ห้องเม่าปีกเหล็ก

ฟัน 3 ธง!

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
69 views

ฟัน 3 ธง! :

1) ฟันธงที่ 1 : ทิศทางของตลาดหุ้นไทยจะขึ้นอยู่กับ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก โดย :

1) ถ้านักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ ตลาดหุ้นไทยก็จะเป็นขาขึ้น และกลยุทธการลงทุนก็คือ Long Set 50 Index Futures 

2) ถ้านักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ ตลาดหุ้นไทยก็จะเป็นขาลง และกลยุทธการลงทุนก็คือ Short Set 50 Index Futures 

เพราะในปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติมีมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 40% นักลงทุนรายย่อย 35% ส่วนนักลงทุนสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อย่างละ 12.5% แค่นั้นเอง

และ ในปัจจุบันคาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นขาขึ้นอยู่ เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ คือ :

" หรั่ง " ซื้อ/ขายหุ้นไทยสุทธิ ( ล้าน บาท ) :

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี พ.ศ 2562  Set Index ปิดที่ 1,625 จุด  โดยนักลงทุนต่างชาติขายสะสมหุ้นไทยสุทธิ -12,892 ล้าน บาท และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562  Set Index ปิดที่ 1,679 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติขายสะสมหุ้นไทยสุทธิ -10,048 ล้าน บาท เพราะฉะนั้น Set Index เพิ่มขึ้น ( 1,679 - 1,625 ) = +54 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ  ( 12,892 - 10,048 ) = +2,844 ล้าน บาท 

1) 3/5/2019        =   -1,663.84

2) 7/5/2019        =      -635.35  

3) 8/5/2019        =   -1,885.16

4) 9/5/2019        =   -2,207.03

5) 10/5/2019      =   -1,600.12

6) 13/5/2019      =      -703.51 

7) 14/5/2019      =   -2,679.23

8) 15/5/2019      =       -847.69

9) 16/5/2019      =    -1,969.73

10) 17/5/2019    =    -1,394.36

11) 21/5/2019    =      +834.38

12) 22/5/2019    =    +2,267.04

13) 23/5/2019    =    -1,512.73

14) 24/5/2019    =      +366.38 ( -13,630.95 และ Set Index ปรับตัวลดลงจาก 1,679 จุด  มาอยู่ที่ 1,599 จุด หรือ ลดลง -80 จุด 

15) 27/5/2019    =       -321.43

16) 28/5/2019    =  +12,534.95

17) 29/5/2019    =    +1,247.82 ( +13,461.34 และ Set Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1,599 จุด มาปิดที่ 1,619 จุด หรือเพิ่มขึ้น +20 จุด ) และนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสะสมสุทธิ -10,218 ล้าน บาท

18) 30/5/2019 = +2,673.95 ล้าน บาท นักลงทุนต่างชาติขายสะสมหุ้นไทยสุทธิ -7,544.63 ล้าน บาท และ Set Index ปิดที่ 1,621 จุด

19) 31/5/2019 = +1,507.93  ล้าน บาท นักลงทุนต่างชาติขายสะสมหุ้นไทยสุทธิ -6,036.70 ล้าน บา และ Set Index ปิดที่ 1,620 จุด 

20) 4/6/2019   = +5,826.05 ล้าน บาท นักลงทุนต่างชาติขายสะสมหุ้นไทยสุทธิ -210.65 ล้าน บา และ Set Index ปิดที่ 1,637 จุด

21) 5/6/2019   = +4,798.10 ล้าน บาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมหุ้นไทยสุทธิ +4,587.45 ล้าน บาท  ล้าน บาท และ Set Index ปิดที่ 1,648 จุด

22) 6/6/2019   = +1,048.25 ล้าน บาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสะสมหุ้นไทยสุทธิ +5,635.70 ล้าน บาท  ล้าน บาท และ Set Index ปิดที่ 1,653 จุด

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.set.or.th )   

                  2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futuresในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com         

2) ฟันธงที่ 2 : พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชาได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 เพราะทําให้บ้านเมืองไทยสงบเรียบร้อยดี แต่ถ้าบ้านเมืองไทยไม่สงบเรียบร้อยดี ก็มีกําลังทหารที่ให้การสนับสนุนเพื่อทําการปฏิวัติได้ตลอดเวลา คือพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ( ผู้บัญชาการทหารบก ) และจากผลงานดังกล่าวข้างต้น จะทําให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้รับการยกย่องให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย

3) ฟันธงที่ 3 : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งให้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้อีกสมัยหนึ่งในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ด้วยผลงานการชนะสงครามการเงินและสงครามการค้ากับจีน และสามารถฆ่าจีนได้สําเร็จ และทําให้สหรัฐอเมริกาดํารงความเป็นมหาอํานาจอันดับ 1 ของโลกต่อไปได้อีกนานเท่านาน และจากผลงานดังกล่าวข้างต้นนี้ จะทําให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับการยกย่องให้เป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา

ส่วนแผนการ และขั้นตอนการฆ่าจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็น่าจะเป็นไปตามขั้นตอน ดังนี้ คือ :

1) ค่อยๆลดดอกเบี้ย Fed Fund Rate แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้จีนตายใจ

2) ปรับขึ้นภาษีสําหรับสินค้าที่เหลืออีกจํานวน 325,000 ล้าน USD จาก 0% เป็น 25% แบบทันทีทันใด เพื่อให้จีนไม่ทันตั้งตัว

3) เมื่อเห็นว่าจีนอ่อนแรงแล้วจากการตกงานของคนงานชาวจีนเป็นล้านๆคน หรือหลายสิบล้านคน ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าอย่างรุนแรง จากการปรับขึ้นภาษีจาก 0% เป็น 25% ของสินค้านําเข้าจากจีนทั้งหมดจํานวน  250,000 + 325,000  = 575,000 ล้าน USD  แล้ว สหรัฐอเมริกาก็จะปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate ขึ้นทันทีทันควัน แบบไม่ให้จีนตั้งตัวอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการตอกฝาโลงศพจีนในหมัดสั่งชุดสุดท้ายนี่เอง! เพราะหนี้สินของจีนสูงถึง 260% ของ GDP ( หนี้สาธารณะ ( 50% ) + หนี้ภาคเอกชน 210% ) )  และทนต่อสภาวะดอกเบี้ยที่สูงๆไม่ได้ และแล้ว เมื่อถึงวันนั้นจีนก็จะประสบปัญหาเงินเฟ้อเหมือนกับที่เกิดขึ้นในเวเนซูเอลาในปัจจุบัน และซิมบับเวในอดีต

และในที่สุดแล้ว ผลที่เกิดขึ้นหลังนั้นก็คือจีนก็จะล่มจม จากการเป็นผู้ที่ทรยศหลักหลังสหรัฐอเมริกา เหมือนกับที่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี ค.ศ 1989 อย่างใดอย่างนั้นเลยหละ คร๊าบ พี่น้อง!


ศักดิ์