เปราะบางและขาลง หุ้นไทยปิด 1,267.63 ร่วง 7.53 จุด ตอบรับตลท.ใช้เกณฑ์ปกติ Short Sell สถาบันเทขายลดพอร์ตลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ปิดวันที่ 22 ก.ย. 2563 ที่ระดับ 1,267.63 จุด ลดลง 7.53 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 42,536.46 ล้านบาท สถาบันในประเทศขาย 3,275.67 ล้านบาท  นักลงทุนต่างประเทศขาย 1,417.14 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อ 811.64 ล้านบาทและนักลงทุนทั่วไปซื้อ 3,881.17 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีขึ้นสูงสุดที่ 1,275.27 จุด และลงต่ำสุดที่ 1,262.41 จุด   ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 463 หลักทรัพย์ ลดลง 1,044 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 381 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยซึมลงเรื่อย ๆ ตอบรับปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างติดลบกัน ขณะที่ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้มีความเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งมองเป็นแค่การรีบาวด์หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดในยุโรปร่วงไปถึง 3% ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็ยังติดลบอยู่ จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ ที่อาจจะมีการล็อกดาวน์อีกครั้งทำให้อาจกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก

ส่วนตลาดในประเทศก็ยังมีความวิตกการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 24 ก.ย.นี้ รวมถึงเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้กลับไปใช้เกณฑ์ปกติของราคาขายชอร์ต (Short Sell) เริ่ม 1 ต.ค.63 เป็นต้นไป ซึ่งมองว่าตรงนี้เป็นการเปิดความเสี่ยงขาลง ทำให้นักลงทุนสามารถทำชอร์ตเซลที่ฝั่ง Bid ได้ ซึ่งช่วงที่ตลาดเปราะบางในขณะนี้จากความเสี่ยงหลายปัจจัยทั้งในประเทศ และนอกประเทศ การกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของ Short Sell อาจจะเป็นผลเชิงลบต่อตลาดฯได้

"วันนี้คาดว่านักลงทุนสถาบันได้ลดพอร์ตลงทุน สังเกตได้จากหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งหุ้นในกลุ่มแบงก์, พลังงาน, ICT ต่างก็ปรับตัวลงกัน"

นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดมีโมเมนตัมลงได้เรื่อย ๆ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน และต้องการจะรอดูการชุมนุมทางการเมืองในวันที่ 24 ก.ย.นี้ก่อน พร้อมให้แนวรับวันที่ 23 ก.ย.ในระดับ 1,250 จุด ส่วนแนวต้าน 1,280 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่    

- MINT   มูลค่าการซื้อขาย  2,250.23 ล้านบาท  ปิดที่   21.20 บาท ลดลง   1.40 บาท

- PTT    มูลค่าการซื้อขาย  1,836.18 ล้านบาท  ปิดที่   34.25 บาท ลดลง   0.75 บาท

- AOT    มูลค่าการซื้อขาย  1,527.27 ล้านบาท  ปิดที่   59.00 บาท ลดลง   0.50 บาท

- KBANK  มูลค่าการซื้อขาย  1,409.71 ล้านบาท  ปิดที่   76.50 บาท ลดลง   2.50 บาท

- TASCO  มูลค่าการซื้อขาย  1,276.75 ล้านบาท  ปิดที่   15.40 บาท ลดลง   0.60 บาท

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก