นักลงทุนรายย่อยมักจะมีปัญหาการขายหมู ตกรถ และติดดอย ในภาวะตลาดกระทิง
การขายหมูคือการขายทํากําไรนิดๆหน่อยๆ เมื่อตลาดปรับตัวขึ้นไปซักระยะหนึ่ง โดยหวังว่าตลาดจะปรับฐานลงมาให้เก็บของได้ถูกแล้วเล่นในรอบต่อไป แต่ในข้อเท็จจริง ในภาวะตลาดกระทิง ตลาดมักจะปรับตัวขึ้นแบบต่อเนื่อง โอกาสที่ตลาดจะปรับฐานก็มีบ้าง แต่ไม่มาก ซึ่งทําให้นักลงทุนเสียโอกาสโดยขายออกไปแล้ว แล้วต้องกลับเข้ามาซื้อแพงขึ้นเรื่อยๆ
การตกรถคือ การที่ยังไม่มีของติดมือทั้งๆที่ตลาดปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆแล้วเพราะยังไม่ค่อยมั่นใจว่าตลาดจะยังปรับตัวขึ้นไปเรื่อยๆใหม ความมั่นใจในตลาดขาขึ้นเกิดในขั้นตอนต่อไป คือ ติดดอย
เมื่อตลาดปรับตัวขึ้นไปเรือยๆ เพื่อนฝูงหรือคนที่รู้จักมักคุ้นก็รวยขึ้นไปเรือยๆ เพราะถือหุ้นติดมือ ทําให้เกิดความมั่นใจขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งตลาดปรับตัวขึ้นไปอยู่ช่วงปลายกระทิง แล้วจึงเข้าไปลงทุน แล้วจึงเกิดอาการติดดอยขึ้นมาทันที
ตลาดกระทิงครั้งที่แล้วเกิดขึ้นเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้นมาจาก 380 จุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551 มาเป็น 1,649 จุด เมื่อประมานเดือน พฤษภาคม ปี พ.ศ 2556 ซึ่งถ้าซื้อหุ้นที่ต้นตลาดกระทิงที่ 380 จุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2551 แล้วถือมาขายที่ 1,649 จุด เมือ่ประมาณเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ 2556 ก็น่าจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า และสามารถหลีกเลี่ยงปัญหา ขายหมู ตกรถ และติดดอย ในภาวะตลาดกระทิงได้