VIBHA โรงพยาบาลเกรดบีโตแบบกลยุทธ์เครือข่าย กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง

ลักษณะธุรกิจ
โรงพยาบาลวิภาวดี และเครือข่าย

 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เจาะโมเดลธุรกิจ

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- VIBHA มีเครือข่ายทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งไปร่วมทุนกันโรงพยาบาลต่างๆ

- การวิเคราะห์จำเป็นจะต้องวิเคราะห์ทั้งตัวแม่ และบริษัทร่วมที่อยู่ตามต่างจังหวัดในลักษณะของส่วนแบ่งกำไร

- จุดเด่นของ VIBHA อยู่ที่จำนวนเตียงเยอะ กระจายอยู่ในกรุงเทพ เขตเศรษฐกิจโตเร็วและนิคมอุตสาหกรรม

- บริษัทร่วมของ VIBHA มีกำไรที่ดีขึ้น ทำให้ตัวแม่มีกำไรที่ดีขึ้นตามไปด้วย

- กลุ่มลุกค้าเป้าหมายของ VIBHA ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กลุ่มประกันที่มีเครือข่าย

- ที่ผ่านมา บริษัทเติบโต 6-7% ตัวกำไรโตประมาณ 10-15%

- กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33% และ EBIT Margin 21% และ Net Margin 13%

- ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันค่อนข้างสูง ด้วย P/E 37 เท่า P/BV 4.6 เท่า

- ราคาหุ้นค่อนข้างตึงไปนิดนึง อัพไซด์อาจจะเหลือไม่มาก

- การเติบโตของโรงพยาบาลจะเติบโตได้ต้องอาศัยการควบรวมกิจการ การหวังในเรื่องของการรักษาโรคที่ซับซ้อนอาจจะไม่ได้โตมากนัก

 

 รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ผมมองว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าโรงพยาบาลอันดับแรกคือต้องใกล้บ้าน หรือถ้าจะไปไกลบ้านหน่อยนั้นแสดงถึงความมีชื่อเสียง เป็นชั้นนำเฉพาะทาง คนถึงจะยอมไป

- อย่าง VIBHA เป็นโรงพยาบาลเครือข่าย จะมาวิเคราะห์แต่ละโรงพยาบาลผมว่ามันยุ่งยากเกินไป เราดูแค่ว่า VIBHA เป็นโรงพยาบาลเกรดบี ที่เน้นลูกค้าระดับกลางๆค่อนไปทางสูง มีความเป็นท้องถิ่น

- ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนแถวๆนั้นละ จะมาจากไกลๆก็คงไม่ใช่ ผมว่าโรงพยาบาลจะเติบโตได้ คือ การไปซื้อโรงพยาบาลอื่นเพื่อขยายฐานลูกค้า

- จริงๆแล้วธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงมาก อาจจะโตประมาณ 7-8% เด็กเกินใหม่น้อย เข้าโรงพยาบาลน้อย ในขณะที่ผู้สูงอายุมากขึ้น เข้าโรงพยาบาลบ่อย มันก็ลบล้างหักกัน ก็กลายเป็นเติบโตแต่ไม่มาก

- โรงพยาบาลของภาครัฐ ผมว่าก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งสำคัญนะสำหรับภาคเอกชน แต่เป็นเรื่องโรคภัยไข้เจ็บไม่รุนแรงมาก หรือเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีก็อาจจะเข้าโรงพยาบาลรัฐอะไรแบบนั้น

- โรงพยาบาลเกรดบีก็มีข้อเสียนะ คือเพิ่มราคาค่ารักษาไม่ได้ ถ้าเพิ่มค่ารักษาคนจะเปรียบเทียบกับโรงพยาลของหลวงทันที มีความคุ้มค่ามากแค่ไหน แต่สำหรับโรงพยาบาลเกรดเอ นี้เพิ่มได้เพราะลูกค้าเขาเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีกำลังจ่าย

- แต่โรงพยาบาลเอกชน เขาก็มีชื่อเสียงมานานนะ เข้าไปแล้วสะอาด สะดวกสบาย ไม่ต้องรอนาน บริการดี

- ผมว่าโรงพยาบาลเกรดบีก็ดี พอใช้ แต่ไม่ใช่ Super Stock ที่ราคาจะวิ่งกันไปไกลมาก หรือจะให้ราคาพรีเมี่ยม

- อุตสาหกรรมโรงพยาลมี "คูเมือง" ระดับหนึ่ง ไม่ใช่ใครจะมาเปิดโรงพยาบาลกันได้ ต้องมีมาตรฐาน มีบุคลากร มีชื่อเสียง และลูกค้าก้ต้องใช้เวลาระยะนานมากในการหาลูกค้า

- ผมไม่ได้มีหุ้นโรงพยาบาลในพอร์ตการลงทุน ถามว่าผมสนใจไหม สนใจนะ แต่ด้วยราคาที่แพง เราก็ซื้อไม่ลง

- ที่จริงกลุ่มนี้ถือว่าแปลกนะ อยู่ดีๆมันก็กลายเป็นเมกะเทรนขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทั้งที่มันก็อยู่ในตลาดหุ้นมานานแล้วแต่คนไม่ได้สนใจ

- โรงพยาบาลนี้มีจุดเด่นที่ต้นทุนต่ำ แต่หาเงินง่าย ยิ่งคุณบอกว่าจะไปซื้อโรงพยาบาล แบงค์ปล่อยอยู่แล้วเพราะมีรายได้แน่นอน จ่ายเงินคืนแบงค์ได้อยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะเห็นการเทคโอเวอร์เยอะมากในช่วงที่ผ่านมา แต่เดียวนี้น้อยลงเพราะทุกคนรู้หมดแล้ว โรงพยาบาลไม่ได้ถูก จะซื้อแพงๆก็ไม่คุ้ม

- การลงทุนสร้างโรงพยาบาลเองผมว่าเหนื่อยนะ สู้แบบที่ว่าเราไปซื้อเขาน่าจะดีกว่า มีฐานลูกค้า มีรายได้เลย ณ วันซื้อ

- อย่างไรก็ตาม ผมอยากฝากไว้ว่าถ้าหุ้นที่มี PE สูง ปันผลน้อย ก็ไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน การเติบโตก็ 7-8% โดยเฉพาะโรงพยาบาลท้องถิ่นจะมีปัญหาด้านการเติบโต

- แต่ถ้าลงทุนระยะยาว คือ ยาวจริงๆ ผมว่ามันก็น่าสนใจ

- ผมว่าราคาตรงนี้ค่อนข้างสูงไปเหมือนกัน

-------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model VIBHA โรงพยาบาลเกรดบีโตแบบกลยุทธ์เครือข่าย ช่อง Money Channel

ดูฉบับเต็มได้ที่นี้เลยครับ