Soft Commodity Sector : 2567 ปีแห่งการฟื้นตัว

Soft Commodity Sector : 2567 ปีแห่งการฟื้นตัว

ธุรกิจปศุสัตว์ การผลิตไก่เนื้อปี 2567 คาดว่าจะเติบโต 1.2% YoY และจะรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาดส่งออก เช่น ญี่ปุ่นและจีน ขณะที่การผลิตสุกรในประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นและกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ 19-20 ล้านตัว ซึ่งน่าจะสมดุลกับอุปสงค์ในประเทศตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอย่างอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมายที่จำกัด หลังจากการปราบปรามอย่างเอาจริงเอาจัง เราคาดว่ากำไรของ BTG และ CPF ปี 2567 จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2567 ขณะที่กำไรของ GFPT คาดว่าจะเติบโต 18.5% YoY ปัจจัยหนุนสำคัญของกำไรที่น่าจะปรับดีขึ้นในปี 2567 ได้แก่ 1) ต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง 2) ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น 3) การฟื้นตัวของอุปสงค์จากตลาดส่งออก

ธุรกิจอาหารทะเล องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานว่าผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงกุ้งคาดว่าจะเติบโต 4.8% YoY ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากที่ลดลง 1% ในปี 2566 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีน และการเติมสต็อกอุปสงค์จากสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ จากอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลง อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคายังคงรุนแรงในตลาดขนาดใหญ่จากผู้เล่นหลักอย่างเอกวาดอร์ ขณะเดียวกัน เรามีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจปลาทูน่ากระป๋องและอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะได้ประโยชน์จากต้นทุนปลาทูน่าที่ลดลงในปี 2567 เนื่องจาก TU คาดว่าราคาปลาทูน่าเฉลี่ยในปี 2567 จะต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในปี 2566 ที่ประมาณ 1,800 ดอลล่าร์สหรัฐฯ/ตัน ขณะที่อุปสงค์น่าจะปรับดีขึ้นจากการเติมสต๊อกของลูกค้า

คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่งในปี 2567 เราคาดว่ากำไรรวมของกลุ่มจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญเป็น 2.05 หมื่นลบ. ในปี 2567 จากกำไรรวมปี 2566 เพียง 43 ลบ. (-99.9% YoY) โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำไรของ BTG และ CPF และการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งของ TU ( +45% YoY) และ TVO (+129% YoY) ขณะเดียวกัน เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทอาหารและการเกษตรทั้ง 7 แห่งภายใต้การวิเคราะห์ของเราจะปรับดีขึ้น YoY ในปี 2567 ขณะที่ยอดขายโดยรวมปี 2567 คาดว่าจะเติบโตเพียง 4.3% เนื่องจากอุปสงค์ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น

หุ้นเด่น

GFPT แนะนำ “ซื้อ” Target Price 10.50 บาท

TU แนะนำ “ซื้อ” Target Price 15.10 บาท