ตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งปรับเกณฑ์
หุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50-SET100 ใหม่
หลังพบ DELTA สร้างความผันผวนต่อดัชนี

.
หลังจากที่ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งแรกของปี 2566 ทั้งนี้ส่งผลให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้น DELTA มาอย่างต่อเนื่อง และทำให้ราคาหุ้นของ DELTA ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 990 บาทต่อหุ้น และทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย
.
นักวิเคราะห์หลายแห่งได้ระบุว่า การที่หุ้น DELTA ได้รับการเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 นั้นมีโอกาสที่จะสร้างความผันผวนให้กับดัชนี และการซื้อขายในตลาด TFEX อย่างไรก็ตามความเป็นจริงก็เกิดขึ้น ซึ่งการปรับตัวขึ้นลงของราคาหุ้น DELTA ส่งผลขนาดใหญ่ต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยเนื่องจากด้วยไซส์ของมูลค่าบริษัทมีน้ำหนักต่อดัชนี จึงทำให้เมื่อราคาหุ้นของ DELTA ปรับตัวขึ้นหรือลงก็ส่งผลต่อดัชนี
.
ดังนั้น Wealthy Thai จึงได้สอบถามไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกรณีที่มีบางบริษัทหลักทรัพย์ได้รับการเข้าไปคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์ดังกล่าวสร้างความผันผวนให้กับดัชนี ในจุดนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯมีมุมมองอย่างไร
.
โดยนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า จุดที่สำคัญคือวิธีแก้ไขดังกล่าวมีหลายวิธี ซึ่งตอนนี้กำลังหาวิธีที่ไม่กระทบกับบริษัทอื่นมาก เพราะว่าเกณฑ์ดังกล่าวนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่จะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ แต่ปัญหาคือจะแก้ไขอย่างไร แล้วให้ผลกระทบกับบริษัทธรรมดาให้น้อยที่สุดได้อย่างไร
.
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงกระบวนการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความเชื่อมั่นในตลาดทุน โดยพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์รับหลักทรัพย์ในแต่ละตลาด เช่น SET,mai และ LiVEx ประกอบกับพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์การซื้อขาย การชำระราคา และส่งมองหลักทรัพย์
.
รวมถึงพิจารณาปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบข้อมูล และแก้ไขกฏเกณฑ์ใช้ข้อมูลที่สำคัญ เช่นข้อมูลการถือครองหุ้น และรวมศูนย์ข้อมูลการติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ในด้านต่างๆ อีกทั้งพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์ขั้นตอนการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานอื่นๆ
.
ขณะเดียวกันนายภากร กล่าวต่อว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค ความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน และความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลกจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงดวามเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งใน 3 ปีข้างหน้านี้ (2566-2568) ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
.
ควบคู่ไปกับการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เพื่อให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์แก่ทุกภาดส่วน ตามวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ "To Make the Capital Market 'Work for Everyone" ผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน ดังนี้
.
ด้านที่ 1: ทำตลาดทุนให้เป็นเรื่องง่าย Make fundraising & investment simple) เพิ่มโอกาสการระดมทุน โดยมุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ เข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้ง่ายขึ้นและมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนอุดสาหกรรมใหม่ตั้งแต่กระบวนการให้ข้อมูลและเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจที่มีศักยภาพ และจะมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ต่อยอดจาก LiVE Academy และ LIVE Platform เพื่อให้มีความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งระดมทุน
.
นอกจากนี้จะพัฒนาศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย Thai Digital Assets Exchange : TDX ป็นแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายโทเคนดิจิทัลทั้ง Investmen token และ utility token ในไตรมาส 3/2566
.
เพิ่มโอกาสการลงทุนมุ่งเพิ่มดวามหลากหลายด้วยผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนไม่มากสำหรับผู้ลงทุนรายเล็กทั้งศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (environment-linked) และการขยายเวลาหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มความสะดวกในการลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการเปิดบัญชีลงทุนเพื่อสร้งโอกาสการเข้าถึงตลาดทุนที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
.
ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มของ Settade เพื่อเป็น Market Super App" ในการเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ "Capital Market Super App” ในการเชื่อมต่อโอกาสการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์
.
ด้านที่ 2 ยกระดับมาตรฐานเพื่ออุตสาหกรรม (Move industry & ecosystem with standard) พัฒนาใหม่ภายในไตรมาส 1/2566 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบนิเวสกกรลงทุน และรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่พร้อมยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสำาหกรรม รวมทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไปและระบบซื้อขายใหม่
.
ด้านที่ 3: ร่วมสร้างโอกาสเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัด (Match partners for synergy) พัฒนาการเผยแพร่ข้อมูลผ่าน SMART Marketplace เพิ่มข้อมูลและฟังก์ซันที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน รวมทั้งต่อยอดงานวิจัยแบบ Thematic และ Issue-based เพื่อให้สามารถนำไปใช่ได้จริงในการพัฒนาตลาดทุนด้านต่าง ) มากยิ่งขึ้น
.
ขณะเดียวกัน จะมีการรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สั่งคม และบรรษัทภิบาล (Envionmental, Social and Governance: ESG) ของบริษัทจดทะเบียนมาไว้บน Esc Data Platforn โดยเริ่มเผยแพร่ข้อมูลได้ในไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ จะพัฒนาการจัดทำ ESGRatings เพื่อสนับสนุนการออกสินตั ESG-Linked
.
ด้านที่ 4. ยึดหลักความยั่งยืนเป็นแกนขับเคลื่อนการทำงาน (Merge ESG with substance) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้นำมิติต้าน EsG ขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งกระบวนการภายใน และภายนอกองค์กรโดยทำงานร่วมกับพันธมิตร นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน