดีหน่อย หลังถูกยกเลิกการ Sanction จากนานาชาติ ทำให้ทยอยส่งออกน้ำมันมากขึ้น แต่ก็จำเป็นต้องเลิกการอุดหนุนราคาในประเทศ กว่า 1.6 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้อิหร่าน ยินยอมคุยเรื่องจำกัดกำลังการผลิตก็เป็นได้
Nigeria และ Libya – เศรษฐกิจถดถอย เพราะนอกจาก จะรายได้หดหายแล้ว ยังเกิดการประท้วง และเหตุการณ์ความไม่สงบภายใน ทำให้ผลิตหรือส่งออกน้ำมันได้น้อยลง
Qatar UAE และ Kuwait – เหล่าประเทศที่ต้นทุนการผลิตถูกมาก แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังต้องลดการอุดหนุนราคาภายในประเทศ รวมทั้งกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย
ทั้งนี้หากมีการตกลงพยุงราคาจริง OPEC เองก็ต้องประเมินว่า มันจะไม่สูงจนเกินไป จนทำให้ ผู้ผลิตรายใหม่ อย่าง Shale Oil สหรัฐ ได้ประโยชน์มากกว่า