ข้อเสียของการทำประกันชีวิต ที่เราไม่เคยตระหนักมาก่อน

การทำประกันชีวิต คือการวางแผนการเงินอย่างหนึ่ง ยิ่งสมัยนี้คนมีความรู้และมีมุมมองต่อการทำประกันในแง่บวกมากขึ้น จึงซื้อไว้เผื่อจุดประสงค์หลายอย่าง เช่น ออมเงิน เพื่อการลงทุน หรือแม้แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันก็จะได้รับสิทธิ์ในการชดเชย

ประกันมีอยู่หลายประเภท มีทั้งแบบประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุที่จ่ายเงินทิ้งทุกๆปี หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันชีวิตด้วยมีการออมเงินไปด้วย เราสามารถออกแบบได้ว่าจะออมกี่ปีมีตั้งแต่ 5 ปี - 20 ปี ซึ่งถามว่าดีไหมถ้าจะทำประกัน ? ..

ก็ต้องตอบว่า ดี ....

แต่รู้หรือไม่ว่าการทำประกันชีวิตก็มีข้อเสียเหมือนกัน ไม่ใช่มีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว

เราอาจจะศึกษาข้อดีมาเยอะแล้ว อยากให้หันมาดูข้อเสียบ้าง มีอะไรมาดูกัน

== การทำประกันไม่มีสภาพคล่อง ==
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การทำประกันคือการออม แต่นั้นอาจจะจริงส่วนหนึ่ง เพราะการออมเงินนั้นเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เราสามารถดึงเงินตรงนั้นมาใช้ได้ แต่สำหรับการทำประกันแล้ว ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เราเรียกสิ่งนี้ว่า "สภาพคล่องต่ำ"

การซื้อประกัน คือการออมเงินระยะยาวเลย ต้องใช้เงินเย็นในการซื้อเหมือนทิ้งเงินก้อนนั้นนานนับ 10 ปี ดังนั้นต้องตระหนักให้ดีว่าเงินก้อนนี้ เราจำเป็นต้องใช้มันหรือไม่

== อย่าคาดหวังผลตอบแทนสูง ==
ต้องเข้าใจก่อนว่าการทำประกันไม่ใช่การลงทุน
ดังนั้นอย่าคาดหวังผลตอบแทนว่าเราจะได้เยอะ เพราะมันคือการออม จึงมีความเสี่ยงไม่สูงนัก ถ้าอยากได้ผลตอบแทนสูง นั้นคือการลงทุนด้วยการเพิ่มระดับความเสี่ยง ยิ่งมีความเสี่ยงมากยิ่งได้รับผตอบแทนมาก

ดังนั้น การซื้อประกันโดยคาหวังผลตอบแทนที่สูง นั้นเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก

== เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายมีกำลังส่งไหวหรือไม่ในระยะยาว ==
ข้อนี้สำคัญมากและคนกว่า 80% ไม่ผ่านปัญหาข้อนี้ เลยทำให้เกิดปัญหาส่งแบบครึ่งๆกลางๆ

การส่งช่วง 3-5 ปี แรกรู้สึกว่าสบายมาก พอเริ่มเข้าปีที่ 6 แล้วรู้สึกว่าไม่อยากจ่าย หรือมีปัญหาทางการเงิน ณ เวลานั้น เลยทำให้ไม่สามารถส่งเงินประกันได้ บางคนจำต้องทิ้งกรมธรรม์นั้นไป หรืออาจจะเจรจาขอยืดการชำระไปก่อน บางกรณีสามารถนำเบี้ยสะสมมาช่วยจ่ายได้ ซึ่งจำเป็นจะต้องลองปรึกษากับบริษัทประกันดู แต่คิดว่ามาถึงจุดนี้แล้ว มักจะจบไม่ค่อยสวยสักเท่าไร

ดังนั้นก่อนทำประกัน สิ่งที่ต้องคิดอันดับแก คือ มีกำลังส่งเบี้ยประกันในระยะยาวได้หรือไม่ ...

== การเคลมประกัน ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ==
การเคลมประกันมีเงื่อนไขค่อนข้างเยอะ ผิดไปแม้แต่ข้อเดียวเราไม่สามารถขอเคลมประกันได้เลย แน่นอนว่าถ้าเราเจอเคสที่ไม่ร้ายแรง เช่น ล้มรถ บาดแผลฟกช้ำ หรือเป็นไข้หวัดธรรมดาที่ต้องนอนโรงพยาบาล แบบนี้ไม่มีปัญหา

แต่ถ้าเราเจอกับอุบัติเหตุร้ายแรง หรือโรคที่ต้องรักษาเป็นระยะเวลานานแล้วแทบจะต้องนำกรมธรรม์ไปปรึกษากับโรงพยาบาลเลยว่าได้สิทธ์ตรงไหนบ้าง ค่าใช้จ่ายครอบคลุมตรงไหน

สรุปแล้ว .. การทำประกันมีทั้งดีและเสีย แต่ถ้าวิเคราะห์ในเชิงลึกแล้วมีข้อดีมากกว่าข้อเสียในระยะยาว ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ครบตามกำหนดหรือไม่ ช่วยให้เราวางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น

ทำเถอะ! มันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้น

(... แต่ต้องส่งไหวนะ !!!... ) ** ประเด็นนี้สำคัญ