ห้องเม่าปีกเหล็ก

จับตาเม็ดเงิน LTF กว่า 2 แสนล้าน ครบสิทธิไถ่ถอนปี 60

โดย Fly to the sky
เผยแพร่ :
77 views
รอเลือกช้อปหุ้นไทยประเดิมไตรมาสแรกปี 2560 หากเกิดการขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจาก Performance ของดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2559 ขึ้นเป็นแชมป์ของตลาดหุ้นภูมิภาค
 
ในช่วงต้นปี มีคาดการณ์ถึงโอกาสจะเกิดการไถ่ถอนหน่วยลงทุน LTF ที่จะฉุดตลาดจากแรงขายที่เกิดขึ้น มาดูกันว่าเม็ดเงิน LTF ที่มีสิทธิขายได้ในปี 2560 จะมีมากน้อยแค่ไหน? 
 
"มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” ประเมินเม็ดเงินลงทุน LTF ที่มีสิทธิขายได้ในปี 2560 มีจำนวนเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 213,913 ล้านบาท ซึ่งรวมทั้งเม็ดเงินที่มาจากการซื้อลงทุนสะสมมามากกว่า 5 ปี และเม็ดเงินที่ครบอายุไถ่ถอนเป็นปีแรก หรือเงินที่ซื้อเมื่อปี 2556
 
"มอร์นิ่งสตาร์ฯ" ระบุถึงสถิติที่ผ่านมา LTF ที่สามารถไถ่ถอนได้ จะมีการขายออกสุทธิเพียงไม่เกิน 5% ของยอดเงินที่สามารถขายได้ โดยผู้ลงทุนส่วนใหญ่จะทำการขายภายในไตรมาสแรกของปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มูลค่าการขายก็ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของกองทุนด้วย
 
โดยสถิติเม็ดเงินไหลออกสุทธิของ LTF ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก พบว่า ในปี 2559 มีเงินไหลออกสุทธิ  7,052 ล้านบาท แบ่งเป็นการขายในเดือนมกราคม 2,496 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2,120 ล้านบาท และในเดือนมีนาคมอีก 2,436 ล้านบาท
 
ในปี 2558 มีเงินไหลออกสุทธิ 7,705 ล้านบาท 
ในปี 2557 มีเงินไหลออกสุทธิ 507 ล้านบาท 
ในปี 2556 มีเงินไหลออกสุทธิ 13,806 ล้านบาท 
และในปี 2555 มีเงินไหลออกสุทธิ 19,119 ล้านบาท 
 
ในช่วงหลังๆ การไถ่ถอนหน่วยลงทุนของ LTF กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ตลาดกังวล ว่าจะเป็นแรงกดดันให้เกิดการขายในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี 
 
จากการวิเคราะห์ของฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินว่าในปีหน้าจะมีเม็ดเงินจากการไถ่ถอน LTF ที่จะครบอายุของปี 2556 อีกมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท และมีต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่ดัชนีระดับ 1,387 จุด คิดเป็นผลตอบแทนกำไรราว 10% 

 
และเมื่อรวมกับความเสี่ยงอื่นๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้ายกลับไปประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ตามการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นของเศรษฐกิจในประเทศ จากนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดัน ทำให้เกิดแรงขายในตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนมกราคมนี้
 
ความเสี่ยงดังกล่าว นักวิเคราะห์ “โนมูระฯ"  แนะนำว่าในช่วงปลายปี 2559 นักลงทุนอาจจะทยอยลดพอร์ตหุ้นลงเหลือ 50% เพื่อป้องกันความเสี่ยงตลาดปรับฐาน โดยเบื้องต้นประเมิน downside ของดัชนีฯ ที่ 1,480 จุด ซึ่งมองเป็นจังหวะทยอยซื้อหุ้นพื้นฐานที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างน่าสนใจในปี 2560 นี้

 

Credit - Money Channel


Fly to the sky