ห้องเม่าปีกเหล็ก

โบรกฯ ผวา!ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เล็งหั่นเป้ากำไร บจ. - SET ปีนี้

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
66 views
โบรกฯ ผวา!ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เล็งหั่นเป้ากำไร บจ. - SET ปีนี้
 
 
โบรกฯ เริ่มกังวลดอกเบี้ยขาขึ้น ประสานเสียง กนง.ขึ้นแน่ Q3/65 เตรียมหั่นเป้ากำไรบจ. - SET ปีนี้ ด้าน ASPS ประเมินหากขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งจะกด SET ลงถึง 1,570 จุด ส่วนฟินันเซีย ไซรัส เตรียมปรับประมาณการชุดใหญ่ ด้านหยวนต้าเปิดลิสต์หุ้นเด่นรับดอกเบี้ยขาขึ้น
.
หลังจากวานนี้ คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.50% ต่อปี โดยคณะกรรมการประเมินประเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยปรับจีดีพีจาก 3.2% เป็น 3.3% จากการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเปิดประเทศของไทยและต่างประเทศที่เร็วขึ้น
.
ซึ่งหลังจากผลประชุมออกมาทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลการประชุมดังกล่าวมีสัญญาณที่ชัดเจนที่ กนง.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งแต่ละบริษัทหลักทรัพย์มีมุมมองในการขึ้นดอกเบี้ยและผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้น ดังนี้
.
* ASPS คาดหากขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง จะกด SET มาแถว 1,570 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยฯทำ Sensitivity หากมีการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี จะกดดัน Target SET Index เท่าไหร่? ซึ่งหากอิงจากประมาณการเดิมที่ 1,810 จุด ถ้ามีการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปีนี้อาจกดดัชนีลงมาเหลือ 1,722 จุด และหากมีการขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้อาจกด ดัชนีลงมาเหลือ 1,570 จุด
.
* ฟินันเซียฯ แย้มเตรียมหั่นเป้า EPS - SET ปีนี้
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยว่า การประชุมกนง.ที่เสียงแตก เพิ่มโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ส.ค. มากขึ้น ส่งผลให้ Bond Yield ขยับขึ้นต่อเนื่องและกดดันสินทรัพย์เสี่ยง
.
ทั้งนี้แนะนำทยอยลดพอร์ตบางส่วนระยะสั้นช่วงตลาดปรับขึ้นหาระดับ 1,660-1,680+- จุด จาก Valuation ของตลาดฯที่ค่อนข้างตึงตัว และประมาณการ EPS และ SET Target ปัจจุบันที่ 1,770 จุด มี Downside และอยู่ระหว่างทบทวน ระยะนี้ยังคงเน้นลงทุนในหุ้น Value Play ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 สินค้าบริการจำเป็น ที่มี PER/PBV ต่ากว่าช่วงปี 62 ก่อนมี COVID-19
.
* หยวนต้าคาดเห็นดอกเบี้ยขึ้นปีนี้ครั้งเดียว
บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การขึ้นดอกเบี้ยของกนง. จะอิง 3 ปัจจัยคือ
1) ด้านเศรษฐกิจในประเทศ หากฟื้นตัวเร็วกว่าคาด อาจขึ้นดอกเบี้ยทันทีในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 10 ส.ค.
2) ด้านระยะเวลา อาจรอดูข้อมูลให้รอบด้าน โดยเฉพาะ GDP Q2/65 ของสภาพัฒน์ที่จะประกาศกลางเดือน ส.ค. ก่อนเพราะฉะนั้น การขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วคือ 28 ก.ย.65
3) ผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับประชาชนบางกลุ่ม
.
อย่างไรก็ดี จะให้น้ำหนักกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท รวมถึง ระดับทุนสำรองที่ลดระดับลงต่อเนื่องด้วย เพราะมีผลต่อการเคลื่อนย้ายของกระแสเงินทุน ที่จะส่งผลต่อเนื่องไปยังดุลการชำระเงิน ซึ่งถ้าอิงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยและสหรัฐฯในอดีตที่ห่างกันไม่เกิน 2.00% และคาดการณ์ดอกเบี้ยปลายปีของเฟดที่ 2.75-3.00%
.
โดยยังคงมุมมองเดิมว่า กนง. จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย1 ครั้ง สำหรับการประชุมรอบเดือน ก.ย. หรือ พ.ย.65 เพื่อรักษาส่วนต่างไม่ให้กว้างเกินไป
.
ผลประชุม กนง.ล่าสุดให้ข้อมูลที่ชัดมากว่าจบรอบดอกเบี้ยขาลง แต่ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ
1)จังหวะเวลาที่เหมาะสม และความเป็นอิสระของ กนง. ในการขึ้นดอกเบี้ย
2) ผลกระทบต่อหนี้ครัวเรือนที่สูง 90% ของ GDP ซึ่ง กนง. ประเมินแล้วว่าการขึ้นดอกเบี้ยทุก 1% คิดเป็นภาระ0.5% ของรายได้ครัวเรือน น้อยกว่าการปล่อยให้เงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูงไปเรื่อยๆ ซึ่งกระทบ3.6% ของรายได้ครัวเรือน
.
ขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจ Q3/65 จะฟื้น YoY จากฐานที่ต่ำ และ Q4/65จะได้แรงหนุนจากไฮซีซั่นของภาคท่องเที่ยว
.
* เปิดลิสต์หุ้นรับธีมดอกเบี้ยขาขึ้น
มองเป็นกลางต่อ SET Index ส่วนค่าเงินบาทและ Bond Yield ในประเทศ เราคาดว่าจะไปอิงกับการเคลื่อนไหวของ Dollar Index และ Bond Yield สหรัฐฯมากกว่า กลุ่มที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นได้ดีคือ ธนาคารพาณิชย์, ประกัน, ค้าปลีก,ท่องเที่ยว, อาหารเครื่องดื่ม, การแพทย์, และบริษัทที่มีฐานะทางการเงินเป็น Net Cash ส่วนกลุ่มที่ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวผกผันกับดอกเบี้ย คือ ไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, อสังหาริมทรัพย์, และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แต่คาด Downside ไม่มาก เพราะราคาหุ้นกลุ่มเหล่านี้ มีการปรับฐานลงมารอแล้วระดับหนึ่ง
.
หุ้นแนะนำใน Theme ดอกเบี้ยขาขึ้น คือ KBANK, BBL, BLA, MAKRO, CPALL, TU, MINT, MAJOR, M ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มแบงก์ที่อาจจำเป็นต้องช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการของ ธปท. ต่อไป เราคาดผลกระทบจำกัดมาก เพราะมุมมองของ กนง. ต้องการให้ช่วยกลุ่มเปราะบางแบบตรงจุด มากกว่าช่วยเหลือในวงกว้างเหมือนช่วง COVID-19 ระบาด
 
 
 

DAVINCI