ปีหนูไฟ หุ้นสูญ 4.76ล้านล้าน
นักลงทุนกังวลไวรัสโคโรนา หลังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อนอกจีนเร่งขึ้น ทิ้งหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน 30% มาร์เก็ตแคปวันที่ 13 มีนาคม 2563 วันเดียวหาย 1.5 ล้านล้าน ประกาศเซอร์กิตเบรกเกอร์ 2 วันติด ตลท.ประกาศให้ขายชอร์ตราคาสูงกว่าราคาซื้อขายสุดท้ายชั่วคราว ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2563
หลังไวรัสโคโรนาเริ่มแพร่ระบาดนอกจีนมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในอัตราที่เร่งตัวขึ้นถูกกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่ออกมาประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายฉุกเฉินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลง 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% รวมถึงจะใช้มาตรการครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขณะที่มาตรการของไทยที่ออกมาผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งด้านการเงิน ภาษี และตลาดทุนนั้นยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร จึงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ทำให้ตลาดหุ้นยังคงผันผวนต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม-12 มีนาคม 2563 ปรับลดลง 480.91 จุด หรือ 30.13% ส่วนดัชนีตั้งแต่วันที่ 2-12 มีนาคม 2563 ปรับลดลง 220.81 จุด หรือ 16.53% และดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 มีนาคม 2563 ปิดที่ 1,114.91 จุด ลดลง 134.98 จุด หรือ 10.80% โดยระหว่างวัน มีการประกาศหยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) 30 นาที ในรอบ 11 ปี 4 เดือน และเป็นครั้งที่ 4 ตั้งแต่มีการก่อตั้งตลท. ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) วันเดียวลดลง 1,454,418.61 ล้านบาท และลดลงถึง 4.76 ล้านล้านบาทจากสิ้นปี 2562 และทันที ที่เปิดซื้อขายในเช้าวันที่ 13 มีนาคม 2563 ดัชนีลดลงทันที 111.52 จุด หรือ 10% อยู่ที่ 1,003.39 จุด ทำให้ต้องประกาศเซอร์กิตเบรกเกอร์เป็นครั้งที่ 2 ของสัปดาห์ และครั้งที่ 5 ตั้งแต่มีการประกาศใช้ และเป็นครั้งแรกที่ประกาศใช้ทันทีตั้งแต่เปิดการซื้อขาย
สำหรับการประกาศใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ของตลท.3 ครั้งนั้น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ออกมาตรการกันสำรอง 30% เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติตื่นตระหนกเทขายหุ้นจำนวนมาก ดัชนีลดลงกว่า 142.63 จุดหรือ 19.52% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในวันเดียวในประวัติศาสตร์ตลท.และเป็นการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์เป็นครั้งแรก
ต่อมาวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ตลท.สั่งใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 14.35 น. ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 449.91 จุด ลดลง 50.08 จุดหรือ 10.02% ตามภูมิภาคหลายแห่งที่ร่วงแรงมากกว่า 10% จากความไม่มั่นใจของนักลงทุน หลังวิกฤติการเงินสหรัฐฯ เริ่มลามไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริง ขณะที่วันที่ 27 ตุลาคม 2551 ตลท.สั่งใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 16.04 น. เวลานั้น ดัชนีร่วงลง 10% อยู่ที่ระดับ 389.58 จุด หรือลดลง 43.29 จุด หลังเปิดการซื้อขายอีกครั้งในรอบที่ 2 ดัชนียังคงปรับลดลงต่อเนื่อง โดยปิดตลาดช่วงบ่ายที่ระดับ 387.43 จุด ลดลง 45.44 จุด หรือลดลง 10.50 % ดัชนีตํ่าที่สุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ในภาวะที่ตลาดผันผวนสูงจากปัจจัยภายนอก ตลท.ได้ปรับปรุงเกณฑ์การขายชอร์ต เพื่อใช้เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่การซื้อขายภาคบ่ายของวันที่ 13 มีนาคม- 30 มิถุนายนนี้ จากเดิมที่กำหนดให้สมาชิกจะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่ไม่ตํ่ากว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เป็นการจะขายชอร์ตได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่า จะมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจในการลงทุนให้กับนักลงทุนในภาพรวมได้ และจะพิจารณายกเลิกได้ หากการซื้อขายหุ้นไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย)ฯกล่าวว่าคาดว่าต้น สัปดาห์หน้า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนานอกจีนจะขึ้นถึงจุดสูงกว่าในจีน จากนั้นจะเริ่มเห็นการปิดประเทศเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งจะมีผลดีกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่จะเริ่มลดลง เหมือนกับจีนที่สามารถควบคุมตัวเลขไม่ให้เพิ่มมากขึ้นได้ภายใน 1 เดือน โดยมองว่า จะกระทบกับเศรษฐกิจแน่นอนและจะเห็นมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจต่างๆ ออกมาเรียกว่า เป็นการเจ็บแรงแต่จบเร็ว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมุลจาก