4 บริษัทดัง “กลุ่มเซ็นทรัล” กำลังกวาดกำไร

4 บริษัทดัง “กลุ่มเซ็นทรัล”

กำลังกวาดกำไร 1.6 หมื่นล้านบาทในปี 65

.

กลุ่มเซ็นทรัล ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ของไทย โดยเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกและบริการทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ดำเนินธุรกิจหลากหลายแขนง อาทิ ธุรกิจห้างสรรพสินค้า, ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจบริหารและการตลาดสินค้าแฟชั่น, ธุรกิจโรงแรมและ รีสอร์ท, ธุรกิจร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจดิจิทัลไลฟ์สไตล์

.

ดังนั้นในครั้งนี้ Wealthy Thai ได้รวบรวมความน่าสนใจของ 4 หุ้นดังในกลุ่มเซ็นทรัลมาฝากนักลงทุนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น CPN, CENTEL, CRC และ ZEN โดยนักวิเคราะห์คาดปี 2565 CPN มีกำไรสุทธิ 10,297 ล้านบาท โต 44% ส่วน CENTEL คาดพลิกกำไร 224 ล้านบาท ขณะที่ CRC คาดมีกำไรสุทธิสูงถึง 6,296 ล้านบาท โต 10,504% และ ZEN คาดพลิกกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน

.

มาเริ่มกันที่ CPN โดยนักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คงแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2566 ที่ 78.00 บาท จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นหลังการแพร่ระบาด COVID-19 คลี่คลาย การเลือกตั้งทำให้มีกิจกรรมมากขึ้น รวมถึง การกลับมาของนักท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ

.

ขณะที่บริษัทมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทุน CPNREIT 2-3 โครงการภายในปี 2566 ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ คาดกำไรปกติปี 2566 ที่ 1.1หมื่นล้านบาท เติบโต 14.2%จากปีก่อน โดยปี 2566 คาดเห็นการเติบโตในทุกธุรกิจโดยรวมของ CPN ส่วนหนึ่ง ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น โครงการช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 พร้อมการกลับมาของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ

.

สำหรับระยะสั้นเบื้องต้นคาดผลประกอบการไตรมาส 4/65 มีโอกาสเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยคาดการฟื้นตัว เนื่องจากเป็นช่วง High season ส่วนทั้งปี 2565 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 10,297 ล้านบาท เติบโต 44% จากปีก่อน

.

ต่อมา CENTEL โดยมุมมองนักวิเคราะห์บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CENTEL โดยมีราคาเป้าหมาย (ปีฐาน 66) ที่ 59.0 บาท (จาก 51.0 บาท) CENTEL เป็นผู้เล่นโดยตรงกับภาคการท่องเที่ยวที่อยู่ในช่วงกลางของรอบการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง

.

โดยปี 2565-67 คาดว่าจะกลับมามีกำไรที่ 224 ล้านบาท 1.6 พันล้านบาท และ 2.4 พันล้านบาท จากขาดทุน 1.6 พันล้านบาท และ 1.7 พันล้านบาท ในปี 2563-64 ส่วนกำไรก่อนโควิดในปี 2562 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท การฟื้นตัวเห็นทั้งในธุรกิจโรงแรมและอาหาร

.

ในบทวิเคราะห์นี้ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรขึ้น 10/3/5% ในปี 2565-67 และ 15% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2568-76 เพื่อสะท้อนการกลับมาเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่สูงกว่าคาด และประโยชน์จาก operating leverage ในระยะยาว สัดส่วนรายได้ของ CENTEL จากจีนคิดเป็นเพียง 5% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2562

.

ขณะที่ CRC โดยบล.เอเซีย พลัส จำกัด มีความเห็นว่า คาดว่า CRC มีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/65 ที่ 2.4 พันล้านบาท โต107%จากไตรมาสก่อน และโต 3%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มแรงจากไตรมาสก่อน เพราะได้อานิสงค์จากฤดูกาลหนุนรายได้ ขณะที่คุมค่าใช้จ่ายได้ดี

.

ส่วนกำไรที่โตไม่มากเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะฐานสูงในไตรมาส 4/64 ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกือบเป็นปกติ หลังโควิด 19 ที่ระบาดหนักในไตรมาส 3/64 คลี่คลาย

.

ดังนั้นหากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/65 เป็นไปอย่างคาด จะทำให้กำไรโดยรวมของปี 2565 จะมี upside ราว 5% - 6% ของกำไรทั้งปีที่เคยคาดการณ์เอาไว้ เบื้องต้นคาดปี 2565 จะมีกำไรสุทธิ 6,296 ล้านบาท โต 10,504.1% จากปีก่อน โดยมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มประมาณการปี 2566 – 2567 เพิ่มจากที่เคยคาดไว้ที่ 8.1 พันล้านบาท สำหรับปี 2566 และ 1.2 หมื่นล้านบาท ในปี 2567

.

อย่างไรก็ตามแม้ราคาเป้าหมายปี 2566 ปัจจุบันยังอยู่ที่ 48.00 บาท ซึ่งเหลือ upside เพียง 8% จากราคาปัจจุบัน แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CRC เนื่องจาก 1.ระยะสั้นคาดหวังกำไรที่ในงวดไตรมาส 4/65 โต, 2.มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 – 2567 สะท้อนภาพกำไรปี 2565 ที่น่าจะออกมาดีกว่าคาด บวกกับแผนธุรกิจที่ท้าทายของบริษัท และ 3. มี upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ จากธุรกิจใหม่ที่บริษัทมีแผนจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังปี 2566

.

สุดท้าย ZEN โดยมุมมองนักวิเคราะห์บล.โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 ที่ 55 ล้านบาท โต 493%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 9% จากไตรมาสก่อน และกำไรปกติ โต 99%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 9%จากไตรมาสก่อน สูงกว่า Pre covid เป็นงวดที่ 3 แม้คาด SSSG เพิ่มเพียง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

แต่ผลเปิดสาขาใหม่สูง โดยเฉพาะ AKA ที่ยอดขายต่อร้านสูง ทำให้โดยรวมรายได้ (ไม่รวม King marine food ที่รวมงบปี 65) ยังเทียบเท่า Pre covid รวมถึง การบริหารอัตรากำไรยังทำได้ดี โดยรวม 2565 ทำได้ดีกว่าประมาณการราว 3% เบื้องต้นคาดจะมีกำไรสุทธิ 149 ล้านบาท เทียบปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 92 ล้านบาท

.

และคาดกำไรปี 2566 ยังเป็นแผนเชิงรุก โดยเฉพาะการเปิดสาขาใหม่ คาดกำไร 182 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน เริ่มมี Upside risk มองเป็นอีกหุ้น ได้ประโยชน์การบริโภคฟื้นตัว แนะนำ “Trading Buy” ราคาเป้าหมาย 17.5 บาท