KLINIQ ปรับเพิ่มเป้าหมายปี 2566
จากการประชุม KS C series เมื่อวานนี้ ผู้บริหารของ KLINIQ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 2566 ขึ้น 13% เป็น 2.25 พันลบ. แต่ยังคงเป้าอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 13% โดยผู้บริหารยังคงเห็นรายได้ในเดือนก.ค. ทำสถิติสูงสุดใหม่ และน่าจะต่อเนื่องไปในเดือนส.ค. ซึ่งทุกธุรกิจ ได้แก่ KLINIQ, LabX และศัลยกรรมปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY
เตรียมเปิด 8 สาขาใหม่ในครึ่งหลังของปี 2566 KLINIQ วางแผนเปิดสาขาใหม่ 8 สาขา ได้แก่ LabX 7 แห่ง และ KLINIQ 1 แห่ง โดย 2 สาขาจะตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ส่วนที่เหลืออยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ KLINIQ ได้เปิดสาขาใหม่ 6 สาขาในครึ่งแรกของปี 2566 และจะมีจำนวนสาขาทั้งหมดอยู่ที่ 54 สาขาในสิ้นปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 40 สาขาในสิ้นปี 2565 และสูงกว่าแนวทางก่อนหน้าที่ให้ไว้ที่ 10 สาขา
สำหรับสาขาที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่จำนวน 2 สาขาในไตรมาส 2/2566 จะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนพ.ย. 2566 ขณะเดียวกันจะมีอีก 2 สาขาปิดปรับปรุงในปี 2567 ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าจำนวนสาขาใหม่ต่อปีน่าจะอยู่ที่ 10-15 สาขา โดยมีเป้าหมายสาขารวมในระยะยาวมากกว่า 120 สาขา
บริการใหม่ในครึ่งหลังของปี 2566 ในส่วนของบริการด้านความสวยงาม ผู้บริหารเผยว่าบริการใหม่ที่น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายคือ Hybrid Filler ซึ่ง KLINIQ เป็นคลินิกแห่งแรกที่จะให้บริการ ส่วนของศัลยกรรมจะเพิ่มบริการเฟซล็อค (Face Lock) และการดูดไขมัน เพิ่มขึ้น ซึ่ง KLINIQ ได้แพทย์เพิ่มเติมมาร่วมทีม ขณะที่การเสริมจมูกและเสริมหน้าอกมีแนวโน้มที่ดีในไตรมาส 2/2566
เครื่องมือทางการตลาด ผู้บริหารกล่าวว่าระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าภายใน (internal CRM) ของบริษัทฯ กำลังอยู่ในช่วงการทดสอบ ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อโครงสร้างต้นทุนเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม KLINIQ จะร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้าน CRM เพื่อเพิ่มการขาย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2566
นอกจากนี้ KLINIQ วางแผนที่จะโปรโมตแบรนด์ LabX ในไตรมาส 4/2566 ผ่านทางแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยผู้บริหารมองว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ แบรนด์ KLINIQ และศัลยกรรมได้ช่วยให้ตลาดเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ของ KLINIQ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP กลางปี 2567 ที่ 46.10 บาท ราคาปัจจุบันถือว่าถูกซื้อขายด้วย PER ที่ 20-24 เท่าในปี 2567-68 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 9 เดือนที่ 30 เท่า
