ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจความหมายของ “SET INDEX” ว่าคืออะไร? มีผลอะไรต่อนักลงทุนอย่างเราๆบ้าง SET INDEX หรือ ดัชนีตลาดหุ้น เป็นตัวชี้วัดความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญ ที่ทำการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนใหญ่เราจะใช้เพื่อพยากรณ์ทิศทางและแนวโน้มของราคาหลักทรัพย์ในอนาคต รวมทั้งเปรียบเทียบเพื่อประเมินความสำเร็จในการลงทุนทั้งในด้านของอัตราผลตอบแทนและความเสี่ยง
ดังนั้น
วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีภาคอุตสาหกรรมใดบ้าง 3 อันดับแรก ที่ส่งผลต่อ SET INDEX โดยเราจะใช้มูลค่าตามราคาตลาดมาเป็นตัวชี้วัดหรือที่เรียกกันติดปากว่า Market Cap ซึ่งตีความหมายเหมือนกับขนาดของคลื่น ยิ่งสูงยิ่งส่งผลกระทบรุนแรง
Credit: https://www.set.or.th วันที่ 30 เม.ย. 2561
จะเห็นได้ว่าหุ้นกลุ่มบริการมี Market Cap สูงเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 24.68% ตามมาติดๆกับกลุ่มทรัพยากรที่ 22.42% โดยส่วนใหญ่เราจะนึกถึงหุ้นพลังงานเป็นหลัก และสุดท้ายกลุ่มการเงินที่ 15.17% เนื่องจาก Market Cap ที่สูง ทำให้เมื่อราคาหุ้นกลุ่มเหล่านี้มีการเคลื่อนไหว จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของSET INDEX เป็นอย่างมาก
ตัวอย่างหุ้นเด่นที่ส่งผลกระทบต่อ SET INDEX ในแต่ล่ะอุตสาหกรรม
Services Industry
หุ้นกลุ่มบริการที่โดดเด่นเตะตาอย่าง AOT หรือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จากการผูกขาดตลาดและมีรัฐอุ้ม จึงทำให้หุ้นตัวนี้มีความมั่นคงสูง และหุ้น CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ของเจ้าสัวธนินท์ก็เป็นอีกตัวที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เราจะพบร้านของเข้าอยู่ทั่วทุกหัวซอย ซึ่งมีโมเดลธุรกิจหลากหลาย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และอีกตัวที่ตามมาติดๆอย่าง BDMS หรือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งเรามักจะเห็นชาวต่างชาติเดินกันควัก ด้วยกำไรของบริษัทที่เติบโตต่อเนื่องและสังคมผู้สูงอายุที่ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้หุ้นตัวนี้เป็นที่จับตาอย่างมาก
Resources Industry
หุ้นเด่นในกลุ่มทรัพยากร ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เป็นหุ้นที่ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของประเทศอย่าง PTT หรือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร เป็นเหมือนยาหม่องน้ำตราถ้วยทองที่อยู่คู่คนไทยมานาน ตอนนี้แตกพาร์แล้วยิ่งทำให้เข้าไปจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น รวมถึงบริษัทอื่นๆที่ปตท. เข้าไปถือหุ้นใหญ่อย่าง PTTEP และ TOP แต่ยังมีหุ้นเด่นๆอีกหลายตัวที่กำลังเป็นกะแสนิยมอย่างหุ้นพลังงานสะอาด จากปัญหาการใช้พลังงานอย่างบ้าคลั่งในปัจจุบัน ทำให้คนเริ่มกังวลว่าพลังงานจากฟอสซิลกำลังจะหมด จึงผลักดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาดน่าลงทุนไม่น้อย ตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้ เช่น EA หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินธุรกิจหลัก คือ ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและไฟฟ้าพลังงานทดแทน อีกบริษัทที่น่าสนใจอย่าง SPCG หรือ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) นอกจากธุรกิจที่โดดเด่นในด้านโซลาร์ฟาร์มแล้ว ยังเป็นหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูงและมีแนวโน้มเติบโตดีอีกด้วย
Financials Industry
หุ้นกลุ่มการเงินโดยเฉพาะฝั่งแบงค์ ซึ่งเป็น Sector ที่มี Market cap สูงสุดในอุตสาหกรรมและกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมากที่สุด อย่างกลุ่มการเงิน ที่แบงค์ส่วนใหญ่กำลังลดสาขาแทนที่ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ๆบนโลกดิจิตอล หลายแบงค์พยายามปรับตัวและมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด หุ้นที่โดดเด่นและปรับตัวเร็วเป็นอันดับต้นๆ เช่น KBANK (ธนาคารกสิกรไทย) , SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์) และ BBL (ธนาคารกรุงเทพ)
จะเห็นได้ว่า SET INDEX ถูกขับเคลื่อนจากกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ 3 ด้านนี้เป็นหลัก เมื่อมองในมุมของหุ้นรายตัวในอุตสาหกรรมที่สูสีกันอย่างบริการและทรัพยากร ทางฝั่งทรัพยากรจะมีการกระจุกตัวของ Market Cap มากกว่าฝั่งบริการ ดังนั้นหากมีการเคลื่อนไหวของหุ้นใหญ่ในกลุ่มนี้ที่ PTT เป็นผู้นำตลาด ย่อมส่งผลกระทบต่อ SET INDEX มากที่สุด