สรุป Clubhouse รับฟังปัญหานักลงทุน โดยฮง สถาพร และทีมงาน
21.02.21
โดย คุณจิม วิตามินหุ้น
คุณฮง สถาพร งามเรืองพงศ์ เปิด Clubhouse เป็นดีเจตอบคำถามเพื่อนๆ นักลงทุนกว่า 3,000 คน ทั้งหมด 17 คำถาม ผมขอสรุปเนื้อหาสำคัญตามนี้นะครับ
=================================
1. มีมุมมองเกี่ยวกับ Bitcoin อย่างไร
ก่อนจะลงทุนอะไรก็ตาม เราต้องประเมินก่อนว่า ความน่าจะเป็นของการลงทุนนั้นเรามีแต้มต่อแค่ไหน เราจะประเมินจากกระแสเงินสด หรือสินทรัพย์อะไรได้บ้างหรือเปล่า ถ้าไม่สามารถหาความน่าจะเป็นนั้นได้ว่าได้มากกว่าเสียอย่างไร ก็จะไม่ลงทุน
ยกตัวอย่างในคาสิโน นักเทรดที่เก่งมาก เล่นไพ่ black jack ด้วยการนับไพ่ว่าออกอะไรมาแล้วบ้าง เป็นการใช้คณิตศาสตร์เพื่อหาแต้มต่อในการชนะพนัน แล้วก็เขียนหนังสือออกมาชื่อว่า Beat the Dealer
อีกตัวอย่างคือ นักวิทยาศาสตร์คนนึงที่ฉลาดมาก (น่าจะเป็น ไอแซค นิวตัน) ยังขาดทุนจากหุ้น South Sea แปลว่า นักธุรกิจเก่งๆ หลายคนที่ไปซื้อ Bitcoin ก็ไม่ได้แปลว่า เขาจะถูกหรือผิดเสมอไป
=================================
2. จะมั่นใจได้อย่างไรที่ซื้อหุ้นและถือยาวเป็นสิบปี เช่น KTC
คุณฮงบอกว่า ซื้อ KTC หลายครั้งมาก ครั้งแรก P/E ต่ำมาก ผู้บริหารเข้ามาลด cost to income เยอะ ตอนนั้นคนในตลาดไม่สนใจ เพราะคิดว่าโตจากการลดต้นทุน แต่ต่อมาทำ top line ให้โตได้ด้วย คุมหนี้เสียได้ต่ำด้วย คุณฮงเลยมองว่าความเสี่ยงต่ำ และเล่นอีกรอบตอน พรบ บัตรเครดิต ที่ราคาลงมาต่ำ และปันผลดีด้วย
=================================
3. เรื่องเทคนิคการแบ่งซื้อ 3 ไม้
การแบ่งไม้ซื้อเป็นการบริหารจิตใจ เหมาะสำหรับคนที่ขวัญอ่อน ตกใจง่าย ทำให้ hold สถานะได้ เพราะถ้าเราเข้าไม้เดียว แสนหุ้น แล้วมันลงเลย เราก็อาจจะมองว่า หรือเราคิดผิด แต่ถ้าทยอยซื้อหลายไม้ ถ้าราคาลง เราจะไม่กดดัน เราก็จะซื้อไม้ที่สองตามช่วงราคา หรือถ้าราคาขึ้น ก็จะยิ่งดี เพราะไม้แรกกำไรไปแล้ว
=================================
4. มีวิธีประเมินหุ้นเทคอย่างไร
หุ้นเทคหลายตัวยังไม่มีกำไร เป็นการมองความคาดหวังว่า รายได้จะโตเยอะ เดี่ยวจะไปกินแชร์อุตสาหกรรมได้ เดี่ยวอีกกี่ปีกำไรจะเติบโตมหาศาล แต่จะไม่กล้าลงน้ำหนักมากกับหุ้นต่างประเทศตัวใดตัวหนึ่งแบบนี้ เพราะมีทั้ง upside และ downside มาก ผิดกับหุ้นไทยที่ยังมีปันผลรองรับ ก็จะกล้าลงน้ำหนักมากกว่า
=================================
5. ทำไมไม่สนใจเรื่องสัญญา TFEX
