DITTO ประกาศแผนใหญ่!

DITTO ประกาศแผนใหญ่!

เตรียมเข้าประมูลงานใหม่ 5 พันล้านบาท

คาดหวังได้งานทั้งหมด พร้อมปักธงปี 66 รายได้โต 20%

.

DITTO ประกาศแผนเข้าประมูลงานใหม่กว่า 5 พันล้านบาท หวังคว้างานทั้งหมด พร้อมปักธงรายได้ปี 66 โต20% รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมอวดงานในมืออีกกว่า 1.05 พันล้านบาท ทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ลั่นบริษัทร่วมทุน “ดี ที เอ็กซ์” จะมีรายได้อยู่ที่ 300 - 400 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี

.

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐบาลในปี 2566 มูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการภาครัฐ ซึ่งคาดหวังว่าจะได้งานทั้งหมด

.

โดยความคืบหน้าในการเข้าประมูลปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอประกาศทีโออาร์ที่จะทยอยออกมา และได้มีบางส่วนที่ยื่นประมูลงานไปบ้างแล้วหรือราว 5 โครงการ มูลค่ารวม 590 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการที่รอเซ็นสัญญา 3 โครงการ มูลค่า 240 ล้านบาท และที่กำลังจะยื่นประมูล 2 โครงการ มูลค่า 350 ล้านบาท

.

ส่วนภาพรวมธุรกิจในด้านของรายได้ในปีหน้าคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้ 20% ตามการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog)ที่มีอยู่ราว 1.05 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง และจะมีรับรายได้จากธุรกิจให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารที่สร้างรายได้ประจำให้แก่บริษัท ขณะเดียวกันจะพยายามรักษาระดับของอัตรากำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับในอดีตหรือไม่ต่ำกว่า 40%

.

นอกจากนี้บริษัทจะมีการรับรู้รายได้เพิ่มเติมมาจากบริษัทร่วมทุนหรือบริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด หรือ DTX ที่มีแผนจะนำเสนอแอปพลิเคชัน ที่เกี่ยวกับที่ดิน คือ การนำเอา DATA ที่เป็นจริงของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ณ เวลานั้น (Physical) มาวิเคราะห์ในโลกคอมพิวเตอร์ (Digital) เพื่อบริหารความเสี่ยงในการลงทุนในที่ดิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะมีแอปพลิเคชันการบริหารนิคมอุตสาหกรรม โครงการสาธารณูปโภคด้านพลังงาน และการบริหารจัดการน้ำ เป็นต้น ซึ่งบริษัทจะเริ่มบันทึกรายได้เข้ามาช่วงกลางปี 2566

.

ทั้งนี้บริษัท ดี ที เอ็กซ์ จำกัด หรือ DTX เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง DITTO และ TEAMG เพื่อร่วมดำเนินงานโครงการนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดจากความเชี่ยวชาญที่เป็นจุดแข็งของทั้ง DITTO และ TEAMG มาพัฒนาร่วมกัน โดย DTX จะทำธุรกิจที่เป็น Core Technology ที่เรียกว่า Digital Twin ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ทั้งสองบริษัทถือหุ้นเท่ากันฝ่ายละ 50% ของทุนจดทะเบียนและจำนวนหุ้น ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้อยู่ที่ 300 - 400 ล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี