คนจนเมือง: อยู่ใกล้โอกาส...แต่ไกลความมั่นคง
ในเมืองใหญ่ โอกาสทางเศรษฐกิจมักกระจุกตัวอยู่มากที่สุด
งานหลากหลาย รายได้ดีกว่า และมีทางเลือกมากมายให้ขยับขยายชีวิต
แต่สำหรับ “คนจนเมือง” ความใกล้ชิดกับโอกาสเหล่านั้น
กลับไม่ได้แปลว่า “มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์” จากมันจริง ๆ
คำว่า “มั่นคง” สำหรับแต่ละคนอาจมีความหมายต่างกัน
บางคนบอกว่า แค่มีรายได้ประจำก็มากพอ
บางคนเชื่อว่าต้องมีบ้านเป็นของตัวเอง
บางคนตั้งเป้าไว้ว่า ถ้าเก็บเงินได้สักล้าน...ชีวิตถึงจะมั่นคงเสียที
แต่ในชีวิตจริงของคนทำงานในเมืองจำนวนไม่น้อย
แม้จะมี “งานมั่นคง” — กลับไม่มี “บ้านที่มั่นคง”
ไม่มีแม้แต่ “สิทธิ” บนพื้นที่ที่ตัวเองใช้ชีวิต
อยู่ใกล้โอกาส...แต่กลับไม่เคยเป็นเจ้าของอะไรในเมืองนั้นเลย

ลองมองภาพรวมทั้งประเทศ
คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน
คิดเป็นกว่า 52% ของประชากรไทยทั้งหมด
กลุ่มนี้คือแรงงานหลักของประเทศ
แต่กลับเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดในเรื่องที่อยู่อาศัยและความมั่นคงในชีวิต
มากกว่า 9 ล้านครัวเรือน หรือราว 40% ของครัวเรือนทั้งประเทศ
ยังสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้
แต่กว่า 2.7 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 12%
ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านเช่า พื้นที่ชั่วคราว หรือในที่ดินที่ไม่มีกรรมสิทธิ์
เมื่อเจาะลึกลงไปที่กรุงเทพฯ
ภาพความเป็นจริงกลับยิ่งน่ากังวล
แม้คนรายได้น้อยในกรุงเทพฯ จะมีสัดส่วนเพียง 31% ของประชากรเมืองหลวง
น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ
แต่กลับเผชิญปัญหาความเปราะบางด้านที่อยู่อาศัยอย่างรุนแรง
มีเพียง 2 แสนครัวเรือน หรือแค่ 6.8% เท่านั้น ที่มีบ้านเป็นของตัวเอง
ขณะที่มากกว่า 7 แสนครัวเรือน หรือ 24% ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเลย
ในเมืองที่ราคาที่ดินพุ่งสูงต่อเนื่อง
“ที่อยู่อาศัย” กลายเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับคนจนเมือง
แม้จะอยู่ท่ามกลางศูนย์กลางเศรษฐกิจ แต่กลับต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ชั่วคราว ไร้หลักประกัน และไม่มีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง
ตัวเลขที่น่าคิด
คนรายได้น้อยในกรุงเทพฯ มีสัดส่วนน้อยกว่าทั้งประเทศเพียง 0.6 เท่า
แต่กลับมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านน้อยกว่าถึง 5 เท่า
ในทางกลับกัน คนที่ไม่มีบ้านของตัวเองในกรุงเทพฯ
มีสัดส่วนสูงกว่าทั้งประเทศถึง 2 เท่า
ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้สะท้อนแค่ความเหลื่อมล้ำ
แต่คือหลักฐานของ “โครงสร้างเมือง” ที่ไม่เปิดโอกาสให้คนจนสามารถตั้งหลักได้
แม้จะอยู่ในเมืองแห่งโอกาส แต่กลับต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีหลักประกันใด ๆ
เมืองใหญ่จึงไม่ได้เปราะบางแค่ในมิติของเศรษฐกิจมหภาค
แต่กำลังมี “ความเปราะบาง” ที่ซ่อนอยู่ และคนจนเมือง...กำลังเป็นผู้แบกรับอยู่ทุกวัน
แล้ว “คนทำงานในเมือง” คือใคร?
ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...
พวกเขาคือคนที่ขับเคลื่อนเมืองนี้ในทุกวัน
แต่กลับไม่เคย “เป็นเจ้าของ” อะไรเลยในเมืองที่ตนเองดูแล
นี่แหละคือ “คนจนเมือง”
= มีงานทำ แต่ไม่มีทรัพย์สิน
= อยู่ใกล้เมือง แต่ห่างไกลความเป็นเจ้าของ
การอยู่อาศัยในเมือง สำหรับพวกเขา คือการอยู่แบบ “ไม่มั่นคง”
เมืองอาจจะไม่ไล่ใครออกอย่างเป็นทางการ
แต่ในทางปฏิบัติ…มันกำลังผลักพวกเขาออกไปทีละน้อยในทุกวัน
สรุป
แม้ “เมือง” จะเป็นศูนย์รวมของโอกาส
แต่มันก็เต็มไปด้วย “ความเปราะบาง” ที่แทรกอยู่ในทุกซอกมุมของชีวิตคนทำงาน
เมืองให้รายได้...แต่ไม่ให้ความเป็นเจ้าของ
เมืองให้โอกาส...แต่ไม่เคยให้หลักประกันของชีวิตที่มั่นคง
หากวันนี้เราจะพูดถึงคำว่า “ความมั่นคง”
มันไม่ควรหมายถึงแค่ตัวเลขในบัญชี หรือรายได้ต่อเดือน
เพราะสำหรับคนจำนวนมาก
ความมั่นคงที่แท้จริง ต้องรวมถึง “สิทธิในการอยู่อาศัยที่มั่นคง”
ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบ ยืมพื้นที่คนอื่นอยู่ ไปตลอด
ความมั่นคง...ควรเริ่มต้นจากการมี “บ้านให้กลับ” อย่างแท้จริง
.
เรื่องและภาพ: ธนโชติ นนทกะตระกูล Economist, Bnomics
════════════════
ที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก.. Bnomics by Bangkok Bank