ไม่อยากเป็นคนบาปของ VI คือ เห็นคนที่ขาดทุนตอน circuit breaker เห็นคนที่ short แล้วขาดทุนตอนหุ้นขึ้นเพราะข่าววัคซีน บางคนต้องเอาบ้าน เอารถมาโปะ เลยรู้สึกไม่ดี จึงไม่ลงทุนทางนี้
กูรูระดับโลกสอนว่า อย่าคาดการณ์ตลาด การที่มีคนพูดว่าตลาดจะเป็นอย่างไร สะท้อนว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้สะท้อนว่าตลาดเป็นอย่างไร
=================================
6. ช่องทางหาความรู้จากเซียน VI หาได้จากที่ไหน
สมัยก่อน ตอนสังคมเล็ก คนกล้าแชร์กันเยอะใน Thai VI ต่างคนต่างเริ่มจากคนไม่มีวิชาอะไร แชร์กัน มี projection ละเอียดๆ ดีๆ แต่ถ้าปัจจุบันคุณฮงแนะนำให้ติดตามเพจหุ้นที่มีความเป็นกลาง ไม่ได้เชียร์หุ้นตัวไหน ก็เข้าไปถามไปดูจากเพจนั้นๆ แทน
=================================
7. สมัยก่อนคุณฮงอ่านข้อมูลหุ้นวันละ 8-9 ชั่วโมง อ่านอะไรบ้าง
>> อ่านหนังสือการลงทุนแทบจะทุกเล่ม ยุคนั้นหนังสือลงทุนดีๆ มีน้อย หลายเล่มเป็นหนังสือ อมตะมาถึงทุกวันนี้ เช่น หนังสือ Peter Lynch ก็จะอ่านวนไปวนมา แต่ยุคนี้คนเขียนหนังสือแบบคิดเองเออเองเยอะ
>> เข้า web borard thaivi ดูว่าคำถามที่ถามไป มีคนตอบหรือยัง เพราะว่าเตรียมคำถามต่อไปไว้แล้ว print ข้อมูลออกมา highlight เย็บเกระดูกงู อ่านทวน จนกว่าเราจะคิดได้แบบนั้น
>> อ่านบทวิเคราะห์เยอะมาก เข้าใจคำศัพท์ที่มี เรียนรู้จากคนอื่น ถามคนอื่นเพิ่มเติม พยายามเข้าใจให้ได้แบบคนๆนั้น
=================================
8. หลักการขายหุ้นเป็นอย่างไร
-- ถ้าถึงราคาเป้า แล้วบริษัทไม่มีอะไรที่ดีกว่าที่เราคิดแต่แรก ก็ขาย
-- ถ้าผู้บริหารมีพฤติกรรมที่ไม่ใช่คนดีๆ ทำกัน ถึงแม้จะยังไม่ถึงเป้า ก็จะลดน้ำหนัก
-- เจอหุ้นตัวใหม่ที่มี upside มากกว่า
=================================
9. แนวคิดการเล่น warrant
เวลาจีบผู้หญิง ดูครอบครัว ดูพ่อแม่ เป็นอย่างไร การอบรมสั่งสอนมาจากพ่อแม่ที่ดี
เวลาดู warrant ก็ต้องดูหุ้นแม่ว่ากำไร กระแสเงินสด การเติบโตค่อนข้างเยอะ โอกาสที่จะทำให้เราขาดทุนถาวรมีน้อย จะหลีกเลี่ยงหุ้นแม่ที่มีความเสี่ยงเยอะอยู่แล้ว ต้องดูหุ้นแม่ให้ขาดก่อน ถึงจะค่อยมาดูหุ้นลูกว่าเป็นอย่างไร แล้วจะได้คำตอบว่าจะลงน้ำหนักกับหุ้น warrant เท่าไหร่
บัฟเฟต บอกว่า การลงทุนที่จะทำให้ขาดทุนถาวรน้อยมากๆ เราจะกล้าลงน้ำหนัก ถ้าคุณ hold ได้นาน คุณน่าจะไม่ขาดทุน
=================================
10. แนวโน้มหุ้นหมูไก่ ยังไปได้ต่อไหม
.
คุณฮงไม่ได้ตามนานแล้ว เคยเล่นรอบก่อน ตอนที่อาหารสัตว์เลี้ยงถูก ต้นทุนลดลง ราคาขายขยับนิดหน่อย PE ต่ำ ให้แนวคิดว่าต้องมองราคาถั่วเหลือง ข้าวโพด แนวโน้มเป็นอย่างไร บางทีเกี่ยวโยงกับราคาน้ำมัน ถ้าขึ้น ก็อาจจะเอาไปทำ ethanol วัตถุดิบก็จะเหลือน้อย
=================================
11. ขายหุ้นไปแล้ว เดือนสองเดือน ราคาวิ่งขึ้นต่อ บริหารจิตใจอย่างไร
ให้ท่องพุทโธ ดูลมหายใจแป๊บนึงก่อน
ให้คิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จเจอทุกคน พอเราขายเสร็จ งบดีเกิดคาด ทำไมมันไม่เก่งขนาดนี้ตอนเราถือ
พอเวลาผ่านมา กำไรมันดีกว่าที่เราคิด มันเป็นส่วนนึงของการลงทุน เราไม่สามารถปิดความเสี่ยงได้ 100% บางครั้งปัจจัยพื้นฐานมีช่วงที่ดีและแย่กว่าที่เราคิด หรือสภาวะตลาดแย่มากๆ หุ้นมันก็ไม่ไปก็มี
โลกความจริง เราไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่คนที่คิดแล้วมันจะเป็นได้ทุกอย่าง ความเก๋า คือ หน้างาน พออะไรไม่เป็นอย่างที่คิด เราตัดสินใจอย่างไร เราวางแผนไว้ดีแล้วหรือเปล่า
ถ้าพื้นฐานเป็นอย่างที่เราคิด แล้วหุ้น under value เราก็ไม่น่าจะต้องรอนานเกินไป ยกเว้นเราซื้อหุ้นถูกเรื้อรัง แบงค์ อสังหา บางตัว เราได้ยิน PE 6 เท่า มาไม่รู้กี่ปีแล้ว มันเป็น P/E 6 เท่า ที่ตลาดจะไม่ให้มันมากกว่านี้ไง มันไม่มีความแข็งแกร่งที่ตลาดจะปรับราคาได้ เราต้องทำการบ้านหนัก เข้าใจจิตวิทยามวลชน ทำการบ้านจนหนักจนมั่นใจให้เราเห็นเป็นคนแรกๆ
=================================
12. ถ้าซื้อหุ้นแล้วไม่ไป มีระยะเวลารอนานแค่ไหน
ก่อนซื้อต้องคิดก่อนว่า กำไรเท่าไหร่ ปีต่อไปจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่ เติบโตเท่าไหร่ ถ้าโตตามที่คิด เราก็รอได้ เราต้องมีแผน ต้องมีตัวเลข เราจะอดทนได้ เพราะตามแผนเรา
=================================
13. อ่านหนังสือ mindset การพัฒนาตัวเอง เล่มไหน
คุณฮงเป็นคนรักการอ่านมาตั้งแต่เด็ก ชอบอยู่ร้านหนังสือแพร่พิทยา อ่านตั้งแต่สามก๊ก อ่านจิตวิทยา ช่วยหล่อหลอมให้เราแข็งแกร่งขึ้น ให้เรารู้ว่าเราควรให้ความสำคัญกับอะไรตอนอายุเท่านี้
หนังสือที่แนะนำคือ หนังสือของ Dale Carnegie มีอยู่ 3 เล่ม เกี่ยวกับ การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน การใช้ชีวิต
=================================
14. แนวทางการลงทุนเมื่อพอร์ตขนาดใหญ่ขึ้น
ตอนพอร์ตเล็ก ยังเล่น CANSLIM ได้ ตอนกราฟทะลุขึ้นไป ซื้อตามได้ ตอนหลุดโยนได้ แต่ตอนพอร์ตใหญ่ ทำไม่ได้ เช่น ถ้าต้องการ 50 ล้านหุ้น แต่ว่าในแต่ละช่องแค่ 7 แสนหุ้น ก็จะทำไม่ได้
