หุ้นไทยปิดลบ 32.44 จุด รับแรงกดดันหลายประเทศขึ้นดบ.สกัดเงินเฟ้อ

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 16 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 1,561.10 จุด ลดลง 32.44 จุด (-2.04%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,607.19 จุด ต่ำสุดที่ 1,560.94 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 97,738.02 ล้านบาท 

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้นในหลายๆประเทศ ซึ่งเริ่มมีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อที่จะลดการพุ่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่ประเทศไทยเองเริ่มที่จะมีทิศทางที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นเดียวกัน ส่งผลให้มีความกังวลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

นอกจากนี้ช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุด แต่ไม่สามารถยืนได้ และปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญ 1,580 จุด ซึ่งเคยเป็นจุดต่ำสุด ส่งผลให้ภาพรวมทางเทคนิคเสียไป

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย.) มองว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,560 จุด และ 1,550 จุด โดยยังคงต้องติมตามเงินทุนต่างชาติว่าจะมีทิศทางไหลออกหรือไม่ โดยหากเงินทุนต่างชาติไหลออกก็จะมีผลกระทบเข้ามาเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามา พร้อมให้แนวต้านที่ 1,580 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด          

- PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,406.10 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,762.34 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

- BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,178.03 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง0.40 บาท

- BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,168.05 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง1.50 บาท

- ADVANCE มูลค่าการซื้อขาย 2,998.05 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 6.50 บาท