ตอนพอร์ตเล็ก ซื้อหุ้นคุณภาพน้อยกว่านี้ แค่คิดว่ากำไรโต ตลาดก็น่าจะโอเค ถ้าผิดเรายังออกได้ง่าย แต่ตอนนี้คัดคุณภาพหุ้นเยอะมาก เพราะถ้าเวลาผิด เวลาออกจะได้ออกยาก ไม่ได้ใช้กราฟแล้ว ดูน้อยมาก
15. แนวทางการลงทุนเมื่อพอร์ตขนาดใหญ่ขึ้น Passion แนวทางในการลงทุนต่างจากเดิมมั้ย
คุณฮงบอกว่า พอร์ตอนนี้มาเกินกว่าที่จะคิด ตอนนั้นอ่านหนังสือ 8-9 ชั่วโมง ใครจะไปคิดว่ามาได้ขนาดนี้ สมมติว่าถ้าขนาดพอร์ตเหลือแค่ครึ่งเดียว ก็ยังมองว่าเหลือเชื่อแล้ว
ตอนนี้เล่นหุ้นเพราะว่าเพื่อนเล่นหุ้น รู้สีกว่ามีกิจกรรมไว้คุยกับเพื่อน เห็นเพื่อนกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ถ้าเราพอจะช่วยแนะนำเพื่อนได้ เราก็ happy เปลี่ยนชีวิตเพื่อนเก่าเราบางคนให้ดีขึ้นได้
=================================
16. วิธีการตรวจสอว่าเรามาถูกทางหรือไม่
ต้องคิดก่อนว่า ตอนนี้ยังไม่รู้อะไร หุ้นกลุ่มนี้มีค่ามากพอให้เสียเวลาไปศึกษามั้ย บางตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่รอดแน่ ก็จะไม่เข้าไปดูเลย
ให้คิดว่าเราเก่งขึ้นจากสิ่งที่เราไม่รู้อย่างไรได้บ้าง คิดก่อนว่าควรจะรู้อะไรบ้าง เราเข้าใจก่อนว่า อุตสาหกรรมนี้ ถูกผลักดันจาก Supply, Demand อย่างไร ใช้เวลากับมันนานหน่อย อย่างน้อยจากสิ่งที่เราไม่เป็น อ่านวนไป ซึมซับไป เราจะเข้าใจมากขึ้น
คุณฮงเคยทำข้อมูลพฤติกรรมหุ้นหลายพันหน้าจนลืมกินข้าวเย็น มองอีกที 3 ทุ่ม เราค่อยๆ ไขความลับของธุรกิจนี้ กำหนดจุดซื้อขายอย่างไร
=================================
17. สถานการณ์ปัจจุบันที่เงินล้นตลาด หุ้นหลายตัว ราคาขึ้น PE ปรับตัวสูงขึ้น จะถือว่าเป็นปกติแบบนี้ไปตลอดไหม
จินตนาการง่ายๆ เหมือนเล่นเกมเศรษฐี มีนายธนาคารแจกเงิน ผู้เล่น 4-6 คน ถ้าตกตรงนี้ซื้อบ้าน ตกซ้ำกลายเป็นโรงแรม และนายธนาคารแจกเงินเพิ่ม 3 เป็น 4 พัน เงินมากขึ้น บ้านมีเหมือนเดิม มูลค่าก็จะมากขึ้น
ไม่มีเหตุผลที่คนจะไม่เอาเงินมาลงทุน ทุกวันนี้ดอกเบี้ยเงินฝากแย่มาก 0.25% หาหุ้นที่มีปันผลก็ยังดีกว่า เทรนด์แบบนี้ก็จะยังมีต่อไป คุณฮงมอว่า มันไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางที่ต้องไป
Sale ขายของ มาดูคลิปคุณฮง คนทำสปา คนขายเสื้อผ้า ก้มาถาม แปลว่า คนสนใจเยอะ คนจะเข้ามามากขึ้น แม้ว่าเงินต่อคนจะน้อย
ขอบพระคุณ DJ ฮง ครับ สำหรับคำตอบที่เป็นแนวทางดีๆ ให้กับนักลงทุนจำนวนมาก มีค่ามากๆ และเป็นกำลังใจที่ดีมากๆ จริงๆ